เรียกได้ว่ากำลังเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ให้ความสนใจ และต่างพากันแชร์อยู่ในขณะนี้ ภายหลังสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับตัวเองและคนอื่นๆ ที่พักอาศัยในคอนโดฯ หรือหอพัก โดยระบุข้อความดังนี้ “โพสต์ไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับตัวเองและคนอื่นๆ ที่พักอาศัยในคอนโดฯ หรือหอพักนะคะ คือเรื่องมีอยู่ว่า เรากลับต่างจังหวัดนาน แล้ว จอดรถไว้ที่คอนโดฯ คิดว่าปลอดภัยแหละ เพราะจอดในที่จอดได้ 1 เดือนผ่านไป พอกลับมา เจอใบแจ้งหนี้ที่ต้องชำระค่าล็อกล้อ เพราะจอดนานเกิน 15 วัน ปรับวันละ 1,000 เราแจ้งทางนิติไปว่าไม่ทราบว่ามีกฎนี้ด้วย เขาบอกว่าประกาศไปในแอปพลิเคชันของคอนโดฯ แล้ว ซึ่งแอพนั้นเราแทบจะไม่ได้เข้าใช้เลย เลยไม่ทราบประกาศ สรุปขอเขียนคำร้องขอยืดหยุ่นลดค่าปรับไป รอผลตอบกลับว่าจะได้จ่ายเท่าไหร่ เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าที่อื่นมีเหมือนกันไหมน๊า สำหรับเรามันเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่ทราบมาก่อน คนอื่นๆ อาจจะรู้อยู่แล้วไหมน๊า ระวังน๊า ไปไหนนานๆ เช็กกฎระเบียบหอพักของตัวเองให้ดีนะคะ เดี๋ยวจะเป็นเหมือนเรา ป.ล.ค่าปรับแอบแพง น่าจะโทรฯ มาแจ้งนิดหนึ่ง นี่ถ้าไม่ไปเช็กบล็อกคงไม่รู้เรื่องเลย!!” อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย..

เรียกได้ว่ากำลังเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่โซเชียลกำลังร่วมมือพากันไขปริศนา หลังจากมีสาวรายหนึ่ง ได้ถ่ายรูปภาพพวงมาลัยรถของตนเอง ปรากฏว่ามีปุ่มแปลกตาให้กด มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนกัน พร้อมเขียนข้อความถามว่า “ปุ่มนี้ใช้ทำอะไรคะ” ขณะเดียวกัน หลังจากที่โพสต์นี้ถูกอัปลงบนออนไลน์ ก็มีเหล่าบรรดากูรูทั้งคนไทย และชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจประเด็นนี้กันจำนวนมาก พร้อมเข้ามาคอมเมนต์แลกเปลี่ยนและพูดคุยเรื่องนี้ บางกลุ่มก็คาดว่าปุ่มนี้อาจจะเป็นคีย์ลัดกดฟังก์ชันต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีบางรายออกความเห็นให้รอผู้รู้มาตอบดีกว่า อย่ากดส่งเดช ไม่งั้นรถอาจจะพังได้ แม้ว่าโพสต์ดังกล่าวจะได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้ชื่นชอบรถ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถออกมาไขปริศนาเรื่องนี้ได้ ทั้งที่มีชาวเน็ตบางคนพยายามเปิดดูคู่มือรถ ก็ไม่เจอกับคำตอบนี้สักที… ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Bussaba Ausachong

กำแพงเพชร – วงจรปิดจับภาพตำรวจนำแม่ชี้จุดซื้อปูนฝังลูกสาว พนักงานเผยเห็นนั่งรถเก๋งมาสั่งซื้อปูน 2 ถุงแล้วรีบกลับไป ไม่คิดว่าจะก่อเหตุสะเทือนขวัญหากรู้ไม่ขายให้แน่นอน ด้านญาติพากันเลี้ยงลูกน้อยวัยหกเดือน รอรับศพน้องโมเดลกลับมาบำเพ็ญกุศล ความคืบหน้ากรณีสะเทือนขวัญ พ่อฆ่าลูกสาววัย 2 ขวบที่กรุงเทพฯ ก่อนนำศพโบกปูนฝังอำพรางที่กำแพงเพชร ล่าสุดตำรวจได้นำ “เอ็มกับจุ๋ม” ไปร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างเพื่อชี้จุดว่าทั้งคู่ได้พากันขับรถยนต์ออกมาซื้อปูนเพื่อนำไปโบกปิดหลุมฝังน้องโมเดล ลูกสาววัย 2 ขวบ ภายในห้องครัวที่บ้านพักตัวเองที่บ้านคลองใหม่พัฒนา หมู่ที่ 15 ตำบลบ่อถ้ำ อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร จริงหรือไม่ โดยในภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าตำรวจได้พาจุ๋มลงจากรถไปชี้จุดต่างๆ ที่ไปสั่งซื้อปูนจนกระทั่งนำปูนขึ้นรถกลับไปยังบ้านพัก ผู้สื่อข่าวมีโอกาสสอบถามพนักงานสาวที่เป็นผู้รับบิลสั่งซื้อของและเป็นผู้ขายปูนให้กับจุ๋มไปสองกระสอบในราคาสองร้อยสี่สิบบาท โดยเธอเล่าว่า ทั้งคู่ขับรถเก๋งมาจอดหน้าร้าน จากนั้นผู้หญิงเดินลงจากรถมาคนเดียว และมาสั่งซื้อปูนไปสองลูก ซึ่งตนไม่ได้ถามว่าจะนำไปทำอะไร เพราะเป็นปกติที่มีคนมาซื้อปูน และหลังจากเขียนบิลสั่งซื้อเสร็จแล้วก็ได้ให้ถอยรถเข้าไปรับปูนด้านในร้าน จากนั้นก็ได้ขับออกไปจากร้าน “ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้น รู้สึกตกใจ เอาจริงๆ ถ้ารู้ว่าจะซื้อปูนไปก่อเหตุ ก็คงไม่ขายให้และแจ้งตำรวจแน่นอน ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตกใจยังกลัวอยู่ และสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่” ขณะที่บ้านแม่ของจุ๋ม (แม่ยายเอ็ม) ผู้เป็นยาย และบรรดาญาติยังคงช่วยกันเลี้ยงดูน้องโตโต้ ลูกชายคนเล็กวัย 6 เดือน พร้อมกับเฝ้ารอการนำศพของน้องโมเดลกลับมาจากการพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตและอัตลักษณ์บุคคล โดยได้เตรียมเก็บกวาดศาลาวัดไว้เรียบร้อยแล้ว เตรียมจะบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองใหม่พัฒนา…

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.ทินกร ประสีระเตสัง รอง ผอ.รมน.จังหวัดศรีสะเกษ อัยการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำเสนอผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2566 และหารือวางแผนในการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กอ.รมน.จังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดกิจกรรมปลูกจิตสำนึกในการตระหนักรู้ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ดำเนินการจัดประกวด การกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1 ได้แก่ นางสาวอรทัย ทองละมุล จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ ในปี 2566 กอ.รมน.จังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการตามแผนตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 4 แผนงาน 16 โครงการ โดยสรุป 10 ประเด็นปัญหาภัยคุกคามระดับตำบล ประกอบด้วย ปัญหายาเสพติด ปัญหาสาธารณภัย ได้แก่ ภัยแล้ง อุทกภัย…