-
นักโภชนาการชื่อดัง‘ดร.ลูอิจิ แกรทตัน’เผยสุขภาพชีวิตดีด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ
เพียงชั่วข้ามคืน การระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนนับล้านทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนมากมายตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีและส่งผลให้หลายคนต้องหันกลับมามองวิธีการดูแลร่างกายและรับมือกับสุขภาพจิตของตัวเองในแต่ละวัน การเปลี่ยนแปลงนี้ยังถูกตอกย้ำให้เห็นอย่างเด่นชัดผ่านผลการสำรวจลำดับความสำคัญด้านสุขภาพของ เฮอร์บาไลฟ์เอเชียแปซิฟิก ที่จัดทำขึ้นในเดือนเมษายนปี 2566 ซึ่งพบว่า การแพร่ระบาดทำให้ผู้คนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีการประเมินลำดับความสำคัญใหม่ โดยจำนวนกว่า 77% หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและหากเจาะลึกลงผลการสำรวจลงไป จะพบว่าเกือบ 7 ใน 10 คน มีการเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญด้านสุขภาพ โดยเป้าหมายด้านสุขภาพอันดับแรกที่ผู้คนกำลังทำอยู่คือ การมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น 51% รองลงมาคือ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน 46% รวมทั้งการนอนหลับที่ดี 46% มีนิสัยการกินเพื่อสุขภาพ 42% และสุขภาพจิตที่ดีขึ้น 40% นอกจากนี้ ยังพบว่า 46% ของคนอายุน้อยให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้นหลังการแพร่ระบาด เทียบกับคนอายุมากกว่าอยู่ที่ 34% ในขณะที่ 50% ของ Gen X และ Baby Boomers ให้ความสำคัญกับการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากกว่าคนรุ่น Gen Z และ Millennials ที่ให้ความสำคัญอยู่ที่ 42% ดร.ลูอิจิ แกรทตัน (Dr.Luigi Gratton) รองประธานฝ่ายการฝึกอบรมด้านโภชนาการ เฮอร์บาไลฟ์ออกมาเปิดเผยว่า การจะบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพข้างต้นได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการที่ซับซ้อน แค่มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 อย่าง คือ 1.การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม 2.การออกกำลังกายเป็นประจำ และ 3.การได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีได้เช่นกัน โภชนาการที่ดี มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพโดยรวม ทั้งในแง่ของรูปร่างและความแข็งแรง ดังนั้น ร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสม รวมถึงของเหลวเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ที่ เฮอร์บาไลฟ์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำถึงปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวันว่า 30% ต้องมาจากพืชหรือโปรตีนไร้มันจากสัตว์และอีก 40% มาจากคาร์โบไฮเดรตที่เป็นประโยชน์ เช่น ธัญพืช ถั่ว ผักและผลไม้ นอกจากนี้ ไขมันยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม โดยไขมันที่บริโภคต้องเป็นไขมันดี เช่น…
-
Inscrições abertas para edital público do Ministério da Cultura
Estão abertas as inscrições para o edital de chamamento público para a Programação Cultural da Biblioteca Demonstrativa Maria da Conceição Moreira Salles (BDB), em Brasília. Entre as inscritas, será selecionada uma organização da sociedade civil (OSC) para realizar a Programação Cultural da Biblioteca e, consequentemente, fomentar a cena cultural da capital federal. As inscrições estão…
-
รถสตาร์ตไม่ติด ไม่มีเสียง เป็นเพราะอะไร
รถสตาร์ตไม่ติด ไม่มีเสียงอะไรเลย สาเหตุที่พบบ่อยเมื่อรถสตาร์ตไม่ติดและไม่มีเสียงการทำงานจากอุปกรณ์ส่วนใดในรถยนต์ ส่วนใหญ่อาจเกิดจากปัญหาเหล่านี้ ปัญหารถสตาร์ตไม่ติด เป็นปัญหาที่ค่อนข้างกว้างและเกิดขึ้นได้จากหลายส่วนในรถยนต์ แต่ถ้าหากรถสตาร์ตไม่ติด ไม่มีเสียงอะไรเลย อาการลักษณะนี้ ซึ่งไม่มีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดทำงาน สามารถพอให้คาดเดาได้ว่าปัญหารถสตาร์ตไม่ติดนั้นเกิดจากอะไร และปัญหาที่พบได้บ่อยมักมาจากสาเหตุใด และควรรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร รถสตาร์ตไม่ติด ไม่มีเสียงอะไรเลยปัญหาเกิดจากจุดไหนได้บ้าง 1. แบตเตอรี่เสื่อม สาเหตุที่พบบ่อยมากที่สุดเมื่อรถสาร์ตไม่ติดและไม่มีเสียงใด ๆ ตอบสนองก็คือ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือไม่มีไฟเมื่อรถถูกจอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้มีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ให้ลองสตาร์ตรถโดยใช้รถคันอื่นพ่วงแบตเตอรี่ หรือเครื่องจั๊มสตาร์ตเพื่อสตาร์ตรถ หากไม่ได้ผล อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ 2. สวิตช์คอกุญแจมีปัญหา หากไฟแบตเตอรี่เต็ม อีกสาเหตุทั่วไปที่รถสตาร์ตไม่ติด มักมาจากสวิตช์สตาร์ตเครื่องยนต์ชำรุด หากสวิตช์กุญแจไม่ดี หน้าสัมผัสเสียหาย ก็จะไม่สตาร์ตเครื่องยนต์ได้เมื่อบิดกุญแจ และอาจต้องเปลี่ยนสวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์ 3. ไดร์สตาร์ตพัง อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ตไม่ติดและไม่มีเสียงชิ้นส่วนใดทำงาน อาจเป็นเพราะมอเตอร์สตาร์ต หรือไดสตาร์ตเสีย เช่น แปรงถ่านเสื่อม สกปรก บางครั้งการใช้วิธีเคาะไดชาร์จอาจช่วยให้สตาร์ตรถติดได้ ซึ่งอาการในช่วงแรกอาจติดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง การแก้ไขที่ดีสุดคือ การเปลี่ยนไดสตาร์ตใหม่ทันที 4. ปั๊มเชื้อเพลิงเสีย เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด สามารถเกิดจากปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุดได้ เพราะมีหน้าที่ดูดน้ำมันเบนซินจากถังไปป้อนหัวฉีดเพื่อจุดระเบิดให้เครื่องยนต์ทำงาน หากปั๊มเชื้อเพลิงไม่ทำงาน ก็จะไม่มีน้ำมันจ่ายไปยังหัวฉีด…
-
สทน. พร้อมตรวจอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ป้องกันปัญหาการปนเปื้อนรังสี
31 ส.ค.66 – ห้องปฏิบัติการ สทน. พร้อมตรวจวัดปริมาณรังสีที่อาจปนเปื้อนในอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นลดความกังวลผู้บริโภค จากเหตุการณ์การปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่บำบัดแล้ว ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก จากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะไดอิจิแม้ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมการใช้ประโยชน์จากนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ จะอนุมัติให้ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการตามแผนดังกล่าว และยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและประชาชนโดยรอบ แต่การดำเนินการดังกล่าวยังก่อให้เกิดความวิตกกังวลโดยเฉพาะกับประเทศที่นำเข้าอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่น ในกรณีการปล่อยน้ำของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะไดอิจิ ที่หลายประเทศกังวลว่าอาจมีสารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้แก่ ซีเซียม-134 ซีเซียม-137 คาร์บอน-14 และตริเตียม สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับ กรมประมง กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและตรวจสอบอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2563 เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน เป็นเกณฑ์การตรวจสอบสินค้านำเข้าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน.ได้สั่งการให้ศูนย์บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์และศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสีเตรียมความพร้อม เพื่อให้บริการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารกัมมันตรังสีที่อาจปนเปื้อนมาในอาหารทะเล และถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจาก สทน.ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจวิเคราะห์สารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนในอาหารได้ ปัจจุบันห้องปฏิบัติการของศูนย์บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์ สทน. สามารถตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อน ไอโอดีน-131 ซีเซียม-134 และซีเซียม-137 ในอาหารได้ ส่วนคาร์บอน-14 สามารถตรวจได้ในห้องปฏิบัติการศูนย์วิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ และตริเตียมในตัวอย่างน้ำชนิดต่างๆ สามารถตรวจได้ที่ห้องปฏิบัติการศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสี สำหรับผู้ประกอบการที่นำเข้าอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่น หากมีความกังวลใจหรือมีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค สามารถส่งตัวอย่างสินค้าที่นำเข้ามาตรวจปริมาณสารกัมมันตรังสีที่ห้องปฏิบัติการของ สทน. ซึ่งหากตรวจสอบแล้วไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี สทน. รายงานผลการวิเคราะห์ตามระบบคุณภาพมาตรฐานISO/IEC17025 เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้อีกทางหนึ่ง ส่วนผู้ประกอบรายใดต้องการนำสินค้าตรวจวัดปริมาณรังสีพร้อมออกใบรับรองเพื่อการส่งออก ก็สามารถขอรับบริการได้เช่นกัน โดยสามารถติดต่อขอรับบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมงานบริการได้ที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ สทน. (One Stop Service) โทร. 02-4019889 ต่อ5980,5990 ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.
-
Huyền Trang bày tỏ nỗi nhớ quê hương tha thiết bằng âm nhạc
Ca sĩ Huyền Trang vừa ra mắt khán giả MV Quê ơi, là món quà mà cô gửi tặng khán giả, cũng như đánh dấu tròn 10 năm Huyền Trang đăng quang ngôi vị Quán quân dòng nhạc dân gian tại cuộc thi Sao Mai 2013. Quê ơi là một sáng tác của Thế Anh…
-
ช็อก! ผัวเมียไต้หวันทะเลาะกันในรถ เมียเปิดประตูโดด กลิ้งกลางถนน เกือบโดนรถทับ
EBC News สถานีข่าวของไต้หวัน นำเสนอเรื่องราวสุดช็อก ในเมืองจั่วหยิง เกาสง ไต้หวัน หลังสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทะเลาะกันขณะขับรถ จุดเกิดเหตุอยู่ที่ทางแยกต่างระดับถนน Cuihua จู่ๆ ฝ่ายภรรยาก็ทำสิ่งไม่คาดคิด คือเปิดประตูรถ แล้วโดดออกมาด้วยความโกรธ ทำให้เธอล้มกลิ้งบนถนน ส่วนรถคันหลังที่ขับตามมา ต้องรีบเบรกกะทันหันเพื่อไม่ให้ชน หรือทับร่างของเธอ ซึ่งก็ถือว่าเฉียดฉิวไปไม่กี่วินาที โชคดีที่รถของสามีภรรยาขับมาไม่เร็ว ทำให้ผู้หญิงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีแผลฟกช้ำที่เท้าทั้งสองข้างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการกระโดดลงจากรถส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการจราจร ทั้งคู่จึงถูกตำรวจปรับ 500 หยวน (ประมาณ 2,400 บาท) ตำรวจเข้าสอบสวนหญิงที่โดดลงจากรถ วัย 32 ปี ให้การว่าเธอทะเลาะกับสามีในรถ ด้วยความโกรธและอารมณ์ชั่ววูบ เธอตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วกระโดดลงจากรถ โชคดีที่รถที่ตามมาขับช้า ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะร้ายแรงกว่านี้
-
Pet Us จับมือ SC Johnson จัดกิจกรรม “Family Day with Family Guard” ดึงไอซ์ พาริส และครอบครัวแก๊งสี่ขา แชร์เคล็ดลับดูแลสุขอนามัยน้องหมา
31 ส.ค. 2023 Pet Us จับมือ SC Johnson จัดกิจกรรม “Family Day with Family Guard” ดึงไอซ์ พาริส และครอบครัวแก๊งสี่ขา แชร์เคล็ดลับดูแลสุขอนามัยน้องหมา พร้อมเจาะกลุ่มครอบครัวคนรักสัตว์เลี้ยง จำหน่ายผลิตภัณฑ์แฟมิลี่การ์ดใน Pet Us ที่แรก Pet Us (เพ็ทอัส) ธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงครบวงจรโดยโลตัส จับมือพันธมิตรแบรนด์ดัง SC Johnson จัดกิจกรรม “Family Day with Family Guard” พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ไอดอลหนุ่มสุดหล่อ ‘ไอซ์ พาริส’ และแก๊ง 4 ขา นำทัพโดย ข้าวซอย ข้าวนึ่ง ข้าวมัน สามข้าวแฟมิลี่, คิ้วคือมงกุฎของแค, Captain Quint’s Family และอีกมากมาย แชร์เคล็ดลับการดูแลสุขอนามัยที่ดีของน้องหมา พร้อมประกวดด็อกโชว์ และกิจกรรมพิเศษแจกของรางวัลอีกเพียบ ส่งความสุขให้ครอบครัวน้องหมา ที่โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ พิเศษ ส่งผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อ Family Guard ขยายเจาะกลุ่มครอบครัวสัตว์เลี้ยง…
-
สน ยุกต์ โมเมนต์เล่นกับเจ้าเหมียว ชาวเน็ตแห่โฟกัสผิดจุด บอกไม่ได้ดูแมวเลย
access_time31 ส.ค. 2566 เวลา 17:48:39 สน ยุกต์ โพสต์คลิปลงอินสตาแกรมส่วนตัว sonyuke พร้อมแคปชั่นว่า “ไวจังเลยนะแม่ราชสีห์ #ทาสแมว#แมวอ้วน#คนรักแมว#cat#catlover” สน ยุกต์ ดาราหน้าหล่อกล้ามแน่น เผยโมเมนต์น่ารัก ๆ คู่กับแมวขนฟู แต่งานนี้ทำเอาแฟน ๆ โฟกัสผิดจุด เพราะกล้ามแน่น ๆ กับความหล่อกระชากใจ หลายคนคอมเมนต์ไม่ได้มองแมวเลยจ้า
-
ตายสยอง! สาววัย 20 เมารถหนัก สุดกลั้นเปิดหน้าต่างอ้วก ช็อกรถใหญ่ขับแซงมาบดหัว
สาวนั่งรถไปหาน้องชาย เมารถสุดกลั้นต้องเปิดหน้าต่างอาเจียน สุดท้ายกลายเป็นภาพช็อก รถใหญ่ขับชนหัวดับคาที่ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุสลดกับ “Babli Kumari” หญิงวัย 20 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อเธอโผล่หัวออกมาอาเจียนนอกรถบัสเนื่องจากเมารถ เป็นผลให้ถูกรถอีกคันชดเข้าที่ศีรษะและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคู่กรณีขับหลบหนีไปทันที ตามรายงานพบว่า ก่อนเกิดเหตุเธอกำลังนั่งรถบัสไปพร้อมครอบครัว เพื่อเยี่ยมเยียนน้องชายที่เมืองลูดิฮานา แต่เนื่องจากระหว่างเดินทางเกิดเมารถ จึงโผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่ออาเจียน ในจังหวะนั้นเองมีรถคันใหญ่ขับแซงขึ้นมา พุ่งชนเข้ากับศีรษะของเธอ ส่งผลให้เสียชีวิตสลดในที่เกิดเหตุ พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า “ใครๆ ก็ตกใจเมื่อเห็นเธอ หัวของเธอถูกบดขยี้และถูกทับระหว่างรถสองคัน แต่อีกคันกลับไม่หยุด และขับหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ” ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า อุบัติเหตุทำให้เหยื่อเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และคนขับหลบหนีไปทางกรุงเดลี ตอนนี้ยังไม่สามารถค้นหาตัวคนขับรถคู่กรณีได้ ซึ่งเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตคาดว่าเป็นรถบรรทุกหรือรถบัส จากนี้จะมองหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง
-
กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศ 77 เมนูอาหารประจำจังหวัด แต่คนพื้นที่งง ‘อิหยังวะ’
กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศ 77 เมนูอาหารประจำจังหวัด 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น แต่หลายเมนูได้มีคนพื้นที่เข้ามาตั้งคำถาม และไม่เคยได้ยินมาก่อน 31 ส.ค. 2566 – นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ขับเคลื่อนกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของอาหารไทย อาหารท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย ทั้งเป็นการต่อยอดสมุนไพรไทย ที่มีสรรพคุณทางเลือกใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ให้คงอยู่และส่งต่อเป็นมรดกทางภูมิปัญญา และส่งเสริมให้คนไทยได้เกิดความภาคภูมิใจ กระตุ้นให้เกิดการยกระดับอาหารไทยพื้นถิ่น สู่อาหารจานเด็ดที่ต้องชิม ผลักดันให้เป็นเมนูซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้หนุนเศรษฐกิจของท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศ โลกออนไลน์ได้แสดงความคิดเห็นว่า…