“แลนดี้ โฮม” เผยยอดขายครึ่งปีแรก 1,400 ล้านบาท ตั้งเป้าเดินหน้าย้ำภาพจำ “สร้างบ้านสุขภาพดีต้องแลนดี้ โฮม” สร้าง Differentiation จากบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าอื่น ด้วยนวัตกรรมด้านสุขภาพ
แลนดี้ โฮม (Landy Home) ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ทะลุ 1,400 ล้านบาท พร้อมเปิดกลยุทธ์ “Product Differentiation” โดยสร้างความแตกต่างจากบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าอื่นๆ ผ่านนวัตกรรมที่อยู่อาศัยด้วยจุดเด่นที่ทำให้แลนดี้ โฮมได้รับความไว้วางใจในการสร้างบ้านให้กับผู้บริโภคในยุคที่ทุกคนต่างใส่ใจสุขภาพ ด้วย Concept “สร้างบ้านสุขภาพดี”
โดยตั้งเป้าเดินหน้าย้ำภาพจำ “สร้างบ้านสุขภาพดี ต้องแลนดี้ โฮม” เพื่อยึดพื้นที่ครองใจกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจสุขภาพของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกบริษัทสร้างบ้านของกลุ่มลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบัน ที่นอกจากจะมองหาบ้านที่ตอบโจทย์เรื่องการออกแบบที่สวยงาม เข้ากับวิถีการใช้ชีวิตที่ปรับเปลี่ยนไป และมีฟังก์ชันการใช้สอยที่คุ้มค่าแล้ว ยังต้องการที่อยู่อาศัยที่คนทุก Generation อยู่แล้วสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในปีนี้ แลนดี้ โฮม ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 ได้เดินหน้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดรับสร้างบ้านไปเกินกว่าครึ่งทางแล้ว ด้วยตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 ซึ่งเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจการเมืองที่ผันผวน โดยมียอดขายพุ่งทะยานที่ 1,400 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายตลอดทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 2,750 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทะลุเป้าครึ่งปีที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,300 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งสัดส่วนผลประกอบการตามยอดขายปัจจุบัน สามารถแยกตามแบรนด์ในเครือทั้ง 3 แบรนด์ได้เป็น บ้านหรูขนาดใหญ่ แลนดี้ แกรนด์ (ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป) สัดส่วนยอดขาย 22% บ้านขนาดกลาง แลนดี้ โฮม (ราคา 8-20 ล้านบาท) สัดส่วนยอดขาย 48% บ้านขนาดเล็ก เทรนดี้ โฮม สัดส่วนยอดขาย 30%
โดยบ้านที่ได้รับความสนใจปลูกสร้างมากที่สุดยังคงเป็นบ้านขนาดกลาง แบรนด์แลนดี้ โฮม (Landy Home) ที่ช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดรับสร้างบ้านอย่างท่วมท้น ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดด้วย Positioning “ดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบ ราคาคุ้มค่า ” ซึ่งจากข้อมูลพบว่าผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้สอยที่คุ้มค่า เน้นดีไซน์ที่หรูหรา มีรสนิยม Timeless เหนือกาลเวลา ในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }
และส่วนแบ่งทางการตลาดรับสร้างบ้านที่น่าสนใจในปีนี้ คือความต้องการสั่งสร้างแบบบ้านขนาดเล็กระดับราคา 2-8 ล้านบาท จากปัจจัยด้านขนาดที่ดินและเศรษฐกิจ ทำให้แบรนด์เทรนดี้ โฮม (Trendy Home) ที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดด้วย Positioning “เทรนดี้ โฮม สร้างบ้านสุดคุ้ม ดีไซน์โดน เพื่อคน New Gen” ซึ่งตั้งเป้าเจาะกลุ่มผู้บริโภค Gen X-Y ที่ต้องการสั่งสร้างบ้านในราคาคุ้มค่า มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยแบบบ้านที่ได้รับความนิยมในกลุ่มบ้านขนาดเล็ก ได้แก่ แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น และ โมเดิร์นคลาสสิกผสานกลิ่นอาย รีเจนซี่สไตล์ ที่มีการออกแบบฟังก์ชันเน้นความคุ้มค่าทุกพื้นที่ใช้สอย แต่ยังคงสวยงาม หรูหรา และโดดเด่น
ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการปลูกสร้างบ้านหรูขนาดใหญ่ แบรนด์แลนดี้ แกรนด์ (Landy Grand) ใน Luxury Segment ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับปี 2565 จาก Consumer Insight พบว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดรับสร้างบ้านหรู เป็นกลุ่มเจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบการ เมื่อสถานการณ์ Covid 19 คลี่คลาย สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้มุ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสร้างธุรกิจให้เติบโต เพื่อทดแทนผลประกอบการที่ลดลงในช่วงดังกล่าว จึงไม่มีเวลาตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน ซึ่งในไตรมาส 3 นี้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผู้บริโภคกลุ่มนี้สนใจกลับมาจองสร้างบ้านเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยทางแบรนด์ยังมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้า Luxury Segment ได้แก่ แบบบ้าน Modern Luxury Style และ Classic Style ที่ให้ความคุ้มค่าทั้งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันลงตัว บวกกับนวัตกรรมสร้างบ้านสุขภาพดี เพื่อให้ลูกค้าของแบรนด์ได้บ้านหรูสั่งสร้าง หลังใหญ่ ในราคาคุ้มค่า
เมื่อเจาะลึกไปยังเขตพื้นที่สั่งสร้างบ้าน พบว่าในปี 2566 นี้ มีสัดส่วนการสั่งสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล คิดเป็น 80 % และ ต่างจังหวัดคิดเป็น 20 % โดยในกรุงเทพ ฯ พบว่าการสั่งสร้างบ้านบางส่วนได้รับผลพวงจากการขยายเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีห้าแยกลาดพร้าว-คูคต) และสายสีแดงเข้ม (สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่อยู่อาศัยในเส้นทางดังกล่าวสามารถเดินทางเข้า-ออก สู่ชานเมืองได้อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับราคาที่ดิน ยังคงไม่พุ่งสูงมากนัก ส่งผลให้ Demand การปลูกสร้างบ้านในพื้นที่โซนกรุงเทพตอนเหนือมีอัตราส่วนสูงสุด คิดเป็น 36% (จตุจักร,สายไหม,บางเขน,ดอนเมือง) ตามมาด้วยพื้นที่โซนกรุงธนตอนเหนือ 26% (ทวีวัฒนา,ตลิ่งชัน จอมทอง), กรุงธนตอนใต้ 22% (บางขุนเทียน,บางนา,พระโขนง) และพื้นที่โซนกรุงเทพตะวันออก 16 % (ลาดกระบัง,ประเวศ,บึงกุ่ม) ตามลำดับ
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle2 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle2 { min-width: 300px;
min-height: 250px; } }
จากพันธกิจ ของแลนดี้ โฮม ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัย เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยให้ได้อยู่อาศัยในบ้านที่มีคุณภาพ แลนดี้ โฮม จึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ “Product Differentiation” สร้างความต่างผ่านนวัตกรรม “บ้านสุขภาพดี” ที่หาไม่ได้จากบริษัทรับสร้างบ้านอื่นใด ตอกย้ำแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ Always Ahead “ก้าวก่อนใครในทุกด้าน” โดยแลนดี้ โฮม ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงผู้นำการสร้างบ้านเท่านั้น แต่ต้องการให้การบริการสร้างบ้านด้วยหัวใจ โดยบ้านทุกหลังที่สร้างจากแลนดี้ โฮม เกิดจากความใส่ใจในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง และยังต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ภายในบ้านที่ทำให้สุขภาพดีขึ้นในทุกวัน ทั้งการปกป้องอันตรายจากเชื้อโรคและฝุ่นละออง การเลือกออกแบบและใช้วัสดุการก่อสร้างที่อยู่สบาย การลดอุณหภูมิภายในบ้านเพื่อให้อยู่อย่างมีความสุขในทุกสภาพอากาศ ตลอดจนเน้นออกแบบฟังก์ชันในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ พร้อมคัดสรรวัสดุและสุขภัณฑ์ชนิดพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยเทคโนโลยีของการอยู่อาศัย 4 นวัตกรรม ได้แก่
CAP+ (แคป พลัส) Clean Air Positive Pressure ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์
ปัจจุบันค่าฝุ่น PM2.5 กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นในทุกปี แค่เพียงหายใจเข้าไปก็มีโอกาสเกิดโรคอันตรายถึงชีวิตได้แบบไม่คาดคิด เพื่อปกป้องทุกสมาชิกในครอบครัวต่อมลภาวะในอากาศและสุขภาพในระยะยาว บ้านทุกหลังที่สร้างกับแลนดี้ โฮม จึงติดตั้งระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ CAP+ (แคป พลัส) Clean Air Positive Pressure ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ พร้อมสร้างสภาวะแรงดันบวกในห้อง สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เข้าบ้านได้ตั้งแต่แรก
โดยคุณสมบัติเด่นของ CAP+ ที่เหนือกว่าเครื่องกรองอากาศทั่วไปคือ
- ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่บ้านได้ตั้งแต่แรก ด้วยการสร้างสภาวะแรงดันบวกเสมือนห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล
- ช่วยให้บ้านสะอาด และลดอาการภูมิแพ้เรื้อรัง ไอ จาม หอบหืด
- เติม Fresh air ช่วยให้นอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น (เพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ ลดคาร์บอนไดออกไซด์ และรักษาระดับออกซิเจน)
- ลดปัญหาบ้านอับชื้น
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยทุกวัยมีสุขภาพดีขึ้น นอนหลับเต็มอิ่ม ตื่นมาสดชื่น ปลอดโปร่ง ลดปัญหาภูมิแพ้ ส่งเสริมประสิทธิภาพและพัฒนาการทางสมองที่ดี โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่อยู่ในวัยเรียนรู้ ทั้งนี้นวัตกรรม CAP+ (แคป พลัส) ได้รับการตอบรับจากครอบครัวที่ใส่ใจในสุขภาพเป็นอย่างดีโดยเฉพาะกลุ่มคุณหมอ หรือบุคลากรทางการแพทย์
CP Design นวัตกรรมบ้านปลอดแมลงสาบ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยใส่ใจสุขอนามัย แก้ปัญหาแมลงสาบซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนมีบ้าน แลนดี้ โฮม จึงพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อแก้ปัญหาป้องกันไม่ให้แมลงรบกวนภายในบ้านได้อย่างยั่งยืน ด้วยการตัดเส้นทางการเข้าออกและวงจรชีวิตของแมลงสาบ โดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย จึงเน้นในเรื่องวิธีการจัดการระบบสุขาภิบาลรอบบ้านที่ทันสมัย ด้วยการสร้างบ่อดักไขมันพร้อมตัวกันกลิ่นที่ถูกสุขลักษณะ เลือกใช้ ประตูครัว Galvanized Seal ขอบยางโดยรอบ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขอนามัยที่ดี
Landy Eldercare นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ โดยปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว บ้านในยุคปัจจุบัน จึงควรเน้นการออกแบบฟังก์ชันที่ช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุแก่สมาชิกผู้สูงอายุในครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน แลนดี้ โฮม เน้นออกแบบและก่อสร้างบ้านที่อยู่สบายและเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยนอกจากออกแบบและจัดวางฟังก์ชันภายในบ้านที่เหมาะสมแล้ว ยังคัดสรรวัสดุและสุขภัณฑ์ชนิดพิเศษคุณภาพสูง ทำให้รองรับความต้องการของผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีความจำเป็นต้องใช้ Wheelchair ได้ จึงช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในทุกวันแก่ผู้สูงอายุได้ดียิ่งขึ้น
Landy Home Cooling บ้านเย็นอยู่สบาย นวัตกรรมที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่โลกมีอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ด้วยความใส่ใจในการออกแบบเพื่อให้ทุกสมาชิกได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกสภาพอากาศ โดยคัดสรรวัสดุคุณภาพที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนพร้อมปกป้องแสงแดดได้เป็นอย่างดีมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของตัวบ้าน
ได้แก่ อิฐมวลเบา,สีทาภายนอกชนิดฟิล์มกึ่งเงาสะท้อนความร้อน, แผ่นสะท้อนความร้อน,ฉนวนกันความร้อน ระบายความร้อนฝ้าชายคา และกระจกเขียวตัดแสง เป็นต้น
และนี่คือนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ “แลนดี้ โฮม” ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นจุดเด่นที่สร้างความแตกต่าง ทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจและตัดสินใจปลูกสร้างบ้านกับแลนดี้ โฮม โดยเฉพาะ CAP+ (แคป พลัส) ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ นับเป็น Key Success หลักที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตมากถึง 20% จากก่อนหน้าที่ยังไม่มีนวัตรกรรมดังกล่าว โดยแลนดี้ โฮมยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยให้คนไทยได้บ้านที่สวยงาม อยู่อาศัยอย่างมีความสุขพร้อมส่งเสริม “สุขภาพดี” ให้แก่สมาชิกทุกคน ทุก Generation ในครอบครัวไปพร้อมๆกัน ทั้งปัจจุบันและอนาคตด้วย Concept “สร้างบ้านสุขภาพดี ต้องแลนดี้ โฮม”