วัน อยู่บำรุง ไม่เห็นด้วย ร้านอาหารไล่ ‘ส.ว.คนดัง’ พ้นร้าน ‘ตั๊ก มยุรา’ แนะแผ่เมตตา จากกรณีมีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ วานนี้ (29 กันยายน) คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ขณะที่ ส.ว.รายหนึ่ง เดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ แต่ถูกชายอ้างว่าเป็นเจ้าของร้านคนไทย ไล่ออกจากร้าน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงความเหมาะสมนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนดังในหลากหลายวงการต่างออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวด้วย เช่น นายวัน อยู่บำรุง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 28 บางบอน ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ถึงผมจะไม่ชอบในสิ่งที่คุณหญิงหมอทำในบางเรื่อง แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนในคลิปที่ไล่คุณหญิงหมออย่างหยาบคาย!!!” ขณะที่ ตั๊ก มยุรา นักแสดงและพิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ได้แสดงความเห็นในอินสตาแกรมต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ไม่ดีเลย เป็นการกระทำที่แย่มาก ลูกค้าทุกคนต้องเท่าเทียมกันหมด หมอมาเป็นลูกค้าคุณไล่ลูกค้าแบบนี้เหรอ หัดรู้จักแยกแยะ และเก็บอารมณ์บ้าง คุณจะเจริญขึ้น (ขอโทษไม่ใช่พวกใครทั้งนั้น แต่รักความถูกต้อง) เป็นกำลังใจให้คุณหมอค่ะ แผ่เมตตานะคะ” ทั้งยังได้ตอบกลับความเห็นของผู้ใช้รายหนึ่งที่ว่า “การที่เราจะไม่ให้บริการใครน่าจะเป็นสิทธิ์ของเราหรือเปล่านะ…

วันที่ 30 ก.ย.66  นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล  ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ออกจากพรรค เพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่หนึ่งของนายปดิพัทธ์ ตนเลือกเพราะพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอมา ถ้ายังดื้อรั้นต้องการกอดตำหน่งนี้ไว้ถือเป็นทุกขลาภโดยแท้ เหมือนเป็นการอุ้มระเบิดหรืออะไรที่ไม่ดีไว้จะเป็นทุกข์ นายอดิศร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยลงคะแนนให้ เพราะพรรคก้าวไกล ส่งมา เมื่อพรรคก้าวไกล ขับไล่ทุกขลาภออกจากพรรค ถือเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุดทางการเมือง วันนี้เมื่อพรรคก้าวไกล ไม่เอาแล้วตนก็ไม่จำเป็นต้องเคารพ หลังจากนี้จะทำงานไม่สะดวก เมื่อออกไปแล้วเงาหัวพรรคก้าวไกลถือว่าหายไปแล้ว การไปอยู่พรรคอื่นไม่สง่างาม แบบนี้ถือเป็นก้าวไกล ลิเก หมอลำ การละคร “อยากทำตัวให้สูงกว่าคนอื่น แต่ตัวเองทำตัวต่ำกว่าคนอื่น แบบนี้บอกดีๆ ว่าอยากได้สองตำแหน่งจะดีกว่า สังคมจะได้เห็นใจ ไม่ใช่ว่าทุกขลาภไม่ดี ขับออกจากพรรคเพื่อเอาตำแหน่งแบบนี้ ต้นตอแห่งความผิดไม่ใช่ทุกขลาภ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกล สร้างโดยแท้” นายอดิศร กล่าว

พิธา เห็นใจ “หมอพรทิพย์” ปมถูกไล่ออกจากร้านอาหาร แต่ก็เข้าใจประชาชน ชวนสร้างสังคมอดทนอดกลั้น-มีวุฒิภาวะ ชี้ต้องสร้างรูระบาย กำจัดขัดแย้ง เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. เดินทางไปต่างประเทศ และถูกเชฟคนไทยไล่ออกจากร้านอาหาร ว่า ตนอยากเชิญชวนทุกคนมาสร้างสังคมที่อดทนอดกลั้น แสดงออกอย่างอดทน อดกลั้นมีวุฒิภาวะ เชิญชวนให้มาสร้างระบบพรรคการเมืองที่ตรงไปตรงมา และมีรูระบายในการกำจัดความขัดแย้ง “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่ได้ช่วยอะไร ผมเป็นนักการเมือง เข้าใจเวลาลงพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไปกับครอบครัว ก็เจอการแสดงออกของประชาชนที่คล้ายๆ กัน เข้าใจว่าผมเป็นบุคคลสาธารณะ แต่การอนุญาตให้แสดงออกโดยไม่คำนึงถึงระบบก็น่าเสียดาย” นายพิธา กล่าว นายพิธา กล่าวว่า จากที่ได้ตามข่าวมา คู่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นคนที่ชื่นชอบคุณหญิงพรทิพย์ แต่เกิดขึ้นจากระบบที่ไม่ตรงไปตรงมา และระบบทำให้เกิดความขัดแย้ง มาจากเสียงประชาชนที่มาจากเลือกตั้ง และเสียงในสภาที่มาจากการแต่งตั้ง เกิดความอึดอัดที่ต้องระบายออก “ผมเข้าใจพี่น้องประชาชนที่อดทนอดกลั้น และรู้สึกไม่สบายใจกับการเข้าสู่อำนาจของการเมืองไทย ถ้าระบบมันดีเรื่องลักษณะแบบนี้ก็จะน้อยลง เพราะมีรูระบายในระบบ แต่ในส่วนของบุคคล ความมืดไล่ความมืดไม่ได้ แต่ต้องเป็นความสว่าง จึงอยากให้ช่วยกันสร้างสังคมที่อดทนอดกลั้น…

               “สฺวี เค่อ” หรือในประเทศไทยมักเรียก “ฉีเคอะ” เขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง, ผู้เขียนบท และผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงชื่อดัง ที่มีผลงานมากมายโดยเฉพาะภาพยนตร์แอ๊คชั่น ในช่วงทศวรรษที่ 80 และทศวรรษที่ 90 เช่นเดียวกับ “จอห์น วู”  โดดเด่นอย่างมากในภาพยนตร์แนวแฟนตาซี-กำลังภายใน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพ่อมดแห่งหนังฮ่องกง “สตีเว่น สปีลเบิร์ก” แห่งเอเชีย                “สฺวี เค่อ” เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ คศ.1950 ที่กรุงไซ่ง่อน เวียดนามใต้ เมื่ออายุได้ 13 ปี ครอบครัวได้เดินทางมาตั้งรกรากที่ฮ่องกง “สฺวี เค่อ” มีความสนใจในศาสตร์ด้านภาพยนตร์ตั้งแต่เด็กๆ โดยร่วมกันสร้างภาพยนตร์ขนาด 8 มม. กับเพื่อนๆ และต่อมาได้เข้าศึกษาด้านศิลปะภาพยนตร์ระดับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา                “สฺวี เค่อ” จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน ในปี…

ตำรวจคุมตัวฝากขัง “เจษฎา” ร่วมกันฆ่า-ซ่อน-ทำลายศพลูก ตร.พบหลักฐานสำคัญ ในห้องพักจุดสุดท้ายที่ “เอ็ม” ใช้หลบหนีก่อนโดนจับ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 66 ครอบครัวของ “น้องกี๋” หญิงสาวอายุ 15 ปี ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยแม่และยายได้จุดธูปบริเวณสระน้ำบึงบัวใหญ่ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา  พร้อมกับทำพิธีตามความเชื่อ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของญาติๆ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ที่ร้องไห้ตลอดเวลา แม่ของ “น้องกี๋” เปิดเผยว่า อยากให้ลูกสาวไปสบาย ไม่ต้องมีห่วงอะไร หลังจากนี้ก็จะดูแลยาย และน้องสาวให้ดี  ขอให้ลูกอย่าโกรธแค้น และไปในภพภูมิที่ดี “ให้เขาไปอย่างไม่ต้องมีห่วงอะไร แม่จะดูแลยาย ดูแลน้องสาวให้ดี ไปแบบไม่ต้องห่วงอะไรเลย ไปให้มีความสุข ไปใช้ชีวิตให้มีความสุขเลย โทรศัพท์ก็ให้เขาไปเถอะลูก อะไรที่ตัดไปแล้วก็ตัดไปเลย คืออโหสิกรรมไปเลย ไม่อยากให้เขามีห่วงมีเวรมีกรรมอะไร ให้เขาไปแบบสบายใจ คิดถึงเขาไหมตอนนี้ มาก เป็นไปไม่ได้เนาะที่เราจะไม่รัก ไม่คิดถึงเขา ทำไม่ได้หรอกจะกี่ปีกี่ชาติจนกว่าเราตายเราก็รักคิดถึงเขาเหมือนเดิม แต่เราก็ขอให้เขาไปดี อยากให้เขามีความสุขไม่ต้องห่วงกังวลอะไร ไม่ต้องโกรธแค้นใคร” แม่ของ “น้องกี๋” กล่าว…