วันอังคาร ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567, 13.44 น. 16 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนให้เร่งติดตามวัยรุ่นที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู- ขาว หมายเลขทะเบียน ทฬ-1413 กรุงเทพมหานคร ซึ่งกระสุนปืนถูกประตูหลังฝั่งขวาจำนวน 6 รูทำให้กระจกแตกเหตุเกิดถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว หน้าเอื้ออาทรบ้านฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งทำให้ด.ช. อายุ 10 ขวบ บาดเจ็บบริเวณข้อมือและหัวเข่า และด.ญ. อายุ 7 ขวบ บาดเจ็บบริเวณหลังเนื่องจากเศษกระจกบาด จากการสอบถามนายสุรพล  อายุ 51 ปี ตนเองได้ขับรถออกมาจากการขายอาหารหน้าวัดฉาง ถนน ปทุมสายใน ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี  จ.ปทุมธานี เพื่อจะกลับบ้านพัก โดยมีหลานอีกจำนวน 5 คน อายุระหว่าง 3-12  ปี …

ย้อนกลับไปทศวรรษที่ 1970 สหรัฐอเมริกา โยนยางรถยนต์ใช้แล้วกว่า 2 ล้านเส้นลงไปในทะเลนอกชายฝั่งในรัฐฟลอริดา แล้วก็หวังว่ามันจะกลายเป็นแนวปะการังเทียมที่มีประโยชน์ต่อท้องทะเล แต่นั่นกลับกลายเป็นการทิ้งขยะลงทะเลครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ก็ต้องบอกก่อนว่าช่วงก่อนหน้านั้น คือประมาณทศวรรษที่ 1960 ปริมาณยางรถยนต์ใช้แล้วเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก องค์กรไม่แสวงผลกำไรชื่อโบรวาร์ด อาร์ติฟิเชียล รีฟ (Broward Artificial Reef) ก็เลยเกิดไอเดียเป็นโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า ออสบอร์น รีฟ (Osborn Reef) คือจะเอายางรถยนต์ใช้แล้วผูกติดกันแล้วโยนลงทะเล หวังให้กลายเป็นแนวปะการังเทียม ให้ปลาและสัตว์ทะเลมาอาศัยอยู่ ถือว่าสร้างประโยชน์ให้ทะเลและจัดการเรื่องขยะไปได้ด้วย  โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองวิศวกรของกองทัพสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีเรือของเอกชนมากกว่า 100 ลำมาช่วยในภารกิจอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นในปี 1972 พวกเขาจึงเอายางรถยนต์ใช้แล้ว มาเชื่อมต่อกันด้วยคลิปเหล็กและเชือก จากนั้นก็เอาไปปล่อยลงทะเลนอกชายฝั่งซันไรส์ บูเลอวาร์ด เมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา ห่างชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร ที่ความลึกประมาณ 15 เมตร และครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150,000 ตารางเมตร แต่ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็ได้รู้ว่าแผนการที่มีจุดประสงค์ที่ดีนี้ เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ น้ำทะเลได้กัดกร่อนเชือกและคลิปเหล็กจนยางรถหลุดออกจากกัน และเริ่มกระจัดกระจายก่อความวุ่นวายไปทั่ว เช่น ทำลายสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล…

เรื่องราวของ “ต่ง เจินเสวียน” สาววัย 25 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา และเกิดเบื่องานประจำที่ทำ จึงตัดสินใจลาออกจากงาน ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นบล็อกเกอร์สายกิน โดยจุดเริ่มต้นในการมาเป็นบล็อกเกอร์ของเธอนั้นเกิดจากความชื่นชอบในการชิมอาหารสตรีทฟูด ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ เธอจึงเริ่มวางแผนตระเวนกินอาหารตามเมืองต่างๆ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอและโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี เธอตะลุยกินอาหารไปแล้วกว่า 30 เมือง และได้บันทึกเรื่องราวต่างๆ ไปกว่า 300 คลิป ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินกว่าที่เธอคิดไว้มาก โดยแฟนๆ ของเธอยังบอกว่าเธอเป็นนักกินตัวยงและทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ร้านต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะนอกจากจะรีวิวอาหารแล้ว ต่งยังชอบพูดคุยกับเจ้าของร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ อุปสรรค ความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว เรื่องราวของเจ้าของร้านหลายคนสร้างความประทับใจให้ชาวเน็ต เช่น เจ้าของร้านที่เป็นผู้พิการ แต่ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต หรือสองสามีภรรยา วัย 75 ปี เจ้าของร้านบะหมี่ที่ยังคงทำงาน แม้สุขภาพจะเริ่มไม่ค่อยไหว จนทำเอาชาวเน็ตแห่กันไปช่วยสนับสนุนปัจจุบันนี้ ต่งสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ โดยเธอดีใจเป็นอย่างมากที่งานอดิเรกของเธอสามารถหาเลี้ยงชีพได้ ทั้งยังสามารถพาพ่อแม่ไปเที่ยวและไปตามหาร้านเด็ดกับเธอด้วย ที่มา: 浙江25女孩辭工作兩年吃遍30城市　拍影片300多種小吃全都錄 (ETtoday)

เรื่องราวของ “ต่ง เจินเสวียน” สาววัย 25 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา และเกิดเบื่องานประจำที่ทำ จึงตัดสินใจลาออกจากงาน ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นบล็อกเกอร์สายกิน โดยจุดเริ่มต้นในการมาเป็นบล็อกเกอร์ของเธอนั้นเกิดจากความชื่นชอบในการชิมอาหารสตรีทฟูด ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ เธอจึงเริ่มวางแผนตระเวนกินอาหารตามเมืองต่างๆ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอและโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี เธอตะลุยกินอาหารไปแล้วกว่า 30 เมือง และได้บันทึกเรื่องราวต่างๆ ไปกว่า 300 คลิป ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินกว่าที่เธอคิดไว้มาก โดยแฟนๆ ของเธอยังบอกว่าเธอเป็นนักกินตัวยงและทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ร้านต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะนอกจากจะรีวิวอาหารแล้ว ต่งยังชอบพูดคุยกับเจ้าของร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ อุปสรรค ความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว เรื่องราวของเจ้าของร้านหลายคนสร้างความประทับใจให้ชาวเน็ต เช่น เจ้าของร้านที่เป็นผู้พิการ แต่ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต หรือสองสามีภรรยา วัย 75 ปี เจ้าของร้านบะหมี่ที่ยังคงทำงาน แม้สุขภาพจะเริ่มไม่ค่อยไหว จนทำเอาชาวเน็ตแห่กันไปช่วยสนับสนุนปัจจุบันนี้ ต่งสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ โดยเธอดีใจเป็นอย่างมากที่งานอดิเรกของเธอสามารถหาเลี้ยงชีพได้ ทั้งยังสามารถพาพ่อแม่ไปเที่ยวและไปตามหาร้านเด็ดกับเธอด้วย ที่มา: 浙江25女孩辭工作兩年吃遍30城市　拍影片300多種小吃全都錄 (ETtoday)