จากคู่จิ้นหรือจะเป็นคู่จริง “โตโต้ ภูธนิน- ปิ่น ปินัทธิ์”คู่พระนางขวัญใจชาวบ้านจาก “โกมินทร์”    เรียกว่าสาดความหวานหลังละครจบสำหรับสองคู่พระนางที่หวานเสียเหลือเกิน “ภูธนิน สินสมใจ” และ “ปิ่นปินัทธ์ นิธิศกุลไพศาล” ล่าสุดทั้งสองพร้อมใจกันลงภาพคู่อย่างกับพรีเวดดิ้งพร้อมข้อความประทับใจหลังละครจบ         “ปิ่น ปินัทธ์ นิธิศกุลไพศาล” เธอโพสต์ตอนอวสานของละครเรื่องดังกล่าวว่า ได้เวลาบอกลา “องค์หญิงธนูทอง” ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี คุณปู่หรั่ง ป้ากุ้ง คุณแม่ผู้จัดการสุดสวย และทุกๆคน ที่ให้โอกาสโดได้รับบทบาทขององค์หญิงธนูทอง ขอบคุณพี่ๆน้องๆนักแสดงทุกคนที่คอยบอกคอยสอนหนูตลอดทั้งเรื่องเลยธนูทองเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่สนุกมากกแต่ขี้ดื้อเหมือนเดิม         ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ติดตามและซัพพอร์ตโดมาตั้งแต่ตะเภาแก้วจนถึงธนูทอง ขอบคุณแฟนคลับใหม่ๆที่คอยซัพพอร์ตปลอบใจโดทุกอย่างทุกเรื่องเลย ฝากนิดจามละครเรื่องต่อๆไปของโดด้วยนะคะ       “โดรักทุกคนเลย อย่างสุดท้ายโดรักธนูทองมาก ๆ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดหลายเดือนนะธนูทอง ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์หลายๆอย่างกับตัวโด”        นอกจากนั้นเธอยังได้ลงภาพคู่หวานๆ กับ “โตโต้” พร้อมข้อความว่า การมีแฟนที่ดี คือ การมีแฟนเป็นเรานะ…

ร่วมทำความรู้จัก ‘โสภณ ราชรักษา’ มือกรุที่ดินเจ้าสัวเจริญ มาร่วมขับเคลื่อนลุยโลจิสติกส์ไทยเบฟ สานเป้าหมายสร้างธุรกิจขับเคลื่อนโลจิสติกส์สู่ความยั่งยืน วางหมากธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน   เป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ดึง “โสภณ ราชรักษา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) และกรรมการบริหาร ที่ถูกขนานนามว่า เป็นกรุที่ดินของกลุ่มที่ดินเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มาร่วมบริหารด้านโลจิสติกส์ ของกลุ่มไทยเบฟ สำหรับ ไทยเบฟเวอเรจ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคป 11.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.92 แสนล้านบาท (ณ 30 ก.ย.2566) อยู่ในอันดับ 9 ในภูมิภาคเอเชีย มี 4 พอร์ตโฟลิโอ สำคัญทั้งกลุ่มสุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และกลุ่มอาหาร โดยต่างเป็นกลุ่มที่ต้องใช้การขนส่งสินค้าจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน เพื่อกระจายสินค้าไปยังคู่ค้าและร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก จำกัด บริหารจัดการและวางนโยบายไปสู่การขนส่งแบบอัจฉริยะ  จากข้อมูลในช่วงปี 2563 ไทยเบฟ รายงานว่ามี…

15 ต.ค. 2566 15:19 น. มันใช่เวลามั้ย! สาวโวยรถพยาบาลรับพ่อป่วย จอดรถซื้อกล้วยทอดก่อนถึงรพ. ดราม่าเดือดบนโลกโซเชียล ญาติผู้ป่วยได้โพสต์คลิปวิดีโอซึ่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม กรณีที่บุคลากรทางการแพทย์ขับรถกู้ชีพ แวะซื้อกล้วยทอด ไม่เร่งรีบไปส่งผู้ป่วยที่โรงพยาบาล แม้คนไข้มีอาการแน่นหน้าอก คลิปดังกล่าวลูกสาวผู้ป่วยเล่าว่า พ่อมีอาการแน่นหน้าอกจึงโทรศัพท์ไปยังสายด่วนฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีการพูดคุยประเมินอาการ แจ้งให้โรงพยาบาลในพื้นที่ส่งรถกู้ชีพมารับ อ่านข่าวนี้

ถือเป็นเรื่องที่ “สังคม” ทวงถามจนเป็นกระแสขึ้นมาทันที หลังเกิดเหตุรุนแรงกราดยิงในห้างฯใหญ่กลางเมือง ว่าเหตุใด? ประเทศไทย จึงยังไม่มีการทำระบบ เอสเอ็มเอส (  SMS) หรือ ข้อความสั้น  เพื่อใช้แจ้งเตือนประชาชน เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินและ ภัยพิบัติต่างๆ!?! เพื่อให้ประชาชนชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้รับรู้ถึงความเสี่ยงถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น  พายุ น้ำท่วม  และอาชญากรรมรุนแรง เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือให้ดีที่สุด ในการป้องกันความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินของตนเองและครอบครัว!! ซึ่งการเตือนภัย! จากหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ เช่น  ญี่ปุ่น  เกาหลี และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น มีการทำมานานแล้ว!?! ทั้งการเกิดพายุรุนแรง แผ่นดินไหว  การแจ้งเตือนเรื่องฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ติดตัวที่เข้าถึงประชาชนได้ง่ายและเร็วที่สุดที่สามารถใช้เตือนภัยให้ถึงประชาชนได้เร็วที่สุด นอกเหนือจาก ทีวี และวิทยุ!! พชร นริพทะพันธุ์  เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว จึงทำให้รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องการให้เรื่อง  เซลล์  บรอดแคสต์ ( Cell Broadcast ) หรือ ระบบส่งข้อมูลโดยตรงจากเสาสัญญาณ ไปสู่โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในพื้นที่ให้บริการพร้อมกัน ในรวดเดียว เพื่อแจ้งเตือนภัยในประเทศไทย เกิดขึ้นสำเร็จได้ทันที ทำให้ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รมว. ดีอี รับลูก ได้ประสานทาง กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อทำ ระบบเซลล์ บรอดแคสต์ โดยคาดว่าจะใช้เวลาเร็วสุด ภายใน 6 เดือน และอย่างช้า ไม่เกิน 1 ปี  อย่างไรก็ตามในการดำเนินการของ กสทช.ที่ผ่านมา ได้วางระบบแจ้งเตือนภัยไว้ 2 ระยะ โดยระยะแรกจะแป็นการแจ้งเตือนผ่านระบบโลเคชั่น เบส เซอร์วิส (แอลบีเอส) แต่เป็นระบบที่ใช้เวลาประมวลผลนาน ส่วน ส่วนระยะที่ 2 คือ ระบบเซลล์ บรอดแคสต์ ซึ่งจะทำให้มือถือที่ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ ก็จะสามารถส่งข้อความ เข้ามือถือได้ทันที !?! แต่การทำ เซลล์ บรอดแคสต์ ทางผู้ให้บริการมือถือ จะต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับเปลี่ยน…

“รถถัง” – “ไมกี” สองนักสู้ดีกรีแชมป์โลก ONE สานสัมพันธ์แน่นแฟ้น เกิดเป็นมิตรภาพแบบไร้พรมแดน เรียกรอยยิ้มจากแฟนกีฬาการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ส่องความน่ารักของสองคู่ซี้นอกสังเวียน “ดิ ไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) กับ “หนุ่มเนิร์ด” ไมกี มูซูเมกี แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต วัย 27 ปี จากสหรัฐอเมริกา แม้จะเกิดคนละชาติ พูดคนละภาษา แต่ด้วยใจรักในศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน และพูดคุยกันถูกคอ ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักคอยสนับสนุนกันและกันอยู่ตลอดเวลา “ไมกี” แวะหา “รถถัง” ที่ค่ายลูกทรายกองดิน จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ทำให้ทั้งคู่สนิทกันเริ่มจาก “ไมกี” คอยช่วยเหลือเรื่องการทำน้ำหนักให้กับ “รถถัง” ตอนไปเปิดตัวที่อเมริกา ในศึก ONE Fight Night 10 เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนต่างเก็บชัยชนะได้ด้วยกันทั้งคู่…