ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา บรรยากาศในเมืองคึกคัก ขบวนรถผู้นำเขตเศรษฐกิจวิ่งกันขวักไขว่ วันนี้ (17 พ.ย.66) ซึ่งตรงกับ วันที่ 16 พ.ย.66) เวลาประมาณ 10:20 น.ตามเวลาท้องถิ่น ผู้สื่อข่าว7HDออนไลน์ รายงานบรรยากาศในเมืองซานฟรานซิสโก ว่า เริ่มคึกคักเป็นอย่างมาก เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ได้พบเห็น โดยขบวนรถผู้นำแต่ละประเทศได้ทยอย  เข้าศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ ที่น่าจับตามอง คงหนีไม่พ้นขบวนรถเจ้าภาพการประชุมเอเปค อย่าง “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ  ของสหรัฐฯ ระหว่างที่จะเดินทางออกจากโรงแรมที่พัก เพื่อไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประจำจุดตลอดเส้นทาง อำนวยการจราจร ล่วงหน้าประมาณ 40 นาที ปิดเปิดการจราจรเป็นระยะ ระหว่างรอขบวนผู้นำ ก่อนจะปิดไม่ให้รถผ่าน หรือ คนข้ามถนนตลอดเส้นทาง ซึ่งขบวนรถของผู้นำ มีมากกว่า 40 คัน  สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น ไม่ใช่มีเพียงแต่สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศที่เฝ้ารอ ยังรวมถึงชาวซานฟรานซิสโกต่างมารอเก็บภาพบรรยากาศนี้เช่นกัน เป็นที่น่าสังเกตว่า จะมีเฮลิคอปเตอร์ คอยบินตระเวนสังเกตการณ์ ก่อนที่ขบวนรถของผู้นำจะออกเดินทาง…

สาวงง จู่ๆ กล้องที่บ้านแจ้งเตือน เปิดดูขนลุกทั้งตัว เกือบเป็นเหยื่อโรคจิต เห็นเต็มตา “ผู้ชาย” คลานออกมาจากใต้เตียง โทรหาตำรวจทันที ตามรายงานของสำนักข่าว “เคทลิน” คุณแม่วัย 22 ปี อาศัยอยู่กับลูกชายวัย 1 ขวบในประเทศสกอตแลนด์ ทั้งสองคนมักจะนอนด้วยกัน อย่างไรก็ดี ในวันหนึ่งที่เธอและลูกน้อยกำลังออกไปบ้านเพื่อน จู่ๆ ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากโปรแกรม Baby Monitor หรือกล้องสำหรับติดตามการเคลื่อนไหวของทารก ทั้งที่ในเวลาดังกล่าวไม่มีใครอยู่ในบ้าน และเธอก็แน่ใจว่าได้ล็อกบ้านอย่างดีก่อนออกมาแล้ว ดังนั้น เธอรู้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่ปกติ ตัดสินใจเปิดโปรแกรมตรวจสอบภาพจากกล้องแบบเรียลไทม์ ก็แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อพบว่ามีผู้ชายแปลกหน้าบุกเข้ามาในบ้านของเธอ เขาคลานออกมาจากใต้เตียง และปีนขึันไปนอนหลับบนเตียง ทำให้กล้องจับการเคลื่อนไหวได้จึงแจ้งเตือนมายังโทรศัพท์มือถือของเธอ เธอทั้งตกใจและกลัวมากจึงแจ้งตำรวจทันที “กล้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของฉันเพื่อแจ้งให้ฉันทราบหากมีการเคลื่อนไหวใดๆ ดังนั้นเมื่อเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ฉันดูกล้องสดๆ และเห็นเท้าของชายคนนี้ยื่นออกมาจากปลายเตียงของฉัน หัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น ” เคทลินเล่า หลังจากโทรแจ้งตำรวจให้เข้าจัดการแล้ว เคทลินจึงกลับบ้านเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ พบไขควงตัวหนึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้าน เชื่อว่าผู้บุกรุกใช้ไขควงตัวนี้เจาะทางหน้าต่าง ซึ่งสภาพของชายแปลกหน้าที่บุกเข้าไปในบ้านนั้น ก็มีเลือดไหลออกมาจากหัวของเขา ทำให้พรม หม้อน้ำ และราวบันไดในบ้านของเธอมีคราบเลือดติดอยู่จำนวนมากเช่นกัน เคทลินเล่าถึงภาพที่เห็นว่า “มันเหมือนกับฉากอาชญากรรม” และเธอยังบอกด้วยว่าผิดหวังต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่ได้ดำเนินการอื่นใดหลังจากพาผู้บุกรุกออกไปได้แล้ว ไม่ได้รับข้อเสนอแนะหรือคำชี้แจงเกี่ยวกับการกระทำผิดทางอาญา ซึ่งเธอคิดว่าตำรวจรีบเกินไป ทำให้ตอนนี้เธอกลัวมากที่จะกลับบ้าน…