วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยวิธีการรีดส่วยรถบรรทุกแบบใหม่ โดยใช้วิธีการจับรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินโดยไม่ตั้งใจ ก่อนขู่ ริบรถ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ใน X หรือ ทวิตเตอร์ ถึงส่วยรถบรรทุกว่า การจับรถบรรทุกได้เปลี่ยนรูปแบบจากสติกเกอร์กลายเป็นการดักจับรถที่น้ำหนักเกินเล็ก ๆ น้อยๆ เช่น 50-200 กิโลกรัม โดยมักจะจับรถขนดิน ขนทราย ตอนฝนตก เพราะน้ำหนักจะเกินจากการอุ้มน้ำ โดยไม่สนข้อมูลการชั่งน้ำหนักต้นทาง จับเสร็จก็รีดไถ ขู่ว่าจะริบรถ ถ้ายอมจ่ายก็จะปรับสำนวนให้อ่อนลง นิด้าโพล เผย รถบรรทุกเกินกว่าน้ำหนัก เป็นจุดเริ่มต้นส่วยสติกเกอร์ “วิโรจน์” ชี้แก้ต้นตอส่วย-ทบทวนกฎหมาย ปิดช่องโหว่เจ้าหน้าที่รีดไถปชช. ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามสำนวนคดีรถบรรทุกกรณีหนึ่ง ที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งได้ข้อมูลที่ได้รับน้ำหนักเกินเพียง 100 กิโลกรัม มีข้อมูลการชั่งน้ำหนักต้นทาง จากตราชั่งมาตรฐาน ยืนยันว่าไม่เกิน แต่น่าจะเกินจากการอุ้มน้ำฝนระหว่างทาง ต้องติดตามว่า การดำเนินคดีและการริบรถนั้นเป็นธรรมหรือไม่ ขณะที่รถบรรทุกที่เต็มใจเข้าด่านชั่ง แต่น้ำหนัก เกิน 50-200 กิโลกรัม…

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 17 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ รถกู้ภัยหวิดดับยกคัน เมื่อชายวัยกลางคนขับกระบะเลี้ยวกลับรถตัดหน้ารถกู้ภัยขณะกำลังวิ่งไปช่วยเหลือคนเจ็บ โดยคนขับรถกู้ภัยหักหลบกะทันหัน ก่อนล้อปีนขึ้นเกาะกลางข้ามไปอีกเลนแล้วชนทางเท้า ยางแตกขับต่อไม่ได้ ส่วนคนขับกระบะขับออกไปจากที่เกิดเหตุหน้าตาเฉย เมื่อเจ้าหน้าที่ขับตามทัน กลับกร่างขู่เจ้าหน้าที่อีก สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพัทลุง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงนำรถตู้กู้ภัย ทะเบียน กฉ 2887 พัทลุง โดยมี นายวุฒิฉัตร สัจจะบุตร อายุ 37 ปี เป็นคนขับ พร้อมมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยนั่งไปกับรถรวม 4 คน ระหว่างทางรถกู้ภัยได้เปิดสัญญาณเสียงและสัญญาณไฟไซเรนเพื่อขอทาง และเมื่อขับมาถึงบริเวณจุดกลับตรงสามแยก ถนนสายราเมศวร์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ได้มีรถกระบะ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กลับรถแบบกะทันหัน แล้วตัดหน้ารถกู้ภัย ซึ่งเป็นจังหวะที่รถกู้ภัยกำลังเร่งทำความเร็วไปยังที่เกิดเหตุ ทำให้รถกู้ภัยต้องหักหลบแล้วพุ่งข้ามไปอีกเลน โชคดีที่ไม่มีรถขับสวนมา แต่ล้อรถดันไปชนเข้ากับทางเท้า…

.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;} “เพื่อนร่วมรุ่นเป็นกลุ่มที่รักกันมากที่สุด เป็นกลุ่มที่ขัดแย้งกันน้อยที่สุด และมักจะเรียกกันว่า “เพื่อนตาย” เพราะเพื่อนจะไม่แกล้งเพื่อน และเพื่อนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน วันนี้เราต้องรัก “เพื่อนตาย” ของเราอีกประเภทหนึ่ง นั่นคือ อวัยวะในร่างกาย ซึ่งจะทำงานให้กับร่างกายของเราอย่างไม่มีเงื่อนไขตลอด 24 ชั่วโมง และอยู่กับเราไปจนตาย” พล.อ.อ.นพ.สุบิน ชิวปรีชา คำกล่าวของ พล.อ.อ.นพ.สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ 904 และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) ในการเป็นประธานเปิดการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการสุขภาพดีด้วยทฤษฎีเพื่อน (ตาย) ด้วยหลัก 10 อ (Thailand 10 for Health) ปี 2566 ที่โรงเรียนภูมิสมิทธ์ กรุงเทพมหานคร พล.อ.อ.นพ.สุบิน กล่าวตอนหนึ่งของการเปิดการประชุมด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่…

Advertisement การรับประทานผลไม้ก็เปรียบเสมือนการทาครีมบำรุงหน้า บำรุงผิวพรรณ เพียงแต่ครีมนั้นบำรุงผิวหน้าจากภายนอก ในขณะที่การรับประทานผลไม้นั้นเป็นวิธีการบำรุงผิวหน้าจากภายใน ซึ่งเป็นวิธีทางธรรมชาติที่ดี กว่าการทานยา หรือฉีดสารต่างๆเข้าสู่ร่างกาย อย่างแน่นอน ดังนั้นอยากมีผิวหน้าขาวใสแบบธรรมชาติ ผลไม้คือตัวเลือกที่สำคัญ ผิวพรรณสดใสมีสุขภาพดี ย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับคุณผู้หญิงและผู้ชายทั้งหลาย ลองมาดูกันดีกว่าว่ามี ผลไม้บำรุงผิว ผักผลไม้บำรุงผิว ชนิดไหนบ้าง? อะโวคาโดมีวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี และวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ และทำให้ผิวมีริ้วรอยลดน้อยจางลง ผิวสดใส สุขภาพผิวแข็งแรงดี อะโวคาโดยังมีกรดไขมันชั้นดีที่เป็นส่วนช่วยทำให้ผิวเนียน ไม่แห้งกร้าน นุ่มชุ่มชื้นขึ้น นอกจากการทานแบบปกติแล้ว ยังสามารถนำมาผสมน้ำและโยเกิร์ตเพื่อพอกผิวหน้าได้อีกด้วย แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ทานแล้วไม่อ้วน ทำให้ผิวขาวใส เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น เต่งตึง แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์สูงช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว อุดมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และเส้นใยไฟเบอร์ เพคติน และยังมีอิลาสติน คอลลาเจน ส้มเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำและมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ดูชุ่มชื้น เพราะส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวมีความยืดหยุ่น และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใส ทับทิมช่วยบํารุงหัวใจ คือระบบที่เกี่ยวพันกับสุขภาพรวมทั้ง ความแข็งแรงของผิว ซึ่งทําให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ระบบการนอนหลับ…