วันอาทิตย์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568, 12.54 น. นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน “โครงการยกระดับการพัฒนาและส่งเสริมอาหารฮาลาล 5 จังหวัดชายแดนใต้ สู่ตลาดโลกแบบครบวงจร” ว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้(สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) จัด “โครงการยกระดับการพัฒนาและส่งเสริมอาหารฮาลาล 5 จังหวัดชายแดนใต้ สู่ตลาดโลกแบบครบวงจร” ระหว่างวันที่ 4-9 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการจัดงานดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักยภาพที่มีผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถผลิตอาหารฮาลาลที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น และมีความพร้อมในเรื่องของวัตถุดิบขั้นพื้นฐานที่หลากหลาย อีกทั้งมีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญในการผลักดันให้อาหารและเครื่องดื่มฮาลาลไทยให้มีโอกาสเติบโตได้ในตลาดโลก สำรับการจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานพันธมิตร 4 หน่วยงาน คือ 1. DITP  ,2.สำนักงานพาณิชย์ 5…

ในปี 2024 ที่ผ่านมา ร้านอาหารจากแดนมังกรหรือ “ประเทศจีน” ก้าวขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับต้นๆ ทั้งในตลาดจีนและตลาดโลก ด้วยกลยุทธ์ “สงครามราคา” ตั้งแต่ร้านอาหารขนาดเล็กเสนอเมนูอาหารเช้าราคาถูก ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง BYD ที่ลดราคารถยนต์ลงอย่างมากเพื่อ “ดึงดูด” ผู้บริโภคในการแข่งขันที่ดุเดือด ทว่ากลยุทธ์ “สงครามราคา” จากธุรกิจอาหารจีน ไม่ได้ใช้ล้มเจ้าถิ่นในตลาดต่างประเทศเท่านั้น เพราะกว่าธุรกิจจีนเหล่านี้จะขึ้นมาเทียบชั้นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดใหม่ได้สำเร็จ อาจจะต้องเป็นผู้ชนะการแข่งขันในประเทศ จนมีผู้แพ้กว่า 3 ล้านแห่ง “สงครามราคา” ถล่มร้านอาหารจีน 3 ล้านแห่งปิดตัว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนซบเซา การเปิดร้านอาหารเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เผชิญความยากลำบาก ต้องเจอการแข่งขันที่ดุเดือดถึงขั้น “ขาดทุน”  ทำให้ร้านอาหารต่างๆ ต้องแข่งกันลดราคาอย่างหนัก บางร้านขายกาแฟแก้วละ 9.9 หยวน (ประมาณ 70 บาท) หรืออาหารชุดสำหรับ 4 คนในราคา 99 หยวน (ประมาณ 500 บาท) ซึ่งถือว่าราคาถูกอย่างมากในจีน ข้อมูลจาก Qichacha ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จดทะเบียนบริษัทจีนระบุว่า ในปีที่ผ่านมาจำนวนบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทั่วประเทศปิดตัวลงสูงเป็นประวัติการณ์ เกือบ 3 ล้านแห่ง…

สะดวกแบบนี้! หญิงสาวแซ่หวง วัย 26 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านวารสารศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของจีน อย่างมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ตกเป็นที่วิจารณ์ของชาวเน็ต หลังเธอเลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยทันทีที่เรียนจบหวงเล่าว่า ช่วงที่เป็นนักศึกษา เธอเคยฝึกงานที่บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่และเอเจนซี่สื่อเจ้าดังของรัฐ ทว่าด้วยแรงกดดันและความเครียดจาก KPI (ดัชนีชี้วัดผลงาน หรือความสำเร็จของงาน) ที่เข้มงวดของสถานที่ฝึกงาน ทำให้หวงไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เรียกว่าในหัวมีแต่ งาน งาน และงาน ทั้งยังต้องคอยตอบคำถามหัวหน้าตั้งแต่ฟ้าสว่างยันมืดค่ำ จนทำเอาเธอรู้สึกเข็ดขยาดไปเลยทีเดียว พอเรียนจบหวงก็เลยเปลี่ยนสายงาน สมัครเป็นพนักงานโรงอาหาร รับเงินเดือน 6,000 หยวน (ประมาณ 28,140 บาท)ต่อเดือน ซึ่งบรรยากาศและการทำงานนั้นช่างแตกต่างกับตอนที่เธอฝึกงานอย่างลิบลับ โดยนักศึกษาจะเรียกเธอด้วยความรักและเคารพว่า “คุณแม่หวง” งานของหวงนั้นเริ่มต้นตั้งแต่เช้าตรู่และต้องยืนทำงานเป็นเวลานานๆ ซึ่งหน้าที่ของเธอ คือ การตักอาหาร และหั่นผักจำนวนมาก “ฉันจำได้ว่าครั้งหนึ่งฉันต้องหั่นพริกทั้งตะกร้า” หวงกล่าว พร้อมเสริมว่ามือของเธอบวมไปหมด ก่อนที่จะหายดีในวันรุ่งขึ้น แม้ตอนแรกเธอจะเหนื่อยกับงานนี้มาก แต่หลังจากปรับตัวได้ และค้นพบว่าการนอนหลับพักผ่อนที่ดีสามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ก็ดีขึ้น แน่นอนว่า พ่อแม่ของหวง ซึ่งมาจากพื้นที่ชนบทในมณฑลหูหนาน และทำงานเป็นคนขับรถบัสทั้งคู่ ต่างไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนี้ พวกเขากังวลเรื่องเงินเดือน…