สื่อดังเมาท์แรง แฉนางร้ายหน้าปลอมแท็กทีมแม่ ชอบตอดเงินแฟนเสริมความโอเว่อร์ จนคนเอือม แถมคุยฟุ้งคุมแฟนอยู่ในโอวาส เตือนเจ็บระวังโดนทิ้ง           เรื่องเก่าไม่ทันซาก็มีเรื่องใหม่มาให้ขาเมาท์ได้ทำการบ้านกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุด (28 ตุลาคม 2566) มาดามกุ๊งกิ๊ง ออกมาเมาท์แซ่บถึงเรื่องราวของ นางร้ายหน้าปลอมรายหนึ่ง และคนใกล้ตัวของเธออย่างคุณแม่ ที่ชอบทำตัวโอเว่อร์จนคนแห่เอือม           โดยเมาท์ว่า แหล่งข่าวของ มาดามกุ๊งกิ๊ง ไปแฮงค์เอาต์กับนางร้ายรายนี้ ซึ่งเธอก็จัดหนักเปย์ให้กับคนที่บริการแบบไม่ยั้ง โอนเงินพิศวาสให้คนที่มาบริการพวกนวดและชงน้ำดื่มให้ชีครั้งละพันถึง 5 พันเลย พอถามว่าว่าเงินมาจากไหนเยอะแยะ นางร้ายก็บอกว่า “แฟนให้ พออ้อนหน่อยก็ได้แล้ว” นางร้ายหน้าปลอม ยังคุยอีกว่าที่แฟนเปย์เธอหนักเพราะฝ่ายชายอยู่ในโอวาสของเธอ ฉันเอาอยู่ แถมแม่ของเธอยังเป็นคนคิดและแนะนำเรื่องธุรกิจให้กับแฟนว่าทำอะไรได้เงิน พอได้ตามที่แม่เธอบอก เขาก็เลยจ๋อย ดังนั้น เวลาเธอได้เงินมาจากเขา มาหาความสุข ความปังให้เธอ เขาก็ต้องให้ ! งานนี้มาดามยังเตือนว่า ทำแบบนี้เรื่อย ๆ ระวังเขาเบื่อแล้วจะเททิ้ง ส่วนนางร้ายหน้าปลอมคนนี้จะเป็นใครก็คงต้องถามสืบกันต่อไปแล้วล่ะค่ะ  ขอบคุณข้อมูลจาก dailynews  

ออกมาได้เพียงไม่กี่ตอนก็สร้างความฮือฮาไม่น้อยเเล้ว สำหรับตัวละคร “อึ่ง” บ่าวรับใช้ของบ้านยายกุย ในละครเรื่อง “พรมหมลิขิต” ที่รับบทโดย “จ๊ะจ๋า แดนดาว ยมาภัย” นักแสดงสาวน้องใหม่ และยังเป็นทายาทนักแสดงอาวุโสคนดังอย่าง “บรรเจิดศรี ยมาภัย” และหลานสาวของ “ศัลยา” นักเขียนบทคนดัง ผู้เขียนบทละคร บุพเพสันนิวาสและพรหมลิขิตอีกด้วย วันนี้ “เผือกดารา” จะขอพาไปเปิดวาร์ป “จ๊ะจ๋า” ในชีวิตจริง ที่บอกเลยว่าความสวยแซบไม่ธรรมดา จนหนุ่มๆ ร้องว้าว

เจาะประเด็นข่าว 7HD – ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านขายอาหารญี่ปุ่น เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมกับเชิญ “นายจ้างหญิง” ไปให้ปากคำ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องที่ “ลูกจ้างสาว” อ้างถูกทำร้ายร่างกาย ใช้แรงงานหนัก ไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสมควร พันตำรวจเอก ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยความคืบหน้าคดีลูกจ้างสาวร้องเอาผิดนายจ้าง เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น กล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย ใช้แรงงานหนัก ไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสมควร โดยบอกว่าเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบร้านอาหารที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในจุดต้องสงสัยนำไปประกอบในสำนวนคดีเพิ่ม และยังไม่ได้เรียกลูกจ้างสาวเข้าให้การเพิ่มเติม เพราะต้องรอผลตรวจร่างกาย 3 เรื่องจากแพทย์มาประกอบการพิจารณาก่อน ส่วนบุคคลต่าง ๆ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันพฤติกรรม หรือ ข้อสังเกตต่าง ๆ ในอดีต ตำรวจได้รวบรวมไว้เป็นข้อมูลแล้ว หากมีข้อสงสัย หรือเห็นว่าจำเป็นก็จะเชิญมาสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนเรื่องที่นายจ้างเข้าแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ 2 คดี คดีแรกมีการไกล่เกลี่ยทำข้อตกลงกันว่าจะผ่อนจ่ายค่าเสียหาย เนื่องจากทรัพย์สินไม่ได้มีราคาสูง ส่วนคดีที่ 2 ยังไม่มีการเจรจายอมความ เพราะนายจ้างต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าคดีลักทรัพย์ และคดีที่ลูกจ้างร้องขอความเป็นธรรม จะไม่นำมารวมกัน และจะเร่งรัดทำทั้ง 2 คดี…