วันอังคาร ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566, 16.51 น. เมื่อเวลา 13:30 น พ.ต.ต.สุนิญา อินเจริญ  ร้อยเวร สภ.ควนขนุน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยควนขนุนเข้าตรวจสอบอุบัติเหตุ บนถนนสายเอเชียฝั่งขึ้น ท้องที่หมู่ที่7 ตำบลพนมวังก์ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ในที่เกิดเหตุพบ ยนต์กระบะโตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน 4 ขท 4399 กรุงเทพมหานครชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 ทะเบียน กนษ 879 พัทลุง  ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นาย เดโช ดำหนูอินทร์ อายุ 53 ปี  ที่อยู่ หมู่ที่3 ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพขาด้านซ้ายหักผิดรูป ศีรษะถูกกระแทรกอย่างแรง นอนเสียชีวิตติดอยู่กับรถจักรยานยนต์ ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เร่งปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล ไม่มีชีพจร ก่อนจะยืนยันว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตทราบว่านายเดโช ฯ ผู้เสียชีวิตขี่ จยย กำลังจะไปเยี่ยมลูกเมียอีกตำบลหนึ่งหลังไปทำสวนอยู่ในพื้นที่อำเภอศรีบรรพต อยู่หลายวัน ก่อนจะมาประสบเหตุเสียชีวิตดังกล่า ด้านนางสาวกัญญาณัฐ  สุดจิตร์ อายุ 25  ปี ผู้ขับรถยนต์คู่กรณี เล่าให้ฟังว่า…

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ เตรียมยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ให้เห็นผลแบบ Quick Win นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดมหกรรมการจัดการความรู้จากบทเรียนโควิด 19 และโครงการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2566 “ยกระดับสาธารณสุขไทยเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2566 ตอนหนึ่งว่า การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ จะดำเนินการให้สอดรับความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค รักษาพยาบาลและฟื้นฟู ซึ่งตามการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี สิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กัน คือการดูแลเรื่องภาระงานของบุคลากรให้สมดุลและขับเคลื่อนไปข้างหน้า  นอกจากนี้ ต้องก้าวข้ามการทำงานที่อยู่เฉพาะมิติการแพทย์และสาธารณสุข เพราะยังมีมิติอื่นๆ ที่ต้องทำควบคู่ด้วย โดยใช้หลักการจัดการความรู้ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งทั้งหมดจะมีการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยให้เห็นผลเร็วที่สุดตามข้อสั่งการ Quick Win ของ รมว.สธ. นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การจัดงานประชุมวิชาการฯ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่มีความรู้ด้านวิชาการมาถ่ายทอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ส่วนมหกรรมการจัดการความรู้จากบทเรียนโควิด 19 นั้น เป็นเพราะช่วงเวลา 3 ปีของโรคโควิด 19…

กิน 4 พืชผักเหล่านี้มากๆ ระวังจะไม่สบายท้อง ท้องอืด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารนะ! เพราะพืชผักเหล่านี้เป็นผักที่ทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานหนัก ในบางคนก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สได้ ดังนั้นต้องกินพืชผักเหล่านี้ให้เหมาะสมเลย! ผักย่อยยาก 1. ผักดิบ โดยเฉพาะตระกูลกะหล่ำ      ผักดิบ อาจจะย่อยยาก เนื่องจากร่างกายของเราจะทำงานหนักเพื่อย่อยผักดิบ ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา แคร์รอต ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ผักเคล ปวยเล้งหรือผักโขม โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำอย่าง บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี เนื่องจากผักตระกูลนี้เป็นผักที่มีไฟเบอร์สูง มีน้ำตาลที่ย่อยไม่ได้ และเมื่อน้ำตาลเหล่านี้ถูกย่อย ในบางคนจะมีอาการท้องอืด แน่นเฟ้อ เรอ และไม่สบายท้อง 2. หอมหัวใหญ่ดิบ      อีกหนึ่งผักดิบที่ก็ย่อยยากเช่นกัน คือ หอมหัวใหญ่ดิบ โดยในบางคนอาจจะขับแก๊สออกมา เรอ ท้องอืด หรือรู้สึกไม่สบายระบบทางเดินอาหารหลังจากกินหอมหัวใหญ่ดิบเข้าไปได้ เนื่องจากหอมหัวใหญ่มีฟรุกแทน (Fructans) ที่ดูดซึมไม่ค่อยดีในลำไส้เล็ก อีกทั้งยังอาจไม่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้ท้องอืด มีแก๊ส หรือท้องเสียได้ 3. ธัญพืช…