“แอปเปิล” เตือนลูกค้าห้ามนำ “ไอโฟน” ที่เปียกน้ำไปแช่ข้าวสารเด็ดขาด และห้ามใช้ “ไดร์เป่าผม” เป่า หรือเอาสำลีพันก้านหรือผ้าขนหนูแหย่เข้าไปในพอร์ตเชื่อมต่อ พร้อมแนะนำวิธีที่ถูกต้องควรทำ เมื่อไอโฟนเปียกน้ำ วันนี้ (22 ก.พ. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท แอปเปิล เตือนผู้ใช้ไอโฟนว่า ห้ามนำ “ไอโฟน” (iPhone) ที่เปียกน้ำไปแช่ในถุงข้าวสารเด็ดขาด เพราะอนุภาคขนาดเล็กหรือฝุ่นจากเมล็ดข้าวสารจะเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ในเครื่องได้ นอกจากนั้น ยังห้ามทำให้ไอโฟนแห้งด้วยการใช้แหล่งความร้อนจากภายนอกเช่น ไดร์เป่าผม รวมไปถึงการใช้วัตถุแปลกปลอม เช่น สำลีพันก้านหรือผ้าขนหนู แหย่เข้าไปในพอร์ตเชื่อมต่อ เพราะอาจจะทำให้อุปกรณ์ในตัวเครื่องได้รับความเสียหาย โดยทาง “แอปเปิล” แนะนำสิ่งที่ควรทำเมื่อไอโฟนเปียกน้ำ คือ การเคาะตัวเครื่องกับมือเบา ๆ และคว่ำขั้วเชื่อมต่อของเครื่องลง เพื่อให้น้ำหรือของเหลวที่อยู่ข้างในไหลออกมา แล้ววางไอโฟนไว้ในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทเป็นเวลา 30 นาที แล้วค่อยทดสอบเสียบกับสายชาร์จเพื่อตรวจสอบดูว่าสามารถใช้การได้ตามปกติหรือไม่ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าตั้งแต่ “ไอโฟน12” (iPhone12) ขึ้นไป จะสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 6 เมตร ภายในเวลา 30 นาที แต่ปัญหาโทรศัพท์มือถือเปียกน้ำ…

นักวิทยาศาสตร์ชาวเกาหลีใต้ได้นำสเต็มเซลล์ของกล้ามเนื้อและไขมันจากวัวมาปลูกถ่ายในเมล็ดข้าว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คืออาหารชนิดใหม่ที่มีโปรตีนสูง ราคาถูก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีประโยชน์ต่อวงการทหาร การออกเดินทางไปในพื้นที่ห่างไกลและการเดินทางในอวกาศด้วย ข้าวจากเซลล์เนื้อสีชมพู หน้าตาอาจไม่น่ารับประทาน แต่คุณค่าทางโภชนาการสูง   หลักการนี้คล้ายกับการปลูกเซลล์เนื้อวัวในห้องแล็บ แต่ครั้งนี้เป็นการปลูกลงไปในรูพรุนของเมล็ดข้าว ซึ่งโมเลกุลบางชนิดในข้าวก็ช่วยให้เซลล์เจริญเติบโต ทั้งนี้นักวิจัยไม่ได้ชี้แจงว่าข้าวที่นำมาทำการทดลองนี้คือข้าวชนิดใด ขั้นแรกนักวิจัยก็จะนำเจลาตินจากปลาไปเคลือบข้าว จากนั้นนำเซลล์จากกล้ามเนื้อวัวและไขมันมาปลูกถ่าย ในสัดส่วนที่แตกต่างกันหลากหลายสูตร ซึ่งเจลาตินจากปลาจะช่วยให้เซลล์จากวัวติดกับข้าวได้ดีขึ้น หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อเป็นเวลา 9 – 11 วัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือข้าวสีชมพูที่หลายคนอาจจะมองว่าน่าขนลุกสักหน่อย แต่มันเป็นอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ  โดยนักวิจัยได้นำข้าวปริมาณ 100 กรัม ไปหุงเพื่อวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ พบว่าข้าวจากเซลล์วัวมีโปรตีนมากกว่าข้าวปกติ 0.31 กรัม คิดเป็น 8.66% มีไขมันมากกว่าข้าวปกติ 0.01 กรัม คิดเป็น 7.14% รวมถึงปริมาณคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสารอาหารหลักในข้าว เมื่อมีการปลูกถ่ายเซลล์เนื้อวัวเพิ่มเข้าไป ปริมาณคาร์โบไฮเดรตก็ไม่ได้ลดลง แต่ก็ไม่ได้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.16 กรัม คิดเป็น 0.33% เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัมผัสแน่นขึ้น สำหรับข้าวที่สร้างจากเซลล์กล้ามเนื้อจะมีกลิ่นคล้ายเนื้อวัวหรืออัลมอนด์ ส่วนแบบที่สร้างจากเซลล์ไขมันจะมีกลิ่นคล้ายครีม เนย หรือน้ำมันมะพร้าว คุณค่าทางโภชนาการข้าวจากเซลล์เนื้อวัวเทียบกับข้าวปกติ ในปริมาณ 100…

หญิงวัย 73 ปี ขับเก๋งปาดหน้ารถบรรทุก 18 ล้อ ถูกชนพลิกคว่ำพุ่งชนซ้ำรถรับส่งนักเรียน บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย วันที่ 22 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดจับภาพอุบัติเหตุ บนถนนบางนาตราด ช่องทางด่วน ขาเข้า หลักกิโลเมตรที่19 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบรถเก๋งคันหนึ่งขับมาในเลนขวา จนมาถึงช่วงจุดกลับรถเกาะกลางรถเก๋งพยามเบี่ยงออกซ้ายและไปปาดหน้ารถบรรทุก 18 ล้อ ที่ขับมาด้วยความเร็วในเลนกลางจนทำให้เฉี่ยวชนรถเก๋งหมุนขวางหน้ารถบรรทุกก่อนจะพลิกคว่ำพุ่งไถลไปชนซ้ำเข้ากับข้างรถกระบะรับส่งนักเรียนจนเกือบทำให้รถพลิกคว่ำ หลังเกิดเหตุไม่นานทั้งตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางถึงที่เกิดเหตุและเข้าตรวจสอบผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะรถกระบะที่มีนักเรียนมาเต็มคัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีนักเรียนบาดเจ็บ 2 ราย จากการถูกแรงกระแทก ส่วนผู้ขับรถเก๋งคู่กรณี ซึ่งเป็นหญิงวัย 73 ปี เจ้าตัวบาดเจ็บไม่มาก อาสาสมัครจึงช่วยเหลือทั้งนักเรียนและคนขับรถเก๋งส่งโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 3 ราย สอบถามคนขับรถเก๋ง บอกว่า ตนขับรถมาจากจังหวัดชลบุรี เพื่อมุ่งหน้าเข้า กทม.ไปเป็นมัคคุเทศก์ พอขับมาถึงที่เกิดเหตุตนเบี่ยงจากเลนขวาเข้าเลนกลางแล้วถูกรถพ่วง18ล้อชนจนพลิกคว่ำ ส่วนคู่กรณีที่เป็นรถพ่วงหลบหนีหลังเกิดเหตุ ส่วนคนขับรถรับส่งนักเรียน บอกว่า ตนรับนักเรียนวัยปฐมมาในรถเกือบ 20 คนกำลังพาไปส่งโรงเรียน…

เยาวชนไทยต้านคอรัปชัน! โรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” จ.สระบุรี ชนะเลิศสุดยอดการแสดง “การประกวดละครเพลงต่อต้านการทุจริต” ประจำปี 2566 ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นปัญหาที่สำคัญของชาติที่สร้างความเสียหายต่อการพัฒนาประเทศมาตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน และนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การต่อต้านการทุจริต มิใช่ภาระหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นภาระหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือร่วมใจกันสร้างสังคมไทยที่ไม่ทนต่อการทุจริต…ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิต่อต้านการทุจริต โดยศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการ  และกระทรวงวัฒนธรรม โดย นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงฯ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย นางรงค์รุจา สายเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านธรรมาภิบาล สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร และบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายประพาฬพงษ์ มากนวล หัวหน้าฝ่ายทรูปลูกปัญญา ร่วมกันจัด “การประกวดละครเพลงต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2566” โดยผ่านการคัดเลือกจากผลงานทั่วประเทศ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 6…

บ้านไหนๆก็ต้องมีเหมียวประจำบ้าน แมวเป็นสัตว์น่ารักน่าเลี้ยง ด้วยความที่ขี้อ้อน และหน้าตาที่น่ารัก ทำให้ผู้คนนิยมเลี้ยงเพราะบางที น้องก็จะทำท่าทางแปลกๆให้เราได้เห็น จากที่เครียดหรือเหนื่อยจากที่ทำงานมา ก็คือเหนื่อยกว่าเดิม แฮ่ล้อเล่น เราก็จะหายเหนื่อยและฮีลใจเราได้ดีเลยค่ะ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันของแมวอีกวันหนึ่งนะคะ “วันแห่งแมว” หรือ Neko No hi ตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ของทุกปี ญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับแมวมากๆ เพราะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน แล้วทำไมวันนี้ถึงเป็นวันแมวของญี่ปุ่น ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ni-ni-ni (แปลว่า 2-2-2) ที่คล้ายเสียงร้องของแมวว่า nyan-nyan-nyan นั่นเองค่ะ ในสมัยโบราณสันนิษฐานว่าแมวได้ส่งไปยังเกาะญี่ปุ่น เพื่อปกป้องคลังอาหารของมนุษย์จากพวกหนู และปกป้องเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เก็บไว้ในปราสาทหรือวัด ญี่ปุ่นถือว่าแมวเป็นสัตว์มงคล การเลี้ยงแมวนั้นจะนำมาแต่ความโชคดี ร่ำรวย เงินทอง และมีตำนานเรื่องเล่ามากแมวเกี่ยวกับแมวที่ญี่ปุ่น อีกหนึ่งตำนานที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านๆตาและคุ้นเคยกันมาบ้างกับแมวกวัก ตำนานมีอยู่ว่าในยุคเอะโดะ มีหญิงชรายากจนมาก แต่เขาเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง ใช้ชีวิตด้วยกัน เวลาสุขก็สุขด้วยกัน ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน แต่สุดท้ายด้วยความที่ฐานะของเขาทำให้ไม่สามารถเลี้ยงแมวตัวนั้นต่อได้ จึงนำแมวตัวนั้นไปปล่อย ด้วยความรักของเขาที่มีต่อแมวตัวนั้น ทำให้หญิงชรานอนร้องไห้คิดถึงแมวทุกคืน จนฝันว่าแมวตัวเองนั้นมาบอกว่าให้ปั้นรูปแมวจากดินเหนียวจะนำมาสู่ความโชคดี วันรุ่งขึ้นหญิงชราจึงมาปั้นรูปปั้นแมวและวางไว้ หลังจากนั้นก็มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาและซื้อรูปปั้นแมวตัวนั้นไป หญิงชราจึงตั้งใจปั้นรูปแมวขายมาเรื่อยๆและมีคนซื้ออยู่ตลอดเวลา ทำให้มีเงินจากการขายรูปปั้นแมวหญองชราจึงไปนำแมวตัวนั้นกลับมาเลี้ยงได้อีกตามเคย และนี่ก็เป็นอีกความเชื่ออีกตำนานของทางญี่ปุ่น ที่เชื่อกันว่าแมวนั้นจะนำพาความโชคดีมาให้กับผู้ที่เลี้ยง…