รถสีขาวดูแลอย่างไรไม่ให้เหลือง เป็นรอยคราบไคล มีเทคนิคและวิธีการบำรุงรักษาอย่างไรบ้าง
รวมเคล็ดลับ รถสีขาวดูแลอย่างไร ไม่ให้เหลือง เป็นคราบไคล ซึ่งรถยนต์สีขาวเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ สีขาวยังเป็นสีโทนสุภาพ ดูสะอาด สะดุดตา มองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน แต่ข้อเสียหลักของรถสีขาว คือ เห็นคราบสกปรกง่าย จึงต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นประจำ เพื่อให้สีรถดูใหม่อยู่เสมอ แต่จะต้องดูแลอย่างไร เราได้รวบรวมเคล็ดลับการดูแลรถยนต์สีขาวใาฝากกันว่ามีเทคนิคอย่างไรบ้าง
ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์สีขาว
สำหรับใครที่ชอบรถยนต์สีขาว หรือกำลังตัดสินใจเลือกรถสีขาวลองมาดูข้อดีและข้อเสียของรถยนต์สีขาวกันก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร เพราะสีขาวเป็นสีที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
ข้อดี
-
สะอาด สบายตา รถยนต์สีขาวจะให้ความรู้สึกสะอาด สบายตา ดูหรูหรา
-
มองเห็นรอยขีดข่วนได้ยาก รถสีขาวจะสังเกตเห็นรอยขนแมว หรือรอยขูดขีดจากการใช้งานได้ยากกว่ารถสีเข้ม
-
มองเห็นชัด ลดการเกิดอุบัติเหตุเวลากลางคืน รถสีขาวจะมีความสว่างทำให้สังเกต หรือมองเห็นได้ชัดกว่ารถสีเข้มโดยเฉพาะเวลากลางคืน
-
ดูดความร้อนน้อย เนื่องจากสีขาวเป็นสีโทนความสว่างจึงสะท้อนแสงแดดได้ดีกว่ารถสีเข้ม
-
ขายต่อง่าย เพราะเป็นสีที่ได้รับความนิยม ไม่ฉูดฉาด ไม่ตกยุค จึงเป็นที่ต้องการของตลาด รถสีขาวจึงปล่อยได้ง่ายกว่าสีแปลก ๆ
ข้อเสีย
-
เห็นความหมองได้ชัด รถทุกสีเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะเกิดความเพี้ยนของสีตามสภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน ฝน มลภาวะ แต่สีขาวจะเห็นได้ชัดมากที่สุด
-
สกปรกง่าย เพราะความความขาวเมื่อเกิดคราบสกปรกจะมองเห็นได้ชัดเจน
- ซ่อมสี มีโอกาสผิดเพี้ยนง่าย รถทุกสีเมื่อผ่านการใช้งานจะมีเฉดสีที่เปลี่ยนไป แต่สีขาวจะมองเห็นได้ชัดเมื่อทำสีใหม่บางชิ้น หากไม่มีความชำนาญในการผสมสี ซึ่งการซ่อมสีทั่วไปก็จะเน้นความรวดเร็วเป็นหลัก มักไม่เสียเวลามานั่งเทียบสีให้เท่ากัน
วิธีดูแลรถยนต์สีขาว
จริง ๆ แล้วการดูแลรักษารถยนต์สีขาวก็มีขั้นตอนเหมือนกับการดูแลรถยนต์สีอื่น ๆ เพียงแค่สีขาวเป็นสีที่สังเกตเห็นความสกปรกได้ง่าย เมื่อเทียบกับสีอื่นที่สกปรกเท่ากัน จึงต้องการการใส่ใจมากกว่าปกติ ดังนี้
1. ล้างรถเป็นประจำ
การล้างรถโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วเจ้าของรถยนต์มักจะล้างเมื่อรู้สึกว่ารถยนต์สกปรก แต่สำหรับรถยนต์สีขาวนั้นควรล้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือควรล้างทันทีเมื่อเจอคราบสกปรก หากปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้เกิดคราบไคล รอยด่าง ที่ล้างออกยาก หรือล้างไม่ออก ซึ่งจะมองเห็นได้ชัดเจน
2. ใช้ดินน้ำมันลูบสีรถ
ดินน้ำมันที่ว่านี้ หมายถึงดินน้ำมันล้างรถที่ใช้ลูบสีรถโดยเฉพาะ ซึ่งใช้ลูบหลังล้างรถขณะสีรถเปียกเพื่อดึงคราบสกปรกในเนื้อสีที่ออกไม่หมดในขั้นตอนการล้างรถ ซึ่งเรามองไม่เห็น แต่จะสังเกตได้ที่เนื้อของดินน้ำมันที่ใช้ลูบว่ามีคราบติด และสีรถจะดูสดใสกว่าการล้างปกติทันที
3. เคลือบสีรถ
หลังจากการล้างทำความสะอาด ลูบดินน้ำมัน ควรที่จะเคลือบสีรถด้วยน้ำยาหรือผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถ เพราะเป็นการช่วยปกป้องสีรถจากแสงแดด รังสียูวี ฝุ่น และสิ่งปกปรกต่าง ๆ ได้ ซึ่งมีแยกเฉพาะรถสีขาวด้วยเช่นกัน
4. ขัดสีลบริ้วรอย
กรณีที่รถยนต์สีขาวเริ่มหมอง มีคราบที่ติดฝังแน่นยากแก่การล้างหรือขัดออกด้วยมือ การขัดสีรถด้วยร้านที่ชำนาญหรือผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ไม่ควรขัดบ่อยจนเกินไปเพราะจะทำให้ชั้นแลกเกอร์ที่ปกป้องสีรถเริ่มบางลง เสี่ยงแก่การเกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้ง
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยถนอมรถยนต์สีขาวไม่ให้หมองหรือซีดเร็วคือ การเลี่ยงจอดรถกลางแจ้ง จอดรถตากแดด ตากฝน ควรจอดในที่ร่ม เพราะแดดจะเลียสีรถทำให้สีรถหมอง ฝนก็ทำให้สีรถเป็นคราบได้ โดยเฉพาะเมื่อหลังฝนตกแล้วไม่ได้ทำความสะอาดและตา่กแดดซ้ำ
ทั้งนี้ วิธีดูแลรถยนต์สีขาวอาจจะไม่แตกต่างกับวิธีดูแลรถสีอื่น ๆ มากนัก เพียงแต่รถสีขาวนั้นอาจจะต้องรีบเช็ดล้างทำความสะอาดเมื่อเปรอะดิน โคลน หรือ มูลนก และหลีกเลี่ยงการจอดตากแดด หากละเลยหรือไม่ดูแลเท่าที่ควรอาจเกิดความเสียหายต่อสีรถจนถึงขั้นเสียเงินทำสีใหม่ได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : mpm-rent.com, bjak.my, autocarehq.com