มิติหุ้น  –  AIS ร่วมกับ กสทช., คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เดินหน้ายกระดับวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ“รถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ” ล่าสุดขยายความร่วมมือไปยังพื้นที่จังหวัดน่าน หน่วยปฏิบัติการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว โดยนำระบบดิจิทัลเสริมประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมองทั้งระบบ ตอกย้ำการทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้มีความแข็งแรง สามารถเชื่อมต่อการทำงานได้กับทุกภาคส่วน อีกทั้งยังช่วยสร้างประโยชน์ ลดความเหลื่อมล้ำและเติมเต็มโอกาสให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์และงานสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทันท่วงที อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยในทุกมิติ นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “นอกเหนือจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้มีความแข็งแกร่งครอบคลุมทุกพื้นที่การใช้งานแล้ว วันนี้ AIS ยังมีความพร้อมเป็นอย่างมากต่อการนำศักยภาพของ 5G มาเชื่อมต่อการทำงานกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าและคนไทย โดยตั้งแต่ปี 2561 ได้ร่วมพัฒนารถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่หรือรถ Mobile Stroke Unit-Stroke One Stop (MSU-SOS) ซึ่งเป็นรถพยาบาลเคลื่อนที่ที่มีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโดยเฉพาะ เปรียบเสมือนการนำโรงพยาบาลไปสู่ชุมชน ที่ต้องอาศัยศักยภาพของเครือข่ายความเร็วสูงที่มีเสถียรภาพ เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยและการแสดงภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพื่อการวินิจฉัยระหว่างทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ไม่มีสะดุด เป็นการนำนวัตกรรมทางการแพทย์ ผ่านเทคโนโลยีโครงข่ายมาสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในพื้นที่ห่างไกล ที่ในปัจจุบันมีจำนวน 7 คันทั่วประเทศ” แม้ว่าภาคเหนือจะมีความท้าทายอย่างมากในการขยายโครงข่ายสัญญาณ ด้วยข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ที่เป็นภูเขาและพื้นที่สูง การเข้าถึงของแหล่งพลังงานไฟฟ้า แต่ทีม AIS ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการนำนวัตกรรมโครงข่ายมาผสมผสานเพื่อขยายความครอบคลุม ทำให้สามารถส่งมอบบริการดิจิทัลและโซลูชันที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ 5G CPE ที่สามารถรองรับการกระจายสัญญาณภายใน Mobile Stroke Unit-Stroke One Stop (MSU-SOS) ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการแจ้งเหตุ การให้คำปรึกษาของทีมแพทย์และบุคลากร…

บุกโกดัง ลักลอบผลิตเครื่องสำอาง-อาหารเสริม ผิดกม. ยึดของกลางกว่า 7 หมื่นชิ้น ส่งตรวจ หากพบสารต้องห้ามแจ้งข้อหาเพิ่ม เมื่อวันที่ 10 มกราคม พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. สนธิกำลังร่วม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา บุกทลายโกดังจัดเก็บและกระจายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง แห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ก่อนสามารถตรวจยึดของกลางได้ 12 รายการ รวม 72,797 ชิ้น มูลค่ากว่า 2,549,000 บาท VIDEO CONTENT AVERTISEMENT สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ามีโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ลักลอบผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ออกวางจำหน่ายตามท้องตลาด โดยจะจัดเก็บสินค้าที่โกดังจุดดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ก่อนพบว่ามีการลักลอบนำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผิดกฎหมายมาเก็บไว้ในพื้นที่ดังกล่าวจริง นอกจากนี้ยังตรวจพบวัตถุดิบที่ใช้สำหรับการผลิต จำพวก แป้ง ผงคอลลาเจน สีผสมอาหาร ฯลฯ บรรจุถุงวางอยู่บริเวณพื้นในห้องผสม รวมถึงพบเครื่องจักรที่ใช้ผลิต เช่น…

ภาคต่อ! รุมแฉเจ้าของหมาทองดี ลวงออมทอง-ชิ่งค่ารักษาหมา พ้อเงินที่เตรียมไว้จะแต่งงานหมดแล้ว หนุ่ม กรรชัย บอกของผมก็รออยู่ 2 หมื่นเหมือนกัน จากประเด็นดราม่า เจ้าของประกาศตามหาหมาชื่อ ทองดี โดยประกาศว่าจะมอบเงินให้กับผู้ที่พบหมา 50,000 บาท ต่อมามีสาวหล่อออกมาโพสต์นั่งเฝ้าหมาทั้งวัน แต่กลับไม่ได้เงิน พอทวงถามโดนเจ้าของหมาโพสต์แซะ ด้านเจ้าของหมาโต้ที่ไม่ให้เพราะไม่ใช่คนแรกที่เจอหมา ผู้ที่เจอหมาคนแรกคือร้านหมูกระทะ และยังอ้างถึงเพจที่นำข้อมูลไปลงว่าเพิ่มเงินรางวัลจาก 20,000 บาท เป็น 50,000 บาท ต่อมาเจ้าของหมา คนเจอหมา ทั้งเจ้าของร้านหมูกระทะ และสาวหล่อมาออกรายการโหนกระแส โดยมีการพูดคุยและโต้เถียงกัน ประเด็นใครจะได้เงินรางวัลนี้ ก่อนเจ้าของหมาจะยอมเขียนเช็ค 20,000 บาทให้ แต่พบว่าตัวเลขวันเดือนปีที่เขียนไว้บนเช็ค กลับเขียนเป็นปี 2668 ซึ่งธนาคารไม่รับขึ้นเงิน ต้องรออีก 100 ปีข้างหน้า โดยเจ้าของหมาอ้างว่า ได้เขียนตัวเลขปีพ.ศ. ในเช็คผิด ขอเวลาอีก 3-5 วัน แล้วจะส่งเงินให้ ก่อน หนุ่ม กรรชัย จะโอนเงิน 20,000 บาท…

ปัจจุบันคนจำนวนมากกำลังประสบปัญหาจากโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ภัยเงียบซึ่งไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน แต่เกิดจากพฤติกรรมที่ค่อย ๆ สะสมเป็นระยะเวลานาน โรคเหล่านี้มักจะมีอาการไม่ชัดเจนในช่วงแรกและอาจไม่แสดงอาการทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการจะสะสมและกลายเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปได้ยากขึ้น และมีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาสุขภาพที่รุนแรงในอนาคต ซึ่งครอบครัวชาวไทย ต่างต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปด้วยโรค NCDs สูงเป็นอันดับ 1 เฉลี่ย 4 แสนคนต่อปี คิดเป็น 76% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน เทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบันยังคงเป็นกระแสที่ได้รับความนิยม ซึ่งต่อเนื่องมานับตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผนวกกับประเทศไทยซึ่งได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบแล้วในปี 2024 ทำให้คนไทยใส่ใจเรื่องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากขึ้น ด้วยความเข้าใจปัญหาด้านสุขภาพที่คนไทยเผชิญอยู่ Hopeful (โฮปฟูล) ซึ่งนำทีมโดย คุณ อรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการ บริษัท โฮปฟูล จำกัด จึงพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มาตรฐาน ทั้งด้านเทคโนโลยีการผลิต, นวัตกรรม และการวิจัยสารสกัดจากธรรมชาติ ตามวิสัยทัศน์ของ คุณ อรรคพล ที่มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับคนไทย ด้วยลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็นและไม่เหมาะสม ซึ่งอาจนำมาสู่อันตรายและผลข้างเคียง…