สาวท้องแก่อั้นไม่ไหว คลอดลูกบนรถจักรยานพ่วงข้าง แห่ส่องเลขทะเบียนลุ้นโชค วันที่ 14 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระยอง รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า มีหญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งจอดอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลระยอง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาระยอง ได้นำรถฉุกเฉิน พร้อมเครื่องมือปฐมพยาบาลและอุปกรณ์ทำคลอดไปให้ความช่วยเหลือ และเมื่อถึงจุดที่รับแจ้ง เจ้าหน้าที่พยาบาลผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล รีบเข้าช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว อายุ ประมาณ 30 ปีเศษ ซึ่งนั่งอยู่ในพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 3929 และคลอดทารกเพศหญิง เจ้าหน้าที่พยาบาลจึงช่วยเหลือ นำขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉิน ส่งโรงพยาบาลระยอง แลพแพทย์ได้ตรวจร่างกายทั้งแม่และลูก พบว่าทารกแข็งแรงและปลอดภัยทั้งแม่และลูก นางสมพร เปิดเผยว่า หญิงตั้งครรภ์คนดังกล่าว เป็นเพื่อนบ้าน เกิดอาการเจ็บท้องจะคลอดบุตรตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งเกิดอาการใกล้คลอด ตนจึงอาสาขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปส่งที่โรงพยาบาลระยอง และเมื่อขับขี่ใกล้ถึงโรงพยาบาลระยอง หญิงสาวเพื่อนบ้านเจ็บท้องอย่างหนัก และอั้นไม่ไหวจึงคลอดบุตรบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จากนั้นสามีหญิงตั้งครรภ์ จึงโทรศัพท์ 1669 แจ้งโรงพยาบาลระยอง ขอความช่วยเหลือ และโรงพยาบาลได้ส่งรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พยาบาล มาช่วยเหลือทันที ข่าวโดย ธนิทธิ ผิวงาม ทีมข่าวจังหวัดระยอง เรียบเรียง…

เทอร์รี มาร์ติน ชายอเมริกันวัย 76 ปี มือขโมยรองเท้าทับทิม จากภาพยนตร์ดังพ่อมดแห่งออซ (เครดิตภาพเอพี) ชายวัย 76 สารภาพขโมย ‘รองเท้าทับทิม’ จากหนังดังพ่อมดแห่งออซ เพราะคิดว่าเป็นทับทิมแท้ เอเอฟพี รายงาน เทอร์รี มาร์ติน ชายอเมริกันวัย 76 ปี รับสารภาพต่อศาลเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม ว่าเป็นคนขโมย ‘รองเท้าทับทิม’ สีแดง ที่ จูดี การ์แลนด์ นางเอกดังฮอลลีวู้ด สวมในภาพยนตร์ดังเรื่องเดอะ วิซาร์ด ออฟ ออซ หรือ ‘พ่อมดแห่งออซ’ จากพิพิธภัณฑ์จูดี การ์แลนด์ ในเมืองแกรนด์ แรพิดส์ รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2548 ข่าวระบุ เจ้าหน้าที่สอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ สามารถติดตามนำรองเท้าทับทิมจากภาพยนตร์ดังกลับคืนมาได้เมื่อปี 2561 และเทอร์รี มาร์ติน ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุด ยอมรับว่ามีความผิดจริงในข้อหาลักทรัพย์ผลงานศิลปะชิ้นสำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อย่างไรก็ตาม…

กรณีปรากฎภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นดี ถูกเคลื่อนย้ายเพื่อไปรักษาตัว โดยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าทีมแพทย์ที่ทำการรักษาได้นำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไปทำ CT Scan (ซีทีสแกน) และ MRI (เอ็มอาร์ไอ) และดำเนินการเสร็จสิ้นในเวลา 11.00 น. ขณะนี้อาการปลอดภัย กลับไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยดังเดิม ซึ่งการรักษาทั้งหมดเป็นไปตามระบบการรักษาผู้ป่วยของแพทย์ ส่วนรายละเอียดของการเจ็บป่วย ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้คัดค้านแนวคิดพักโทษ “ทักษิณ” โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังเกิดภาพอดีตนายกฯ ถูกเคลื่อนย้ายขณะอยู่บนเตียงพยาบาลเพื่อไปรักษาตัวว่า ซีทีสแกนฉบับ “โทนี่การละคร” แสดงได้เก่งจริงๆ ให้ตุ๊กตาทองไปเลยทั้งคนแสดงและผู้กำกับ

สาวท้องแก่ ให้เพื่อนบ้านพาไปคลอด แต่อั้นไม่ไหว ไปไม่ถึงโรงพยาบาล คลอดลูกสาวบนรถจักรยายนต์พ่วงข้าง (14 ต.ค.66) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระยอง รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า มีหญิงตั้งครรภ์ คลอดลูกบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งจอดอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลระยอง หลังรับแจ้งพยาบาลผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาระยอง ได้นำรถฉุกเฉิน พร้อมเครื่องมือปฐมพยาบาล อุปกรณ์ทำคลอดไปให้ความช่วยเหลือ เมื่อถึงจุดที่เกิดเหตุ พยาบาลผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล รีบเข้าช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว อายุ ประมาณ 30 ปี ซึ่งนั่งอยู่ในพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ คลอดทารกเพศหญิง จึงช่วยเหลือ นำขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉิน ส่งโรงพยาบาลระยอง แพทย์ได้ตรวจร่างกายทั้งแม่และลูก พบว่าทารกแข็งแรงและปลอดภัยทั้งแม่และลูก นางสมพร  เปิดเผยว่า หญิงตั้งครรภ์คนดังกล่าว เป็นเพื่อนบ้าน เกิดอาการเจ็บท้องจะคลอดลูกตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั้งเกิดอาการใกล้คลอด ตนจึงอาสาขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาส่งที่โรงพยาบาลระยอง เมื่อขี่มาใกล้ถึงโรงพยาบาล หญิงสาวเจ็บท้องอย่างหนัก อั้นไม่ไหวจึงคลอดบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จากนั้นสามีหญิงตั้งครรภ์ จึงโทรศัพท์ 1669 แจ้งโรงพยาบาลระยอง ขอความช่วยเหลือ และโรงพยาบาลได้ส่งรถพยาบาลฉุกเฉินพร้ออมด้วยเจ้าหน้าที่พยาบาล มาช่วยเหลือทันที

ดูแลกาย โดย PPTV Online เผยแพร่: 14 ต.ค. 2566 4 ผลวิจัยชี้คนเมืองกรุงมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูงถึงร้อยละ 79 แนะหยุดการใช้จอเป็นระยะ และหันมาขยับให้มากขึ้น รวมทั้งเสนอให้มีการส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน .ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center} นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ศึกษาวิจัย เรื่อง รูปแบบและความสัมพันธ์ของการมีกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่ง (การนั่งนาน) ของประชาชนในกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,137 คน พบว่า คนกรุงเทพมหานครมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ ร้อยละ 83 แต่ยังพบมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ร้อยละ 79 วิจัยเผย“ความเครียด”ก่อโรคหัวใจสูง 70 % เสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง วิธีรับมือกับปัญหารุมเร้า-ภาวะเครียดสะสม ก่อนกระทบสุขภาพจิต ในทางกลับกัน การมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์เพื่อสุขภาพที่ดี คือกิจกรรมทางกายเพียงพอและพฤติกรรมเนือยนิ่งต่ำ ของคนกรุงเทพมหานคร มีเพียงร้อยละ 18 เท่านั้น  ทั้งนี้ สาเหตุของพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความเร่งรีบในวิถีชีวิต การนั่งทำงานประจำ และการใช้อุปกรณ์จอ…