“เมอร์เซเดส-เบนซ์” พลิกโฉมการขายรถยนต์ระดับลักชัวรี่ในประเทศไทยด้วยโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” ซื้อรถทุกรุ่น-ทุกศูนย์ฯ ราคาเดียวกัน “Retail of the Future” คือแพลตฟอร์มการค้าปลีกรูปแบบใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีหัวใจสำคัญมาจากความโดดเด่นของแบรนด์ที่ลูกค้าให้การยอมรับ ทั้งในเรื่องของความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) และความหรูหรา (Luxury) โดยมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมให้ลูกค้าทุกคนสามารถซื้อรถด้วยราคาและข้อเสนอเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “Anywhere, One Price” โมเดลธุรกิจในรูปแบบนี้จะทำให้เส้นทางการซื้อรถของลูกค้ามีความโปร่งใสและง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงและยกระดับกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเป็นระบบคลังสินค้าส่วนกลาง (Centralized Stock) ที่จัดการโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ได้รับบริการแบบลักชัวรี่จากทุกตัวแทนจำหน่ายฯ (Customer Experience) รวมถึงการผสานช่องทางจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ (Seamless O2O) หลังจากการเปิดตัวโมเดลธุรกิจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยให้กับชาวไทยผ่านกลยุทธ์การสื่อสารมากมายที่เข้าใจง่ายและดึงดูดความสนใจ หนึ่งในนั้นคือการใช้คีย์เวิร์ดอย่าง “มาตรฐานรวมศูนย์ ให้ความยุ่งยากเป็นศูนย์” (All for ONE) มาใช้ในการสื่อสารการตลาด โดยมีอินไซด์มาจากขั้นตอนแรกในการซื้อรถของลูกค้าที่ต้องควานหาโชว์รูมที่สามารถให้ราคาและข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งในขั้นตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีคำถามมากมาย เริ่มต้นด้วย “โชว์รูมไหนราคาดีที่สุด” “โชว์รูมไหนโปรแรงที่สุด” ไปจนถึง “โชว์รูมไหนมีรถในรุ่นและสีที่ต้องการ”…

แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งรถยนต์อาชีพ ดีกรีแชมป์โลก รถฟอร์มูล่า 3 แชมป์ซูเปอร์คาร์ 3 สมัยในเมืองไทย นอกจากเป็นนักแข่งรถแล้ว แซนดี้ ยังเป็นครูฝึกสอนขับรถแข่งประจำสถาบัน ประจำทีมแข่ง และเปิดคอร์สสอนขับรถแข่งแบบตัวต่อตัวของตนเองอีกด้วย คอร์สสอนขับรถแข่งแบบตัวต่อตัวของแซนดี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 มีหลากหลายรูปแบบให้นักเรียนได้เลือกลงเรียนตามความสนใจและวัตถุประสงค์ของแต่ละคน โดยเริ่มตั้งแต่รถแข่งส่วนตัว รถแข่งของทีมแข่งรถยนต์ทางเรียบมืออาชีพ “บี-ควิก เรซซิ่ง” อาทิ รถแข่งรุ่นเล็ก Honda Brio, Honda City One Make Race, Toyota Vios จนถึงรถแข่งรุ่นใหญ่ Porsche 981 Cayman GT 4 และรถแข่งของทีมแรลลี่มืออาชีพ จาก “Raptor Team Thailand” คือ รถกระบะ Ford Ranger Raptor ซึ่งทั้งสองทีมจะเป็นผู้ดูแลและจัดเตรียมรถแข่งให้นักเรียนทุกคนที่มาเรียนอย่างดีที่สุด รถแข่งทุกคันจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยพื้นฐานตามมาตรฐานการลงแข่งขันจริงในรายการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ นักเรียนที่มาถึงสถานที่เรียนสามารถขึ้นรถเรียนได้ทันที ตามคอนเซปต์ Arrive…

GPS ติดตามรถ เป็นอุปกรณ์เสริมอันดับต้นๆ ที่คนใช้รถตัดสินใจเลือกใช้ เพราะ GPS หรือ จีพีเอส เป็นอุปกรณ์เสริมที่อยู่ในเกณฑ์จำเป็นสูง ด้วยประโยชน์ที่สำคัญหลายอย่าง เช่น แจ้งเตือนรถถูกขโมยหรือเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ติดตามพิกัดรถได้ ตามรถกลับคืนจากการถูกขโมย ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่จีพีเอสทุกเครื่องที่สามารถทำได้ทุกอย่างที่ว่ามานี้ได้ เพราะจีพีเอสแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อทำมาจากระบบซอฟต์แวร์ที่ต่างกัน จึงมีความสามารถไม่เท่ากัน หรือเชื่อมต่อระบบเสริมเพื่อเพิ่มการงานได้ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ รถแต่ละคันหรือผู้ใช้งานแต่ละคนก็ยังมีความต้องการที่แตกต่างกันด้วย วันนี้เรามี 5 เรื่องที่เจ้าของรถหรือคนใช้รถต้องตอบให้ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อหรือติดตั้งจีพีเอสให้กับรถของตัวเอง 5 เรื่องต้องคิด ก่อนซื้อหรือติดตั้งจีพีเอสติดตามรถ ความจำเป็นของการติดจีพีเอสของคุณคืออะไร? รถของคุณมีความจำเป็นอะไรถึงต้องติดจีพีเอส? คำถามนี้เป็นคำถามแรกๆ ที่จะต้องถามเมื่อคิดติดตั้งจีพีเอส เพราะรถของแต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน เช่น – รถให้เช่า ติดจีพีเอสเพราะต้องการการแจ้งเตือนทันที เมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด หรือขับเข้าจังหวัดชายแดนซึ่งเสี่ยงกับการถูกขโมยรถทั้งคันข้ามชายแดนหรือแยกชิ้นส่วนขาย – รถบรรทุกขนส่งสินค้า ติดจีพีเอสเพราะต้องการติดตามพิกัดรถ เพราะหลายครั้งที่ไม่รู้รถอยู่ที่ไหน ติดตามรถไม่ได้ จนไม่สามารถจัดการการใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงธุรกิจบางแห่งยังเจอลูกค้าตามว่า สินค้าของพวกเขาอยู่ไหน หากให้ข้อมูลพิกัดรถไม่ได้ ก็ยิ่งมีปัญหาคุณภาพการให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นมาด้วย หรือรถใช้งานในธุรกิจโดยรวมที่ส่วนใหญ่ต้องการติดตามการใช้น้ำมันหรือการใช้รถที่ส่งผลต่อการใช้น้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นต้นทุนประมาณ 40% ของต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดของธุรกิจ หากสามารถลดหรือประหยัดการใช้งานได้มากขึ้น ก็จะสามารถเพิ่มกำไรจากการทำธุรกิจได้มากขึ้นกว่าเดิม…

ฉลองครบรอบ 10 ปีในประเทศไทย! vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดสมาร์ตโฟนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานชาวไทย รวมไปถึงเตรียมเปิดตัว vivo V30 5G และ V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนภาพพอร์ตเทรตสวยระดับเทพ ภายใต้แนวคิด ‘Portrait So Pro’ หรือ ‘ถ่ายเทพเกินคน’ ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพอย่าง ‘Aura Light Portrait System 3.0’ การันตีภาพพอร์ตเทรตสวยคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ เอาใจทั้งสายถ่ายภาพและสายไลฟ์สไตล์ พิเศษยิ่งขึ้นกับการการผนึกกำลังด้านเทคโนโลยีเป็นครั้งแรกในตระกูล V Series ระหว่าง vivo และ ZEISS ผู้พัฒนาเลนส์ระดับโลก ที่จะมาร่วมส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพอันเหนือชั้นกว่าที่เคยให้กับ vivo fans ทุกท่านในรุ่น V30 Pro 5G ร่วมท้าพิสูจน์ความเทพไปพร้อม ๆ กัน 28 กุมภาพันธ์ นี้!   vivo ผลักดันวงการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนไปสู่ระดับเทพกับการกลับมาของระบบออร่าพอร์ตเทรตอัปเกรดใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Aura Light Portrait System 3.0’ มอบแสงออร่าที่นุ่มนวลขึ้นและความสว่างที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี Smart Color Temperature Adjustment ที่ช่วยปรับโทนแสงให้เข้ากับทุกบรรยากาศ นอกจากนี้ vivo ยังชูฟีเจอร์ Group Portrait ด้วยกล้องมุมกว้างที่สามารถเก็บภาพได้ครบทุกองศายิ่งขึ้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมความคมชัดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ให้การถ่ายภาพกลุ่มไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เสริมความพิเศษด้วยการผสานความเทพของ vivo กับ ZEISS ผู้พัฒนาเลนส์ระดับโลกเป็นครั้งแรกบนสมาร์ตโฟนตระกูล V Series กับนวัตกรรม ZEISS Triple Main Camera ในรุ่น vivo V30 Pro 5G เทคโนโลยีกล้องระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่จะมาเนรมิตทุกภาพถ่ายให้สวยงาม คมชัดทุกช็อต   สมาร์ตโฟนตระกูล V Series โดดเด่นด้วยตัวเครื่องบางเฉียบแต่ยังคงไว้ด้วยการออกแบบที่สง่างามและพรีเมียมเหนือกาลเวลา โดยครั้งนี้ vivo ตอกย้ำด้านดีไซน์บางเบาในการจับถือด้วยการเปิดตัว V30 5G และ V30 Pro 5G ที่เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่บางที่สุดเท่าที่ vivo เคยพัฒนา และยังเสริมความมั่นใจเต็มเปี่ยมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ที่มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ประกอบกับเทคโนโลยี 80W…

เมื่อเหล่าฟู้ดดี้ระดับแถวหน้าของเมืองไทย มารวมตัวกันเพื่อเลือกเฟ้นร้านอาหารในดวงใจ แล้วร่วมกันโหวตเพื่อมอบรางวัล HELLO! Taste Awards 2024 โดยพิจารณาทั้งรสชาติอาหาร การนำเสนอ บรรยากาศ การตกแต่งร้าน การบริหาร ตลอดจนราคา แล้วจะมีใครบ้าง ตามมาชมกันเลย! From Foodies to Judge  Jump To / Table of Contents 1 /7 วรลักษณ์ ตุลาภรณ์  <!– –> ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จำกัด Executive Judge “เราเชื่อว่าเมื่อ HELLO! และเดอะมอลล์กรุ๊ปร่วมกันสร้างประสบการณ์ดีๆ สำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหาร ก็จะได้สิ่งที่พิเศษขึ้นไปอีก เพราะเดอะมอลล์มีความเชี่ยวชาญในเรื่องอาหารและนับว่าเป็น Food destination ของลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย” 2 /7 สิริวธู รักษาเกียรติ <!– –>…