รถบรรทุกน้ำมันเบนซิน 4.5 หมื่นลิตร ปลายทางท่าขี้เหล็ก เสียหลักลงข้างทาง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ทรรศ์ธนสรณ์ จุฑารัตน์ ผกก.สภ.แม่จัน ได้มีรถบรรทุกน้ำมันมาจาก อ.เมือง จ.เชียงราย เสียหลักลงข้างทาง ก่อนถึงด่านตรวจ เพียง 20 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน พ.ต.ต.ศุภกร ธนูศร สารวัตรสอบสวน สภ.แม่จัน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.แม่จัน หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นรถหัวลาก ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น GXZ360 หมายเลขทะเบียน 72-6825 ชลบุรี พร้อมลูกพ่วงเป็นถังบรรจุน้ำมันเบนซินจำนวน 45,000 ลิตร อยู่ในสภาพตะแคงลงไปในร่องน้ำข้างถนน ทำให้เสาไฟฟ้าเอียงลงมาแต่ไม่หัก โดยคนขับ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่จัน เนื่องจากบาดเจ็บที่หลัง โดยยังไม่ทราบชื่อนามสกุล โดยทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มีการปิดกั้นพื้นที่จราจรออก 1 ช่องทางเพื่อป้องกันอันตรายจากน้ำมันจำนวนมากภายในถังที่อาจจะเกิดประกายไฟได้…

           สาวค้างค่างวดรถ 6 งวดแต่ไม่คืนรถ โดนไฟแนนซ์โหดตามทวงยึดรถ ด้านลูก 8 ขวบจะถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานกลับโดนทำร้าย ขนของที่จะใช้ไปขายของทิ้งไว้ แล้วยึดรถไปเลย            วันที่ 8 ตุลาคม 2566 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า หญิงรายหนึ่งร้องเรียนต่อสื่อว่า สามีถุกกลุ่มไฟแนนซ์ที่ตามมายึดรถ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ ส่วนลูกวัย 8 ขวบก็ถูกทำร้าย เหตุจะถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุ ทำให้อาการของลูกตอนนี้อยู่ในภาวะผวา ตกใจกลัวกับภาพที่เห็นพ่อถูกทำร้าย            ส่วนรายละเอียดการกู้หนี้ยืมสิน ภรรยาผู้บาดเจ็บเล่าว่า ตัวเองอาศัยใน จ.พิษณุโลก ไปกู้หนี้นอกระบบมาประมาณ 1 แสนบาท และพยายามส่งหนี้นอกระบบทุกวัน รวมถึงหมุนเงินมาส่งงวดรถยนต์ด้วย แต่ก็ไม่สามารถหมุนได้ทัน ติดงวดรถยนต์ 6 งวด จึงตัดสินใจมาตั้งหลักที่กรุงเทพฯ ทำงานขายไส้กรอก ผลที่ได้คือ รายได้ไม่ดี ไม่ได้ช่วยเรื่องเงินค่างวดส่งรถ            กระทั่งถึงวันเกิดเหตุ สามีตนกับลูก 8 ขวบ ขับรถยนต์มาเจอกลุ่มไฟแนนซ์ที่ตามมายึดรถ มีคน 7 คนล้อมรถเอาไว้…

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 7 ต.ค.66 พ.ต.ต.ธราดล วงศ์เจริญยศ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งความจาก นายชุมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วิราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เจ้าของร้านขายน้ำดื่ม ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ที่ได้นำตะปูมาวางที่ลัอรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านของผู้ก่อเหตุ พร้อมนำตะปูที่ใช้ก่อเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพขณะก่อเหตุวางตะปูมาเป็นหลักฐาน ซึ่งภาพในกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ น.ส.วราภรณ์ ได้นำตะปูมาวางใต้ล้อหลังซ้าย ของรถยนต์เก๋ง สีขาว ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยมีสามียืนดูลาดเลาให้ จนกระทั่ง เจ้าของรถมาเห็น แล้วดึงตะปูออก ก่อนจะมีการโต้เถียงกัน นายชุมพล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเอง ขับรถมารับประทานก๋วยเตี๋ยว ได้จอดรถตรงเลยหน้าร้านขายน้ำดื่มของผู้ก่อเหตุ โดยตรวจสอบแล้วว่าเป็นพื้นที่จอดรถได้ หลังจอดเสร็จลงรถพบผู้ก่อเหตุมองด้วยความไม่พอใจ ไม่คิดอะไรเพราะจอดไม่นาน พอกลับมาที่รถ จึงเดินตรวจรอบรถก็พบกับตะปูวางอยู่ที่ล้อหลังด้านซ้าย พยายามสอบถามผู้ก่อเหตุ แต่ปฏิเสธ จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน…

รถเอนกประสงค์พุ่งตกท่อระบายน้ำ ขณะที่มีการก่อสร้างซ่อมแซม คาดคนขับไม่ทันได้สังเกตุป้ายเตือน รถพุ่งตกท่อระบายน้ำ วันนี้ (8 ต.ค.66) เมื่อเวลา 03.00 น. กู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เอนกประสงค์ตกท่อระบายน้ำ หน้าโรงเรียนชลชาย ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว ทะเบียนชลบุรี พุ่งตกลงในท่อระบายน้ำ ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างซ่อมแซมอยู่ โดยลักษณะรถตกลงไปเกือบทั้งคัน คนขับเป็นชาย ติดค้างอยู่ภายในรถ กู้ภัยเร่งช่วยเหลืออกมานำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี ส่วนรถได้ประสานรถยกชลบุรีให้ยกรถขึ้นมาจากหลุดท่อระบายน้ำซึ่งมีความลึกว่า 2-3 เมตร                 ส่วนจุดเกิดเหตุที่มีการซ่อมแซมท่อระบายนั้น มีการติดป้ายประกาศเอาไว้อย่างชัดเจน แต่คาดว่าคนขับอาจมองไม่เห็นได้สังเกตุ จึงขับรถพุ่งตกลงไป