และคีย์สำคัญอีกหนึ่งในเรื่องนี้ก็คือ เหล่านักนำแสดง ที่ฝีมือดี และยังแสดงได้แบบสมจริง ธรรมชาติมาก นำด้วยหนุ่มหล่อมาดเท่อย่างแด๊ดดี้คนเก่ง คุณเวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบทเป็น “มานิตย์” ซึ่งเขานั้นเป็นหัวหน้าพนักงานของบริษัท โอสถเทพยดา ที่รับหน้าที่เป็นนักพากย์ ซึ่งเขาก็ต้องพากย์ทั้งเสียงของผู้ชายและผู้หญิง มานิตย์เป็นผู้ชายที่เป็นผู้นำ สุขุม แต่ตลก มีมุมทะเล้ย เป็นสุภาพบุรุษและเสียสละเสมอ ช่องทางการติดตามเวียร์ ศุกลวัฒน์ Instagram : @weir19 และตามมาด้วยนักแสดงคนต่อมา นั่นคือหนูนา หนึ่งธิดา โสภณ รับบทเป็น “เรืองแข” เธอนั้นเป็นหญิงสาวที่เข้ามาพากย์เป็นเสียงผู้หญิงในคณะ เพราะเกิดจากที่ทั้ง 3 มานิตย์ เก่า และลุงหมานคิดว่าหากเรายังใช้มานิตย์พากย์ทั้งเสียงผู้หญิงและผู้ชายยอดของเราก็ตกต่ำลง เลยจ้างเรืองแขมาแบบแอบ ๆ เพราะมันผิดกฎของบริษัท ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ออกมาได้ดี ทำให้ยอดการขายเพิ่มขึ้น ช่องทางการติดตามหนูนา หนึ่งธิดา Instagram : @noona_nuengtida เก้า จิรายุ ละอองมณี แสดงเป็น “เก่า” เป็นหนึ่งในสามของพนักงานของบริษัท โอสถเทพยดา เป็นคนที่จัดการเรื่องการฉายหนัง เขาเป็นคนทะเล้น เจ้าชู้ ติดเล่น จนบางครั้งทำให้ทำให้หน้าที่บกพร่องบ้าง ช่องทางการติดตามเก้า จิรายุ Instagram : @kaojirayu_9 และสุดท้ายท้ายสุดคือ สามารถ พยัคฆ์อรุณ รับบทเป็น “ลุงหมาน” ที่เขานั้นเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท โอสถเทพยดา รับหน้าที่เป็นคนขับรถพาคณะไปทัวร์ยังจุดโชว์ต่าง ๆ เป็นลุงที่นิสัยดี ใจดี ช่องทางการติดตามสามารถ พยัคฆ์อรุณ Instagram : @samartpayakaroon สำหรับภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักพากย์ (Once Upon A Star) เราให้คะแนนอยู่ที่ 9/10 ถือว่าเป็นหนังแนวฟีลกู๊ด ดูแล้วมีกลิ่นอายของยุค 60’s ที่อบอุ่น ได้ดูของวินเทจ และวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นด้วย และที่สำคัญหนังยังพาเราไปสัมผัสรถฉายหนังขายยาที่ปัจจุบันหาดูไม่ได้อีกแล้ว โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักพากย์ (Once Upon A Star) ได้แล้วทาง Netflix ความยาว 2 ชั่วโมง 18 นาที #มนต์รักนักพากย์#NetflixTH เครดิตภาพหน้าปกโดย Netflix ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @netflixth…

3. ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งและมีความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากไลโคปีนในมะเขือเทศมีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดมะเร็ง ดังนั้นการทานมะเขือเทศจึงเป็นประโยชน์ในกรณีนี้ค่ะ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกายได้ ตลอดทั้งวิตามินและแร่ธาตุในมะเขือเทศ เช่น วิตามินซีและวิตามินเอ ยังสามารถสนับสนุนการทำงานปกติของระบบภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย และเส้นใยอาหารในมะเขือเทศยังสามารถส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีขึ้นได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการฟื้นฟูสุขภาพและในระหว่างการรักษามะเร็งค่ะ จากที่พ่อของผู้เขียนมีโอกาสตรวจหามะเร็งล่าสุดนั้นผลออกมาปกติดีค่ะ และแม่ที่ได้ตรวจมะเร็งปากมดลูกก็พบว่าปกติอีกเหมือนกันค่ะ 4. นักกีฬา มะเขือเทศสามารถเป็นผักที่เป็นประโยชน์ของนักกีฬาได้ค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่ามะเขือเทศมีปริมาณน้ำตามธรรมชาติที่สูง จึงสามารถช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นในร่างกายให้เหมาะสมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาที่สูญเสียของเหลวเนื่องจากเหงื่อออกระหว่างออกกำลังกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศยังสามารถช่วยลดความเครียด และการอักเสบจากปฏิกิริยาในร่างกายที่เกิดจากการออกกำลังกายได้ด้วย จึงดีเพราะช่วยในการฟื้นสุขภาพหลังการออกกำลังกายค่ะ อีกทั้งวิตามินซีและโพแทสเซียมในมะเขือเทศมีความสำคัญต่อการเผาผลาญพลังงาน การทำงานของระบบกล้ามเนื้อและการมีสุขภาพดีโดยภาพรวมจึงดีเวลาทานมะเขือเทศค่ะ ประกอบกับในมะเขือเทศมีกากใยอาหารที่สามารถส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีขึ้นได้ จึงลดความเสี่ยงของปัญหาระบบทางเดินอาหารที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการฝึกซ้อมหรือการแข่งขันได้ค่ะ 5. ผู้ต้องการดูแลสุขภาพผิว วิตามินในมะเขือเทศมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรงขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้ที่สนใจเรื่องสุขภาพผิวค่ะ เพราะมะเขือเทศมีประโยชน์ต่อผิวจากที่มะเขือเทศเป็นแหล่งของวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวหนึ่งที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวีและปฏิกิริยายองอนุมูลอิสระได้ค่ะ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้สามารถส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแก่ก่อนวัยและปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ค่ะ รวมไปถึงวิตามินซีในมะเขือเทศยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจนค่ะ โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยเสริมโครงสร้างและความยืดหยุ่นของผิวจึงช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ได้ค่ะ และการมีน้ำมากของมะเขือเทศนี้ยัวสามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้ จึงทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและดูอวบอิ่มแลดูสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ และจากที่สังเกตตัวเองมานะคะผิวยังเต่งตึงค่ะไม่ดูแก่ก่อนวัยและมีริ้วรอยน้อยมากค่ะ 6. ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพดวงตา มะเขือเทศมีประโยชน์ในการดูแลดวงตาเนื่องจากมีสารอาหารที่สำคัญค่ะโดยเฉพาะวิตามินเอ ซึ่งวิตามินเอที่ดีในมะเขือเทศนี้จำเป็นต่อการมองเห็นที่ดีขึ้น เพราะวิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของกระจกตาซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของดวงตาของคนเราค่ะ และไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะเขือเทศนั้น ยังช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายจากปฏิกิริยาจากอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาด้านดวงตาที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น จอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจกค่ะ และจากที่ผู้เขียนพยายามหาโอกาสทานมะเขือเทศมาตลอดนั้น ตอนนี้ก็ได้เห็นผลลัพธ์ค่ะเพราะตัวเองยังเป็นมนุษย์สองตาอยู่ และไม่เคยใส่แว่นค่ะ และที่บางครั้งบางคนเห็นผู้เขียนใส่แว่นตานั้นใส่เพราะเป็นเครื่องประดับค่ะกับใส่แว่นกันแดดกันลมเท่านั้น และในขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ก็ไม่ได้ใส่แว่นตานะคะ รวมถึงไม่เคยใช้อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถในการมองเห็นด้วย…