รายงานระบุเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายรายภายใน วอลต์ดิสนีย์ มีความประสงค์ต้องการที่จะนำพาบริษัทก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมแบบเต็มตัว มิใช่เป็นเพียงแค่ค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์หนังและการ์ตูนแบบที่ผ่านๆมา กลายเป็นเรื่องซุบซิบทันที เมื่อมีรายงานข่าวล่าสุดระบุว่าคนวงในผู้สนิทชิดใกล้ท่านประธานใหญ่ “บ็อบ ไอเกอร์” (Bob Iger) ซีอีโอของบริษัท ดิสนีย์ กำลังหว่านล้อมกล่อมชักนำให้บิ๊กบอสของพวกเขาพิจารณาเรื่องการนำพาบริษัทก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยผ่านกระบวนการวิธีใช้เงินฟาดซื้อบริษัทพัฒนาเกมชั้นนำมาครอบครองเพื่อผลิตซีรีส์เกมที่เป็นเอกสิทธิ์ของตัวเอง แทนที่การปล่อยขายลิขสิทธิ์ตัวละครการ์ตูนแบบเดิมๆ “เจ้าหน้าที่ระดับรองหลายคนของ ไอเกอร์ กำลังพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้บอสของพวกเขากล้าตัดสินใจแปลงสภาพ Disney จากค่ายผู้ปล่อยขายลิขสิทธิ์ในการทำเกม ผันตัวมาสู่ค่ายผู้ผลิตเกมรายยักษ์ ผ่านการเข้าซื้อเทคโอเวอร์ค่ายเกมชั้นนำอย่างเช่น Electronic Arts เป็นต้น” แหล่งข่าว กล่าว สำหรับ “บ็อบ ไอเกอร์” ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนปัจจุบันของ วอลต์ดิสนีย์ เขาขึ้นมาแทนอดีตซีอีโอคนเก่า “บ็อบ ชาเปก” ที่บอกลาตำแหน่งไปเมื่อปลายปีก่อน ซึ่งถึงแม้หลายฝ่ายจะคาดการณ์ว่าเขาคนนี้จะมาช่วยกอบกู้วิกฤตศรัทธาและผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัท แต่จากปากเหล่าพนักงานคนสนิทใกล้ชิดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเป็นซีอีโอที่ค่อนข้างรอบคอบระมัดระวังจนถึงขั้นหวาดระแวงเกินไปยามที่ต้องตัดสินใจอะไรแบบเด็ดขาดเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมันจึงอาจไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรืออย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ตอนที่เขายังดำรงตำแหน่งอยู่ ณ ปัจจุบันมีวิดีโอเกมที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก ดิสนีย์ มากมาย อาทิเช่น Star Wars และเหล่าเกมซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาล Marvel ทั้งหลาย ซึ่งมีทั้งที่ออกมาคุณภาพดีได้รับคำชื่นชมและที่ออกมาย่ำแย่กระแสตีกลับ หากว่าในอนาคตพวกเขาตัดสินใจยึดลิขสิทธิ์ทั้งหมดกลับคืนเหมือนที่เคยทำกับบริการสตรีมมิ่ง มันก็ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อแฟรนไชส์ต่างๆเหล่านี้ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อมูลและภาพประกอบจาก<a href="https://www.thegamer.com/disney-gaming-industry-acquisitions-ea-spider-man-star-wars-kingdom-hearts/”…

กำลังตกเป็นดราม่าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ล้นหลาม ภายหลังจากมีหนุ่มรายหนึ่งได้โพสต์คลิป ขณะกำลังลองใช้ระบบ Smart summon หรือระบบมารับอัตโนมัติ ระบบที่เราจะไม่สามารถควบคุบพวงมาลัยได้ บังคับได้เพียงขับหรือหยุดเท่านั้น โดยเขาเขียนแคปชั่นระบุว่า “ใช้ Smart Summon ต้องฝึกไหว้สวยกันเลยทีเดียว ป.ล.ตอนเรียกถนนโล่งมาก แต่กว่ารถมันจะขับมาถึง รถเขาก็มากันพอดี” ซึ่งภายในวิดีโอจะเห็นได้ว่า เขาและเพื่อน ๆ กำลังยืนรอรถที่ถูกใช้ระบบมารับที่หมายแบบอัตโนมัติ และระหว่างนั้นรถก็ขับมาปกติ ก่อนจะมีช่วงเบรกกะทันหัน และทำให้รถหลังเบรกตาม จนเกือบชนตูดกัน นอกจากนี้ รถหรูก็จอดนิ่ง ทำให้เจ้าของรถต้องวิ่งไปขับแทน พร้อมกับก้มศีรษะขอโทษรถคันหลัง และรถคันอื่น ๆ อีกด้วย ขณะเดียวกันบนโซเชียล ก็มีเสียงดราม่าร้อนทันที โดยพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า อันตรายและไม่ควรใช้ เพราะมันไม่ปลอดภัย ทั้งนี้บางส่วนก็เถียงกลับว่าระบบรถทำมาดี แต่อาจจะมีข้อผิดพลาดทางอื่น อย่างเช่นถนนเส้นนี้ไม่มีเส้นถนนบอกขนาดเลน อีกทั้งฝนตกหนัก ซึ่งชาวเน็ตบางกลุ่มก็ชมเจ้าของรถ แม้เขาจะใช้ฟังก์ชันที่มากับรถไม่สำเร็จ แต่ก็ยังแสดงมารยาทที่ดีขอโทษเพื่อนร่วมทาง ที่ทำให้เสียเวลาและเสี่ยงเกิดอันตราย… คลิก : เพื่อชมวิดีโอ ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @jobantronic

ซันเช็ค รุกเอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่นสไตล์เกาหลี เปิดสาขา 2 ที่สีลมคอมเพล็กซ์ หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากสาขาแรกในประเทศไทยที่ ไอคอนสยาม โดยอาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในชาวไทยเป็นอย่างมาก หลังจากสถานการณ์โควิด-19 อาหารญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นถึง 70-90% สะท้อนถึงกำลังซื้อ และความชอบอาหารเกาหลีของชาวไทยได้อย่างชัดเจน ซันเช็ค เล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในไทย พร้อมมอบความอร่อยแบบไม่เหมือนใคร เสิร์ฟโปรฯ Everyday Promotion ส่วนลด 10%, ฟรี soft drink, Tamogo 10 บาท เป็นต้น พร้อมทั้งเอาใจคนรักอาหารเจในช่วงเทศกาลที่กำลังมาถึง โดยลดราคา 10% ทุกเมนูเจ นายฮานน์ ยุน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ซันเช็ค กล่าวว่า เล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในไทยที่มีกำลังซื้อสูงจากคนรักอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีในไทยที่มีจำนวนไม่น้อย และได้รับวัฒนธรรมการกินจากทั้งสองสัญชาติจากการไปท่องเที่ยว การเสพสื่อต่าง ๆ ทำให้คนไทยคุ้นชินกับอาหารของทั้งสองสัญชาติเป็นอย่างดี อีกทั้งอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี มักเป็นมื้อพิเศษของชาวไทยในการฉลองกิจกรรมต่าง ๆ ปัจจุบันธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในไทยถือเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพรวมธุรกิจอาหารปี 2565 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 4.18-4.25 แสนล้านบาท มีการขยายตัว…

 Hoonsmart.com >> AIS 5G  ผนึก ททท. ชูแคมเปญ “Welcome Back to Thailand” ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยผ่าน Amazing Thailand SIM  มอบแพ็กเกจซิมมือถือ  1 ล้านซิม พร้อมสิทธิพิเศษจากพันธมิตร ในรูปแบบ e-voucher ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาประเทศไทย ตั้งแต่ 17 ต.ค. 2566 – 31 มี.ค. 2567  แจกจ่ายผ่านสำนักงาน ททท. ภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้รู้จักมากยิ่งขึ้น นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า ททท. ร่วมกับพันธมิตร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส…

เทศกาลกินเจ 2566 อาหารช่วงกินเจ ที่ห้ามรับประทาน ไม่ได้มีแค่สัตว์และผักกลิ่นฉุน  แต่ยังมีสิ่งที่ควรเลี่ยงอีกหลายอย่าง ต้องรู้ไม่ให้เจแตก  เมื่อออกเจ ต้องมีหลักปฏิบัติ  เพื่อไม่ให้ระบบร่างกายรวน Keypoints: เทศกาลกินเจ 2566 ตรงกับวันที่ 15-23 ตุลาคม  ซึ่งกินเจมีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลาย แต่จะต้องทำให้ถูกหลัก  จะได้ไม่เพิ่มปัญหาด้านสุขภาพ อาหารที่ห้ามรับประทานในช่วงเทศกาลกินเจ  ไม่ได้มีแต่สัตว์ และผักกลิ่นฉุน 5 อย่างเท่านั้น  แต่ยังมีอาหารที่ควรเลี่ยงมากกว่านั้น รวมถึงหลักการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กินเจติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน ส่งผลให้ร่างกายมีการปรับสภาพของระบบการย่อยอาหาร เมื่อออกเจในช่วง 2-3 วันแรก จึงควรปรับสภาพร่างกายก่อน  ซึ่งมีหลักง่ายๆที่ต้องปฏิบัติ           เทศกาลกินเจ เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายจีนที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณ  ในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566     ประโยชน์ของการกินเจต่อร่างกาย      ผู้ที่ถือศีลกินเจจะงดการรับประทานเนื้อสัตว์ รวมไปถึงพืชผักที่มีกลิ่นฉุน เลือกรับประทานผักผลไม้ และรักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตและยังเป็นการรักษาสุขภาพ        เนื่องจาก การรับประทาน พืช ผัก…

WHO เผยว่า ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 260 ล้านคนหรือประมาณ 1 ใน 7 มีปัญหาสุขภาพจิตและส่วนมากไม่ได้เข้าถึงการรักษา  Andrea Bruni ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO กล่าวในงานวันสุขภาพจิตโลกเมื่อวันที่  10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า แม้ว่าปัญหาด้านสุขภาพจิตจะพบมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในบางประเทศ ช่องว่างของการเข้ารักษาสูงถึง 90% ซึ่งหมายความว่า 90% ของคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมและทันท่วงที หรือไม่ก็ไม่ได้รับการรักษาเลย ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติเผยว่า ในปี 2019 เกือบ 1,000 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 8 ทั่วโลกยังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพจิต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าตัวเลขในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากโลกเผชิญความเคร่งเครียดในช่วงโควิด-19 สงครามและวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตมีหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ อคติต่อผู้ป่วยทางจิตที่ยังคงมีอยู่มากในสังคม โดยหนึ่งในความเข้าใจผิดต่อผู้ป่วยคือการมองว่าผู้ป่วยจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลรักษาทางด้านจิตเวชในโรงพยาบาลหรือสถาบันจิตเวชเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องสามารถเข้าถึงและได้รับบริการภายในชุมชนที่เข้าถึงได้ง่ายและปฏิบัติต่อผู้ป่วยตามหลักมนุษยชน นอกจากนี้ ปัจจุบันการให้บริการเรื่องสุขภาพจิตยังมีอุปสรรคอยู่มากไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยที่ยังไม่เพียงพอ การขาดแคลนนโยบายที่จำเป็น การรักษาที่ยังไม่ครอบคลุมทั้งเรื่องประสิทธิภาพในการรักษาและค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงกำลังค่อย ๆ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนและสร้างความเข้าใจจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์และผู้ดูแลคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตซึ่งจะเป็นบุคคลสำคัญที่จะผลักดันนโยบายและบริการสำหรับผู้ป่วยทางจิตที่จะช่วยลดอคติของสังคมได้ Bruni ยังได้พูดถึงว่าการเข้าถึงการรักษาและการสร้างสุขภาพจิตที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิที่คนทั่วโลกควรจะได้รับ เพราะสุขภาพจิตมีผลต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี…