เปิดสเปก GWM TANK 300 HEV รถ SUV พรีเมียมขนาดคอมแพ็กจากจีนคันจริงก่อนเปิดตัวในไทย พร้อมประกาศราคา 28 กันยายน นี้ คู่กับ GWM TANK 500

โดย GWM TANK 300 HEV สเปกไทยนั้นจะแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Pro และรุ่น Ultra ซึ่งราคาคงจะเกิน 1 ล้านบาท ไปพอควรและเป็นการเปิดตลาดพรีเมียม ที่พยายามหรูเทียบชั้นรถยุโรป ออปชั่นล้นแบบจีน แต่จำหน่ายในราคารถญี่ปุ่นคลาสเดียวกัน

สำหรับดีไซน์ของ GWM TANK 300 HEV พยายามใช้สูตรสำเร็จของรถ SUV ทรงคลาสสิกในการสื่อสารถึงความแข็งแกร่งแบบออฟโรดพันธุ์แท้และเท่เหนือกาลเวลาแม้ว่าจะไม่มีตำนานเป็นของตนเอง

ส่วนมิติตัวถังซึ่งยาว 4,760 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,903 มม. และความยาวฐานล้อ 2,750 มม. จัดว่าอยู่ในกลุ่ม SUV ขนาดคอมแพกต์ หรือใหญ่กว่า Honda CR-V อยู่แค่เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม บุคลิกและรายละเอียดเป็นสไตล์ออฟโรดเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกระจังหน้า ไฟทรงกลม คิ้วซุ้มล้อที่แยกชิ้นกับตัวรถ รวมไปถึงประตูฝาท้ายบานสวิงแขวนยางอะไหล่ไว้ท้ายรถ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานโดยไม่ต้องรื้อสัมภาระ เพราะยางอาจรั่วได้จากการลุยพื้นที่กันดาร

แต่อุปกรณ์จะเป็นของร่วมสมัยอย่างชุดไฟหน้า Intelligent LED พร้อม ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ หลังคามีมูนรูฟติดตั้งมาให้ แต่ไม่ใช่แบบ Panoramic ส่วนล้อให้มาเป็นขนาด 17 นิ้ว

ทางด้านภายในของ GWM TANK 300 HEV มาในสไตล์ร่วมสมัย คอนโซลหน้าให้บรรยากาศแบบออฟโรดคลาสสิก แต่ทันสมัยด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 12.3 นิ้ว วางเรียงกัน คู่กับช่องแอร์ทรงกลม ที่ชวนให้นึกถึง Mercedes-AMG G-Class

ขณะที่อุปกรณ์ก็มีให้ทั้งเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบนวด ใช้หนัง Nappa หุ้มเบาะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอิสระซ้าย-ขวา มีระบบกรองอากาศ PM 2.5 และ Ionizer ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ลำโพง 8 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ใช้ของ Infinity รวมถึงติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ส่วนเบาะหลังแยกพับได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระรวมถึงอุปกรณ์กิจกรรมต่าง ๆ

ทางด้านขุมพลังใต้ฝากระโปรงจะเป็นแบบไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 106 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 7 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย และ 4L ตลอดจนระบบล็อกเฟืองขับหน้า-หลัง ให้แรงบิดในทุกล้อเท่ากัน และฟังก์ชัน TANK Turn ช่วยกลับรถในที่แคบได้ด้วยการเบรกล้อหลังด้านในโค้ง

หรือแม้แต่ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ระบบใช้จากกล้องรอบตัวรรถระหว่างการขับขี่รวมกับข้อมูลภาพพื้นผิวถนน เพื่อแสดงเป็นภาพแบบพาโนรามาด้านล่างบริเวณหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบสภาพใต้ท้องรถและหน้ารถก็มีมาให้

และแน่นอนว่า เมื่อ GWM TANK 300 HEV วางตัวเป็นรถ SUV พรีเมียม แถมเป็นรถจีนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการประเคนออปชั่น จึงมีระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่ยาวเหยียด เป็นต้นว่า

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
• ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
• ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
• กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
• ระบบเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
• ระบบเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ระบบรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
• ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
• ระบบช่วยลดความรุนแรงการเกิดการชนซ้ำ (SCM)

GWM TANK 300 HEV จะมีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีส้ม สีดำ สีเทา และสีขาว และเฉดสีรถภายในทั้งหมดสีเดียว ได้แก่ สีดำ แต่ดีไซน์เบาะในรุ่น Pro และ Ultra จะแตกต่างกัน

ที่มา : GWM