สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ – เหตุการณ์นี้นำมาเตือนภัย มีวัยรุ่นชาย-หญิงไปซื้อข้าวต้มที่ร้านตอนกลางคืน ถูกกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ทำร้าย และยังใช้ระเบิดปิงปองปาใส่บนถนนด้วย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขี่มา มีเสียงผู้หญิงร้อง ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ขี่ไล่ตามมาติด ๆ ประกบข้างรถจักรยานยนต์คันที่ขี่หนี จากนั้นรถคันที่ขี่ไล่ตามมาก็ปาระเบิดปิงปองใส่พื้นถนนเสียงดังสนั่น และไล่ตามรถคันที่ขี่หนีเข้าไปในซอยแบบติด ๆ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้เท่านี้ เหตุเกิดบนถนนบริเวณถนนบ้านค้อ ตำบลกุดค้าว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วงกลางดึก 02.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม คลิปนี้ถูกนำมาโพสต์ผ่านเพจฝากบอก เมืองบัวขาว เพื่อให้วัยรุ่นที่ก่อเหตุสำนึกถึงการกระทำ ทีมข่าวสอบถามพี่สาวผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุน้องสาวของเธออายุ 15 ปี กับเพื่อนผู้ชายอายุ 14 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อข้าวต้มกลางดึก ตอนอยู่ที่ร้านก็เจอกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ แต่ไม่รู้จัก มองปกติ พอซื้อเสร็จก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่เจอที่ร้าน ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา 2 คัน ตะโกนเรียกให้จอดรถ แต่เพื่อนน้องสาวไม่จอด ขี่หนีเพราะกลัวถูกทำร้าย…

  นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรทัศน์ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ได้เผยถึงความสำเร็จของละคร เกมรักทรยศ ในขณะมาร่วมงาน ‘End เกมทรยศ ปิดโรงดูตอนจบพร้อมกัน‘ ว่าได้รับทั้งกระแสและคำชื่นชมจากทั้งแฟนละคร รวมไปถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ ด็อกเตอร์ฟอสเตอร์ (Doctor Foster) ของอังกฤษ ต้นฉบับที่นำมารีเมคไว้ด้วยว่า“เรื่องนี้ดีหมดเลยนะ ทาง BBC (BBC Studios เจ้าของลิขสิทธิ์) เขาก็ชมมาว่าเวอร์ชั่นของเราดีกว่าเกาหลีอีก มันมีครีเอทิวิตี้ในการประยุกต์ อย่างออริจินอลเขาก็มีลูกคนเดียว อันนี้มีลูกสองคน อาชีพจากหมอก็เป็นจิตแพทย์ ซึ่งดูแล้วเข้าท่าดี ของไทยก็เลยดูดี นักแสดงไทยด้วย เขาก็ชมหมดเลย เวอร์ชั่นเราก็เลยได้รับคำชมมาเยอะมาก”มองว่าเป็นแนวทางเลยไหมว่าเป็นรสชาติใหม่ๆ ของช่อง?“คือว่าช่อง 3 เขาอยู่มานานแล้ว คนก็จะคุ้นชินกับช่อง 3 ก็จะมีทั้งแฟนรุ่นเก่าที่คุ้นชินกับละครแนวเดิม เล่าเรื่องมาละเอียดคาแรกเคอร์ตัวละครเยอะหน่อย แต่แฟนรุ่นใหม่ที่เขาชินกับแพลตฟอร์มปัจจุบันที่เดินเรื่องเร็ว กระชับ อย่างเกมรักทรยศ จำนวนตอนก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ ขนาดออกอากาศวันละ ชม. ครึ่ง ก็ยังมีแค่ 16 อีพีเอง ถ้าเป็นสมัยก่อนต้อง 20…

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ – ที่ จังหวัดสระแก้ว หัวขโมยดวงซวย ขับรถกระบะไปจอดกินอาหาร แต่ผู้เสียหายจำรูปพรรณและลักษณะรถยนต์ที่เคยพยายามเข้าไปขโมยแบตเตอรี่ และน้ำมันรถบรรทุกสิบล้อ จึงล็อกตัวจับส่งตำรวจไว้ได้ โดยคดีนี้ถูกเปิดเผยจาก ดาบตำรวจ นึก เวชศรี ตำรวจนอกราชการ เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคนร้ายลอบเข้ามาในร้านยางของตนเอง โดยทำทีเข้ามายืนคุยโทรศัพท์มือถือ เมื่อปลอดคนก็พยายามขโมยแบตเตอรี่ และน้ำมันจากรถ 10 ล้อ ที่จอดอยู่หน้าร้าน แต่ก็ไม่ได้อะไรไปเพราะมีการล็อกกุญแจไว้ จึงนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นใบหน้าของคนร้ายที่ขับรถกระบะติดสติกเกอร์ด้านข้าง ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองสระแก้ว และเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ดาบตำรวจ นึก ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่บริเวณสี่แยกสระขวัญ อำเภอเมืองสระแก้ว และได้เห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับมาจอดหน้าร้าน โดยคนขับได้เดินลงมาสั่งอาหาร และตนเองจำใบหน้าและลักษณะของรถคันนี้ได้ จึงได้เข้าไปล็อกตัวคนขับ ทราบชื่อต่อมา คือ นายสมชาย อายุ 39 ปี และแจ้งตำรวจให้นำตัวไปดำเนินคดี และสืบสวนว่าก่อนหน้านี้อุปกรณ์ในรถบรรทุก 10 ล้อของตน และลูกชายก็หายไป คนร้ายรายนี้เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ขณะที่ นายสมชาย ยอมรับสารภาพว่า ได้เข้าไปลักทรัพย์ตามภาพที่ปรากฏในคลิปจริง เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน…

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ – มีเรื่องมาเตือนภัยสังคม โดยเฉพาะร้านอาหารต่าง ๆ ในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี ให้ระวังกลโกงของมิจฉาชีพโทรหลอกสั่งอาหาร และจองโต๊ะจัดงานเลี้ยงกว่า 30 คน หวังหลอกเงินค่าส่วนต่าง พร้อมโอนเงินค่ามัดจำมาให้ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นสลิปปลอม เคราะห์ดีเจ้าของร้านไหวตัวทัน จึงไม่ตกเป็นเหยื่อ เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ได้นำข้อความสนทนากับชายคนหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งมารู้ในตอนหลังว่าเป็นมิจฉาชีพ โดยนำโพสต์เตือนภัยในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมกับเขียนข้อความว่า เตือนภัยมิจฉาชีพสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้เลย ดีนะเช็กก่อน มีผู้คนในโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 7HD ของเราได้ลงพื้นไปพูดคุยกับหญิงอายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุและเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงที่ร้านใกล้จะปิดแล้ว จู่ ๆ ก็มีโทรศัพท์จากผู้ชายคนหนึ่งโทรเข้ามาที่ร้าน สอบถามเรื่องการจองโต๊ะและสั่งอาหารสำหรับจัดเลี้ยง 30 คน โดยจะมากินอาหารในช่วงเย็นของวันที่ 10 ตุลาคม เธอเองจึงแจ้งกลับไปว่า ทางร้านรับจองและสามารถรองรับจำนวนคนได้ตามปริมาณที่ระบุเอาไว้ จากนั้นทางต้นสายก็ขอให้แอดไลน์เพื่อจะได้ส่งเมนูอาหารไปให้เลือก หลังจากมีการแอดไลน์กันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้พูดคุยกันและส่งเมนูอาหารไปให้ ซึ่งทางเขาเองก็ได้เลือกอาหารทั้งหมด 54 รายการ พร้อมกับขอให้ส่งหมายเลขบัญชีไปให้เพื่อจะโอนเงินมา 9,768 บาท แต่ปรากฏว่า…