.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}
Lotus ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ ภายใต้ร่มเงาของ Geely แบรนด์รถยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน เปิดตัวยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า Eletre ซึ่งเป็นรถ SUV แบบเสียบปลั๊กชาร์จพลังไฟ พร้อมการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Evija ซึ่งเป็นสปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ของแบรนด์ Lotus นอกจากนี้ Eletre จะเป็น EV ใหม่ในสามรุ่นแรกที่ Lotus วางแผนจะเปิดตัวในอีก 4 ปีข้างหน้านี้ รวมถึงรถสปอร์ต (natch) รถเก๋งซีดาน 4 ประตู และ SUV อีกรุ่นหนึ่ง ทั้งหมดจะใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงขับเคลื่อนแทนที่เครื่องยนต์ที่ใช้มานานกว่า 60 ปี




Lotus Eletre ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยทีมวิศวกรทั้งในสหราชอาณาจักร เยอรมนี และจีน จะวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Eletre S และ Eletre R ระบบกันสะเทือนและเทคโนโลยีโครงแชสซี สมรรถนะการขับ การควบคุม และประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ Lotus Type 132 Eletre เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันที่สองของ Geely มีส่วนประกอบที่ล้ำยุคมาก เช่น กระจกมองข้างถูกแทนที่ด้วยกล้องมองภาพความคมชัดสูงทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ของระบบความปลอดภัย และเซนเซอร์ Lidar ที่ติดอยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังของหลังคาเพื่อตรวจจับและเฝ้าระวัง ตามความเหมาะสมของรถสปอร์ตในตำนาน Lotus กำลังเน้นย้ำถึงความสามารถด้านสมรรถนะของเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ Lotus กล่าวว่า Eletre สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในเวลาน้อยกว่าสามวินาที โดยอ้างว่ามีตำแหน่ง “พิเศษ ใน ‘Two Second Club’” ซึ่งรวมถึง Tesla Model S Plaid (ที่เร่ง 0-100 ได้เร็วสุดๆ) อัตราเร่งในระดับนั้น ต้องใช้การปรับแต่งช่วงล่างให้รับมือกับสปีดที่เพิ่มขึ้นอย่างยิ่งยวดพอๆ กับไฮเปอร์คาร์ในการทะยานจาก 0 ไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ, ระบบเสียง KEF Reference 2,160 วัตต์ 23 ลำโพง และล้อขึ้นรูปขนาด 22 นิ้วแบบ 10 ก้าน เฉดสีเทาพร้อมทำผิวแบบ Diamond-turned



Eletre R ติดตั้ง Lotus Dynamic Handling Pack (ประกอบด้วย Intelligent Active Roll Control และ Active Rear Steering) แพ็กเกจชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ Carbon Pack, ยางสมรรถนะสูงรุ่น Pirelli P Zero เคลือบสีล้อโทนดำเงา เพิ่มโหมดการขับขี่แบบที่ 6 คือ Track Mode สำหรับสนามแข่ง จากการทดสอบสมรรถนะที่สนาม Nürburgring ปรากฏว่า Eletre R คือเอสยูวีระบบไฟฟ้า แบบสองมอเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก กำลัง 918 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที แบตเตอรี่ 109 Kwh ระบบชาร์จเร็ว 800 โวลต์ ชาร์จไฟจาก 10-80% ในเวลา 20 นาที หรือชาร์จ 5 นาที จะวิ่งได้ไกล 120 กม. ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว บวกกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้ Eletre R มีแรงฉุดลากสูงถึง 2,250 กก. แบตเตอรี่ 109 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำระยะทาง 455 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟจนเต็มหนึ่งครั้ง จอแสดงผลแบบ Head-up Display ขนาด 29 นิ้ว ในรูปแบบจอเสมือนบนกระจกหน้า ฉายกราฟิกซ้อนทับมุมมองด้านหน้า ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนนในขณะดูข้อมูล ชุดเซนเซอร์ อัปเดตได้แบบ Over-the-air (OTA)




Eletre ทุกรุ่น สามารถเลือกแต่งรถ ด้วยออปชันการตกแต่ง รวมถึงชุดเบาะนั่ง Executive Seat Pack, ชุดเบาะนั่ง Comfort Seat Pack, อุปกรณ์เสริมคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดตกแต่งภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, Parking Pack, และ Highway Assist Pack โดยเลือกเฉพาะออปชันที่ต้องการจากแต่ละแพ็กเกจได้ รวมถึงเฉดสีและรูปแบบการตกแต่งภายในที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย เปิดรับออเดอร์
Lotus รุ่น Eletre S 600 แรงม้า ราคา 5,890,000
Lotus Eletre R 905 แรงม้า ราคา 6,590,000 บาท
กำหนดเริ่มส่งมอบรถตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป


การออกแบบที่ชาญฉลาด Eletre มีหน้าตาที่ก้าวร้าว ไฟหน้า LED ทรงเฉี่ยว กระจังหน้าแบบปิดทึบโชว์รายละเอียดบนกระจังด้วยงานพลาสติกที่หรูหรา แนวหลังคาที่เหมือนรถเก๋งแฮตช์แบค นักออกแบบของ Lotus ดึงประสบการณ์ที่ชัดเจนในการสร้างรถสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวออกมาใช้ แม้ว่าสัดส่วนจะเหมือน SUV อย่างไม่มีที่ติ แต่ Eletre จะเล็กกว่า Urus


Lotus Eletre มีตัวเลขสมรรถนะเกือบจะเท่ากับกระทิงเปลี่ยว Urus แต่วิ่งได้ไม่ไกลเท่าเนื่องจากกระทิงเอสยูวีนั้นยังคงใช้เครื่องยนต์ V8 TwinTurbo ที่เผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างโหดเหี้ยม มอเตอร์คู่ประสิทธิภาพสูงของ Eletre สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าของแบรนด์ Lotus อย่างมากในด้านของอัตราเร่ง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการผลิตห้าประตูคันแรก โมเดลรถเอสยูวีที่ไม่ใช่รถสปอร์ตรุ่นแรกของ Lotus และรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับไลฟ์สไตล์รุ่นแรก ภายใต้ร่มเงาของ Geely ที่ทุ่มเงินจนสร้างความสำเร็จให้กับ Volvo มาแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์คันแรกของบริษัทที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งบริษัทแม่อย่าง Geely ตั้งอยู่ด้วย

Lotus Eletre ระบบควบคุมโครงแชสซีรวม แบบ 6D ติดตั้งระบบกันสะเทือนอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบมัลติลิงก์พร้อมสปริงลม dual-chamber ระบบหน่วงกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ผันแปร ระบบบังคับเลี้ยวกลไกไฟฟ้า ระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังแบบแอ็กทีฟ ยาง Pirelli สมรรถนะสูง ระบบเบรกออปชันเสริมด้วยคาลิเปอร์หกลูกสูบและเบรกคาร์บอนเซรามิก


Eletre ออกแบบให้มีคุณภาพการขับและความคล่องตัวตามมาตรฐานของ Lotus สร้างขึ้นบนโครงสร้างแบบโมดูลาร์ Electric Premium Architecture (EPA) แพลตฟอร์ใหม่ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้า จุดศูนย์ถ่วงต่ำ วางแบตเตอรี่ไว้ระหว่างเพลาและใต้ท้องรถ การใช้วัสดุขั้นสูงยังทำให้โครงแชสซีมีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ส่วนประกอบหลักอื่น ๆ ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์เพื่อลดน้ำหนัก โดยคิดเป็น 43% ของแพลตฟอร์ม และ 50.7% ของโครงสร้างตัวถังทั้งหมด เสริมประสิทธิภาพด้วยเหล็กกล้ากำลังสูงและวัสดุคอมโพสิตน้ำหนักเบา

Eletre ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ 112kWh ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าน้ำหนักเบาและอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ขั้นสูง Eletre รุ่นพื้นฐาน มีกำลังมอเตอร์คู่ 603 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที และวิ่งได้ระยะทาง 600 กม. ในขณะที่ Eletre R ให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า และวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. มีระบบชาร์จพลังงานกลับคืนในขณะเบรกแบบปรับระดับการประจุพลังงานได้ตามต้องการ กำลังลากสูงถึง 2,250 กิโลกรัม

Eletre มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน 0.26 ติดตั้งกระจังหน้าแอ็กทีฟแบบปรับแต่งได้เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสม ระบบจะเปิดขึ้นเมื่อขับขี่แบบ Track Mode กระจกมองหลังจอแสดงผลไฟฟ้าถูกติดตั้งแทนที่กระจกแบบเดิม เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและลดแรงต้านลม 1.5% เพิ่มระยะการมองเห็นให้กว้างขึ้น เซนเซอร์ LIDAR แบบพับเก็บได้เชื่อมโยงกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง สปอยเลอร์หลัง ปรับเปลี่ยนตำแหน่งไปตามสภาพการขับโดยอัตโนมัติ ช่วยลดแรงต้าน 1.8%


ห้องโดยสาร ค็อกพิตระบบดิจิทัล (Digital Cockpit) ติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm และระบบปฏิบัติการ Lotus Hyper OS พร้อมระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 5G การอัปเดตผ่าน OTA ระบบสั่งงานด้วยเสียง หน้าจอ OLED ติดตั้งหลายตำแหน่งเพื่อให้สามารถใช้งานระบบนำทางขั้นสูง แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ห้องโดยสารยังมีระบบเสียง KEF คุณภาพสูง มาพร้อม Dolby Atmos และแอปพลิเคชันเพื่อการควบคุมระยะไกล หลังคาพาโนรามา



ระบบความปลอดภัย เซนเซอร์ 34 ตำแหน่ง ชิปเซ็ต NVIDIA Orin-X จำนวน 2 ตัว สนับสนุนการขับขี่อัตโนมัติแบบ Level 4 ส่วนฟีเจอร์ Highway Assist ช่วยบริหารความเร็วและจัดตำแหน่งรถยนต์ในช่องทางเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 30-150 กม./ชม. ระบบ Driver Monitoring System แจ้งเตือนหากผู้ขับขี่เกิดอาการเหนื่อยล้า หรือเสียสมาธิ ระบบ Life Detection and Care จะช่วยป้องกันการปล่อยเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ เมื่ออากาศร้อนจัด แจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินหากเกิดเหตุจำเป็น



รูปลักษณ์ภายนอกของ Eletre เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของอากาศและแรงต้านที่น้อยลง องค์ประกอบต่างๆ เช่น ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้าและซุ้มล้อ ดีไซน์ด้านหน้าดู ไฟ LED กระจังหน้าแบบแอ็กทีฟ ระบบเซนเซอร์ LIDAR วางตำแหน่งอย่างประณีตเช่นเดียวกับรถรุ่นคลาสสิกของโลตัสอย่าง Emira และ Evija ด้านข้างมีลักษณะโค้งมนตามหลักอากาศพลศาสตร์ ติดตั้งกระจกบังลมสูงและ “air blade” แบบพิเศษบนโครงสร้าง D-pillar แถบไฟที่ยาวตลอดความกว้าง เปลี่ยนสีเพื่อระบุสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ สปอยเลอร์หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์เป็นจุดติดตั้งเซนเซอร์ LIDAR


Eletre จะถูกสร้างขึ้นบน Electric Premium Architecture แพลตฟอร์มใหม่ของ Lotus ซึ่งเป็นการออกแบบในลักษณะ “สเกตบอร์ด” พื้นต่ำที่มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับขนาดของแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน รูปแบบส่วนประกอบต่างๆ และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ Lotus แจ้งว่า มีความชาญฉลาด ที่แตกต่างจากรถคู่แข่ง (ตรงไหน?) สำหรับ Eletre นั้น Lotus อ้างว่าจะรวมถึง “เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติแบบ end-to-end” และความสามารถในการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงระดับพรีเมียมจากโลตัส



ห้องโดยสารออกแบบที่นั่งคนขับให้เป็นศูนย์กลางการควบคุมพร้อมคอนโซลทรงสูง ใช้วัสดุพรีเมียมและ Option layout แบบ 4 ที่นั่ง หลังคาพาโนรามา มีการนำดีไซน์รูปสามเหลี่ยมมาใช้ในองค์ประกอบต่าง ๆ ระบบชาร์จไร้สาย ที่วางแก้วแบบพับซ่อนได้ ช่องเก็บสัมภาระข้างประตูขนาดใหญ่ Option เบาะที่นั่งทั้งแบบเส้นใย Re-Fibre รีไซเคิลจากขยะแฟชั่น พรม Econyl ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%



Lotus Eletre ไฮเปอร์เอสยูวีระบบไฟฟ้า กลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Lotus ที่มุ่งสู่ยุคยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ วัสดุน้ำหนักเบา ระบบถุงลมกันสะเทือนแบบแอ็กทีฟ, ระบบควบคุมการหน่วงต่อเนื่อง, ระบบแรงบิดเวกเตอร์, ระบบ Lotus Intelligent Dynamic Chassis Control, ล้อขึ้นรูปขนาด 23 นิ้วแบบ 5 ก้าน เคลือบผิวแบบ Diamond-turned (รุ่นมาตรฐานในตลาดเมืองไทยจะใช้ล้อขนาด 22 นิ้วแบบ 5 ก้าน), ไฟหน้า Matrix LED, ระบบ Adaptive Cruise Control, ระบบ Visual Park Assist, ระบบปรับอากาศ 4 โซน, เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง, เทคโนโลยีแสดงผลบนกระจกหน้ารถแบบ Head-up Display, ระบบ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมถึงระบบเสียง KEF Premium Audio 1,380W ลำโพง 15 ตำแหน่ง นอกจากระบบมาตรฐาน ยังครบครันด้วยฟีเจอร์อื่น ๆ อาทิ การปิดประตูแบบนุ่มนวล, กระจกเคลือบดำเพิ่มความเป็นส่วนตัว, สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟ, ระบบไฟตกแต่งในห้องโดยสารที่ตั้งค่าได้, กาบประตูเรืองแสง



ระบบขับขี่อัตโนมัติแบบ end-to-end Lotus หมายถึงความสามารถในการจอดรถด้วยตนเอง (นั่นเกือบทุกบริษัทก็ทำได้มานานแล้ว!) บริษัทจากอังกฤษที่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากจีนกล่าวว่า “ลูกค้าสามารถใช้แอปฯ บนสมาร์ทโฟนของตนเพื่อขอให้ Eletre ขับรถจากที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงมาหาพวกเขาโดยอัตโนมัติ จากนั้นเมื่อลงจากรถแล้ว Eletre จะเข้าสู่ระบบจอดรถโดยอัตโนมัติเมื่อการเดินทางเสร็จสิ้น โดยขับไปหาที่จอดเอง!” ระบบขับอัตโนมัติขั้นสูง จะถูกเพิ่มในภายหลังผ่านการอัปเดตทางอากาศ ผ่านเครือข่าย 5G




Eletre จะมาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงแบบเรียงตามตัวอักษร: Intelligent Adaptive Cruise Control (ACC); ด้านหน้า ป้องกันการชนปะทะด้านหน้า (CMSF); ข้อมูลป้ายจราจร (TSI); คำเตือนเปิดประตู (DOW); การแจ้งเตือนการจราจรทางด้านหลัง (RCTA); Front Cross Traffic Alert (FCTA); ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA); การตรวจจับและการแสดงตนของเด็กในรถ (CPD); Lane Keep Aid ระบบเตือนการออกจากเลนและการป้องกัน (LKA+); เบรกฉุกเฉิน (PEB); ป้องกันการชนด้านหลัง (CMSR); และหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน (E-Call) อย่างไรก็ตาม Eletre ยังคงต้องมีการควบคุมดูแลจากผู้ขับขี่ตลอดเวลาเช่นเดิม
Geely ซื้อหุ้นใหญ่ใน Lotus เมื่อปี 2560 และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทจีนได้เพิ่มเงินลงทุนตั้งแต่ Volvo บริษัทพัฒนายานบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งด้วยระบบไฟฟ้า รวมไปถึงพอร์ตโฟลิโอ แม้กระทั่งก่อนการเปิดตัวของ Eletre ค่าย Geely ยังได้รับชื่อเสียงเมื่อทำการฟื้นคืนชีพให้กับแบรนด์ที่ล้าสมัย เช่นเดียวกับที่เคยทำกับ Volvo หรือแบรนด์ Polestar ของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดนให้กลับมาทันสมัยและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/