ประชาชนกรุงโตเกียวพากันเข้าซ้อมหลบภัยที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในวันจันทร์ ตามแผนงานอพยพหนีภัยขีปนาวุธที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่ รัฐบาลกรุงโตเกียวมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ยกระดับสูงขึ้นจากเกาหลีเหนือ รายงานข่าวของรอยเตอร์ระบุว่า มีประชาชนราว 60 คนเข้าร่วมการซ้อมครั้งนี้ในเขตเนริมะ (Nerima) ของกรุงโตเกียว โดยการซ้อมหลบภัยนี้เกิดขึ้น หลังเกาหลีเหนือทำการยิงทดสอบขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีปที่สามารถบินไปได้ไกลถึงสหรัฐฯ การทดสอบของเกาหลีเหนือที่ผ่านมานั้นรวมถึงขีปนาวุธลูกหนึ่งที่บินข้ามพื้นที่เกาะภาคใต้ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมซึ่งทำให้ทางการต้องเปิดระบบเตือนภัย J-Alert ที่เปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งคำเตือนผ่านสถานีโทรทัศน์ อีเมลและการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือไปยังประชาชนในพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม มุสึมิ ทาคาฮาชิ เจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันภัยพิบัติที่ช่วยจัดการซ้อมอพยพในวันจันทร์กล่าวว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอะไรในกรณีที่สัญญาณเตือนภัยดังกล่าวดังขึ้น ซึ่งแสดงเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีการซ้อมหลบภัยเช่นนี้มากขึ้น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจัดการซ้อมหลบภัยมาแล้วนับ 10 ครั้งทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปีมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดขึ้นในกรุงโตเกียวนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา นอกจากนั้น รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนบางส่วนในเมืองหลวงของญี่ปุ่นไม่ได้ชื่นชอบการซ้อมหลบภัยเช่นนี้เลย ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านสงครามหลายสิบคนได้มารวมตัวกันที่หน้าสถานีรถไฟที่เป็นสถานที่จัดการซ้อมหลบภัย พร้อมกันร้องตะโกนและถือป้ายที่มีข้อความว่า “การซ้อมยิงขีปนาวุธ คือการเตรียมการสำหรับสงคราม” และว่า “การหารือผ่านช่องทางการทูตนั้นดีกว่าการซ้อมหลบภัยขีปนาวุธ” ที่มา: รอยเตอร์