เปิดใจนักผสมพันธุ์สุนัขเจ้าของฉายา “กามเทพหมา” ไม่ใช่สัตวแพทย์ แต่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ชำนาญการ สั่งสมประสบการณ์ยังไง ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์1ของเมืองไทยพร้อมเปิดรายได้ ที่มีงานเข้ามาทุกวัน รับพีคสุดวันละหมื่นบาทต่อวัน

นักผสมพันธุ์สุนัขเบอร์1เมืองไทย

“วันนึง เคยมีสูงสุดรับได้ 10 เคส เฉลี่ยเคสละ 1 พันบาท ก็ได้ประมาณ 1 หมื่นบาท อันนี้คือสูงสุด ทุกวันนี้ลูกค้าพี่เยอะมาก ตรงจุดนี้ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว พี่คิดว่า ทุกอาชีพมันก็ดีเหมือนกันทุกอาชีพแหละ แต่ว่าตรงส่วนนี้ เราคิดว่าเราชอบสัตว์ เรารักสัตว์ ก็เลยคิดว่า ทำตรงนี้ได้ ซึ่งมันก็มีรายได้ตอบแทนค่อนข้างจะชัดเจนครับ”

“หนึ่ง-นิรันดร์ เจริญสุข” อาชีพนักผสมพันธุ์สุนัข วัย 51 ปี ที่เรียกตัวเองว่าเป็น ผู้ชำนาญการทางด้านผสมพันธุ์สุนัข ทั้งการผสมแบบธรรมชาติและเทียมมานานกว่า 20 ปี

แม้ไม่ใช่สัตวแพทย์ แต่ด้วยประสบการณ์ ที่เรียนรู้มา ทำให้หลายคนไว้วางใจ เรียกใช้บริการ มีงานเข้ามาทุกวัน พีคสุดเคยได้ถึงหลักหมื่นต่อวัน แถมยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งเจ้าของฉายา ที่หลายคนต่างขนานนามให้ว่า “กามเทพหมา”

“อาชีพรับจับผสมสุนัขทุกสายพันธุ์ มีคนทำลักษณะนี้น้อยมาก ความสามารถตรงนี้เราไม่ใช่หมอ แต่ว่าเราทำงานร่วมกับหมอได้ ซึ่งต้องออกตัวนิดนึงว่าเราไม่ใช่หมอ เราเป็นผู้ชำนาญการมากกว่า

พี่รับจับผสมพันธุ์ ก็มีผสมจริง ผสมเทียม แล้วก็ตรวจวันตกไข่ เช็คน้ำเชื้อตัวผู้ มีอัลตราซาวด์หลังผสม ก็จะมีงานบริการตรงนี้ แล้วก็รับปรึกษาทั่วๆ ไป เรื่องหมาๆ เราจะเน้นเรื่องความสะอาด เรื่องความถูกต้อง โอกาสติดไม่ติด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพ่อแม่พันธุ์ครับ”

เจ้าของฉายา กามเทพหมา ที่หลายคนต่างขนานนามให้ ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพนี้ให้ฟังชัดๆ ว่า เริ่มต้นมาจากที่เป็นคนรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ตั้งใจเปิดฟาร์มหมาที่บ้าน แต่พอทำได้ระยะหนึ่ง ก็รู้สึกว่าไม่มีเวลาออกไปไหนมาไหน และอยากพักผ่อนบ้าง

บวกกับช่วงนั้น เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง หรือยุคฟองสบู่แตก ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนั้น ที่ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จึงเลิกทำฟาร์ม แต่ด้วยใจรัก ก็ยังอยู่ในวงการหมาอยู่ดี นั่นก็คือการผันตัวเองไปเป็นนักผสมพันธุ์สุนัขทุกสายพันธุ์

“ยุคปี 2540 ช่วงนั้นเป็นยุคฟองสบู่แตก ซึ่งพี่ทำฟาร์มหมาอยู่ก่อนช่วงนั้น เลี้ยงอยู่ 80 กว่าแม่ จะเป็นพวกสุนัขพันธุ์เล็ก เป็นปอม เป็นชิวาว่า เลี้ยงมาประมาณ20 กว่าปี แล้วก็เลิกเลี้ยง ส่วนหนึ่งเราเลี้ยงมานานพอสมควร เราเลี้ยงมาหลายปีแล้ว เราคิดว่า อยากจะพักผ่อนบ้าง ช่วงทำฟาร์มหมาคือไปไหนไม่ได้เลย คืออยากพักผ่อนครับ

ช่วงที่พี่เลี้ยง สมัยนั้นมีผสมจริงอย่างเดียว ไม่มีผสมเทียม พี่ก็ยังทำไม่เป็น พี่ก็จ้างเขามาผสม เราก็เรียนรู้ไปด้วย จนเราพอทำเองได้บ้าง พอเลิกจากทำฟาร์ม ก็พรรคพวกที่ยังเลี้ยงๆ กันอยู่ ก็เลยเรียกเราไปทำการผสมให้ หลังจากนั้นเรียกเราบ่อยๆ ก็เลยกลายเป็นอาชีพที่เรารับจับผสมขึ้นมาช่วงหลังๆ”

จากครูพักลักจำ และไม่หยุดที่จะหาความรู้ให้ตัวเอง บวกกับประสบการณ์ทำงานในแต่ละเคส ที่หลายคนเคยเรียกใช้บริการ ทำให้พี่หนึ่งเอ่ยปาก การันตีเลยว่าตัวเองนั้น เรียกได้ว่า เป็นเบอร์1 ของเมืองไทยก็ว่าได้

“ตรงนี้จริงๆ แล้วบุคลากรมีน้อยมาก คนที่จะทำลักษณะนี้มันมีน้อย ซึ่งถึงจะมี แต่บางคนเขาเชื่อเครดิตเรา เขาก็เรียกเราเข้าไปทำซะส่วนใหญ่ จนกลายเป็นว่าคนรู้จักมากขึ้นๆ ช่วงนั้นเราก็ว่างงานอยู่พอดี ก็เลยมาทำตรงนี้ยาวๆ เลย ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติม หาอุปกรณ์เพิ่มเติม หาความรู้เพิ่มเติม กลายเป็นว่า เราสามารถขึ้นมาเป็นเบอร์1 ของเมืองไทยได้

ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้โอกาสเรา ซึ่งผมยอมรับว่า ทำแรกๆ ก็ไม่มีคนรู้จัก แต่ว่าพอหลังจากนั้น มีเพื่อนๆ บอกกันปากต่อปาก ซึ่งตรงนี้ผลงานเราค่อนข้างชัดเจน หลายๆ คนบอกว่า พี่หนึ่งเป็นกันเอง พูดจาดี ไม่เหมือนกับคนที่จับผสมหมาทั่วๆ ไป ซึ่งบางคนจะเอาเงินอย่างเดียว หมาจะผสมได้ไม่ได้ก็คือจะเอาเงินอย่างเดียว หลายๆ คนก็เลยแนะนำว่า พี่หนึ่งอะดี คุยกันเองดี ทำงานค่อนข้างที่จะชัดเจน สะอาด ประมาณนี้ครับ

เรามาอยู่ถึงจุดนี้ได้ ซึ่งเราเรียนรู้เอง เราหาประสบการณ์เอง อีกอย่างหนึ่งคือใจเรารักด้วย เราชอบสัตว์ เราจับได้โดยไม่รังเกียจ ก็เลยทำขึ้นมา

งานตรงนี้จริงๆ แล้ว มันเป็นประสบการณ์มากกว่า ไม่มีข้อมูลโดยตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะเสิร์ชดูข้อมูลในกูเกิลได้ แต่ตรงจุดนี้อาศัยประสบการณ์มากกว่า ซึ่งมันไม่มีข้อมูลมาก ตามสัตวแพทย์ เขาก็ไม่ได้เรียนกันตรงจุดนี้

บอกตรงๆ ว่าเราเรียนรู้ด้วยตัวเราเอง ซึ่งอาศัยประสบการณ์มากกว่า เราจะบอกไม่ได้ว่าไปเรียกจากไหนอะไรยังไงนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนหนึ่งมันคือ ต้องมีใจรักสัตว์ แค่นั้นเอง”

“กามเทพหมา” ฉายาที่หลายคนตั้งให้

ได้รับความไว้วางใจไว้วางใจจากบรรดาเหล่าทาสหมาหลายต่อหลายคน จนโด่งดัง พ่วงตำแหน่งเจ้าของฉายา “กามเทพหมา”

สำหรับฉายานี้ พี่หนึ่งก็ได้ช่วยเล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังอีกว่า จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ จนหลายๆ คนเอาไปเรียกตาม จนเป็นฉายามาจนถึงทุกวันนี้

“ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ อีกนั่นแหละ ซึ่งครั้งแรกเลยที่พี่ได้มีฉายา ได้มีคนรู้จักมากขึ้น ครั้งแรกพี่ให้สัมภาษณ์สื่อหนังสือพิมพ์ของเดลินิวส์ ซึ่งเขาเอาไปตีแผ่อะไรสักอย่างนึง เป็นคอลัมน์เล็กๆ ซึ่งตรงจุดนั้นแหละ เขาก็เลยให้ฉายา “กามเทพน้องหมา” ก็เลยกลายเป็นว่า ใช้ฉายานี้มาตลอด แล้วใครๆ ก็เลยรู้จักกันทุกวันนี้

จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ ก็อาจจะเรียกบาทหลวง แต่พอสื่อของเดลินิวส์ ให้ฉายากามเทพน้องหมามา มีความรู้สึกว่า เออเราก็ชอบนะ เออมันดูดี ซึ่งน้อยคนที่จะเป็นได้

ช่วงแรกๆ ที่พี่เข้ามาจับผสมเนี่ย ก็มีในกลุ่มพวกหมาใหญ่ พวกพิตบูล อะไรอย่างนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหมาใหญ่ เขาก็จะให้ฉายาเราก่อนว่า บาทหลวงมาแล้วๆ เรียกอะไรประมาณนี้ คือเราก็คล้ายๆ ว่าเป็นคนไปทำให้น้องหมามันมีความสุข ให้น้องหมามันได้แต่งงานกัน เขาก็เลยเรียกบาทหลวง (หัวเราะ)”
 

นอกจากฉายาที่หลายคนเรียกขาน พี่หนึ่งยังเล่าให้ฟังอีกว่า จริงๆ นั้น เริ่มแรกเป็นที่รู้จัก และโด่งดังมาจากการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติมาก่อน โดยเฉพาะในวงการหมาใหญ่ จะรู้จักชื่อเป็นอย่างดี แต่พอ 10 ปีหลัง เริ่มมีการผสมเทียมเข้ามา ทำให้เหล่าบรรดาทาสหมาทั้งหลาย ก็ใช้บริการการผสมเทียมมากกว่า แต่การผสมแบบธรรมชาติ ก็ยังคงมีเหลืออยู่บ้าง

“ช่วงยุคแรกๆ ปี 2540-2545 ช่วงนั้น ยังไม่มีการผสมเทียม ช่วงนั้นเราผสมจริงอย่างเดียว ทีนี้การผสมจริงช่วงนั้น มันจะเป็นหมาพันธุ์ใหญ่ ซึ่งมีแรงเยอะ แต่ส่วนหนึ่งพรรคพวกเขาจะรู้กันว่า พี่หนึ่งมาจับให้นะ พี่หนึ่งเอาอยู่นะ อะไรประมาณนั้น

แต่ช่วงนั้นเราก็ต้องมีการมัด การยึด เพราะบางครั้ง หมาพวกนี้ มันจะมีสัญชาตญาณของความดุอยู่ เราก็เลยดูรุนแรง ดูซาดิสม์นิดนึง แต่หลังๆ มามันมีการผสมเทียม มันก็ซอฟต์ขึ้น ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน

ช่วงแรกๆ ที่เป็นกลุ่มของพิตบูล ส่วนใหญ่จะผสมจริงมากกว่า แล้วก็คนในวงการพิตบูล คนในวงการหมาใหญ่ เขาจะรู้ว่าพี่คอนโทรลหมาได้ สามารถเอาหมาดุๆ อยู่ได้ ซึ่งตรงส่วนนั้น มันก็อาจจะดูแล้วมีความรู้สึกว่า รุนแรงนิดนึง

บางทีอาจจะต้องผูกขา มัดปาก หรืออะไรอย่างนี้ ซึ่งเราจะต้องขืนใจนิดนึง แต่ว่าหลังจากนั้นมา ก็จะเป็นการผสมเทียมแล้ว มันจะเป็นอะไรที่ซอฟต์แล้ว มันจะไม่มีการกระทบกระทั่งกันแล้ว ไม่ว่าหมาเล็กหมาใหญ่ มันก็จะดูแบบซอฟต์ขึ้นทุกๆ อย่าง”
จากที่มีความกล้าในการผสมพันธุ์หมาใหญ่ จึงทำให้ชื่อของเขาในตอนนั้น เป็นที่รู้จักขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักมากขึ้นในปัจจุบันนี้

“ยุคนั้น ในกลุ่มหมาใหญ่ มันไม่ค่อยมีคนรับงานลักษณะนี้ ซึ่งเขาก็กลัวว่าหมาจะกัดเรานะ หมาเป็นหมาพันธุ์ดุนะ อะไรอย่างนี้ ตรงจุดนั้น ส่วนใหญ่คนในวงการก็จะรู้จักพี่เป็นคนแรก ทำให้คนรุ่นหลังๆ ก็รู้จักเราในจุดที่แบบว่า คอนโทรลหมาใหญ่ได้ สามารถจับผสมได้นะ”

เรียนรู้จากประสบการณ์ จนเป็นผู้ชำนาญ

แม้ไม่ใช่สัตวแพทย์ แต่ขอเรียกตัวเองว่า เป็นผู้ชำนาญการทางด้านผสมพันธุ์สุนัขทั้งการผสมแบบธรรมชาติและเทียมและผู้ชำนาญการคนนี้ ก็ได้บอกอีกว่า ที่เรียกตัวเองว่าแบบนี้ เพราะนอกจากความเชื่อมั่นจากฟาร์มต่างๆ แล้ว ยังได้รับความเชื่อมั่นจากโรงพยาบาลสัตว์ชื่อดังต่างๆ อีกด้วย

“พี่โชคดีที่ว่า พี่เป็นคนแรก และเป็นคนเดียว ที่ว่าจับผสมสุนัขแล้วได้ออกสื่อเยอะที่สุด ก็เลยกลายเป็นว่าFC เอย หรือว่าตามโรงพยาบาลเอย เขารู้จักเราในทางสื่อของโซเชียลฯ ก็เลยกลายเป็นว่า ทางพวกคนดังๆ หรือว่าตามโรงพยาบาลสัตว์ เขาก็เลยเรียกใช้เรา

เราถึงได้บอกว่า มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว เราไม่ใช่หมอ ส่วนหนึ่งตรงนี้ มันไม่ได้ มีใบการันตีครับ มันอาศัยประสบการณ์ อาศัยชื่อเสียงเรา อาศัยผลงานเรามากกว่าครับ

อันนี้อยากจะเสนอว่า บางคนที่อยากจะทำอาชีพนี้ เรื่องอุปกรณ์ไม่สำคัญ แต่ว่า เน้นความชำนาญ เน้นประสบการณ์ ทำออกมาแล้วดูดี พี่อยากจะฝากไว้นิดนึงว่า อย่าคิดว่าเอาสัตว์มาเป็นของทดลอง”

นอกจากนี้ ผู้ชำนาญการคนนี้ ยังช่วยแนะนำอีกว่า ความสำคัญในอาชีพนี้คือ เน้นความสะอาด และความปลอดภัยของน้องหมาเป็นที่ตั้ง

“อาชีพนี้เน้นความสะอาด เน้นความปลอดภัย อย่าไปฝืน บางครั้งพ่อหมาที่มีอายุเยอะๆ เรามีความรู้สึกว่า ทำไปเนี่ย เขาอาจจะเป็นฮีทสโตรกได้ หรือเขาอาจหัวใจวายตายได้ ก็ไม่ควรทำ เราต้องวิเคราะห์ด้วย เราต้องดูด้วย

กรณีฉีดผสมเทียม จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ยาก เพียงแต่ว่า เราต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญอีกนั่นแหละ คือถ้าเกิดเสียบผิดที่ผิดทาง หรือว่าทำไม่ถูกจังหวะ หรือว่าอะไรอย่างนี้ ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อ เกิดการอักเสบได้

แต่คำว่าอักเสบ หรือติดเชื้อ ไม่ว่าผสมจริง หรือผสมเทียม มันก็มีโอกาสติดได้ทั้ง 2 อย่าง แต่กรณีผสมเทียม เราต้องใช้อุปกรณ์ ซึ่งอาจจะมีการสอดใส่เข้าไปข้างใน ต้องอาศัยความชำนาญ อาศัยประสบการณ์ ถ้าเกิดว่าคุณไม่มีความชำนาญ หรือไม่มีประสบการณ์เลย อยู่ๆ แทงเข้าไปเลย มันก็เกิดการอักเสบได้เหมือนกันครับผม

พี่รับจับผสมจริง และผสมเทียม กรณีผสมเทียม ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อหมาที่เขานำเข้ามาแพงๆ ซึ่งเขาจะเซฟเรื่องการติดเชื้อ ทีนี้กรณีโลกของการติดเชื้อ จะมีโรคทางระบบสืบพันธุ์ ถ้าเป็นคนก็เหมือนโรคเอดส์ ซึ่งถ้ามาผสมพันธุ์กันจริงๆ มันก็จะมีการติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์ ส่วนใหญ่พ่อหมาที่เขาแพงๆ เขาจะให้ผสมเทียมอย่างเดียว

พ่อหมาที่ค่าตัวแพงๆ ที่เขาขายน้ำเชื้อแพงๆ ส่วนใหญ่เขาจะไม่ให้ผสมจริงเลย เขาจะให้ผสมเทียมอย่างเดียว แม้กระทั่งการสัมผัสกัน การเจอกัน เขาก็จะไม่ให้ดม ไม่ให้เลียเลย เขาจะเซฟเรื่องการติดเชื้อมาก”

พีคสุด!!รับรายได้วันละหมื่น

เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นที่รู้จักโด่งดังในวงการนี้แล้ว สำหรับเรื่องรายได้ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าชื่อเสีย เพราะมีรายได้สุดปังรับงานพีคสุดโกยรายได้วันละ1 หมื่นบาท แม้ช่วงวิกฤตโควิด-19 อาชีพนี้ก็ไม่ได้รับผลกระทบ แถมช่วงนั้น ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอีกด้วย

“ช่วงโควิด พี่เคยรับงานพีคๆ สุด 10 เคส เฉลี่ยเคสละ 1 พันบาท วันหนึ่ง 10 เคยวันหนึ่งก็ได้ หมื่นบาท ซึ่งมันก็ไม่ได้ทุกวันนะ บางทีเราไม่ได้ยอดสูงๆ ทุกวัน แต่มันมีครับ 5-6 เจ้า มันมีทุกวันครับ

คือเฉลี่ยรายได้ มันไม่แน่นอน เดือนนึง เราสามารถทำยอดได้ประมาณครึ่งแสนขึ้นไป ขั้นต่ำ ต้องแยกด้วยว่า บางครั้งกรณีที่เก็บย้ายน้ำเชื้อส่งต่างจังหวัด เคสนึง ค่าใช้จ่ายครั้งละ 5-7 พันบาท วันหนึ่งเรามีผสมบ้าง เรามีย้ายน้ำเชื้อบ้าง รวมๆ กันวันหนึ่ง หมื่นกว่าบาทก็มี แต่ในความรู้สึกแล้ว คิดว่าอาชีพนี้มันอยู่ได้

พี่บอกตรงๆ ว่า ทุกวันนี้ลูกค้าพี่เยอะมาก ตรงจุดนี้ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว พี่คิดว่า ทุกอาชีพมันก็ดีเหมือนกันทุกอาชีพแหละ แต่ว่าตรงส่วนนี้ เราคิดว่าเราชอบสัตว์ เรารักสัตว์ ก็เลยคิดว่า ทำตรงนี้ได้ ซึ่งมันก็มีรายได้ตอบแทนค่อนข้างจะชัดเจนครับ”

เมื่อให้มองความเป็นไปได้ของอาชีพนี้ ในอนาคต เขาก็มองว่า สามารถเติบโตและมีรายได้ไปได้เรื่อยๆ เพราะทุกวันนี้ คนชอบเลี้ยงหมาเป็นเพื่อน เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว ดังนั้น ความต้องการของคน ยิ่งทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมยืนยันว่า จะทำอาชีพนี้ไปจนกว่าจะหมดแรง

“อาชีพนี้ คิดว่าในส่วนตัวผมแล้ว มันทำไปได้เรื่อยๆ จนกว่าร่างกายเราจะหมดแรง แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน เพราะบางคนคิดว่าจะทำ แต่ไม่มีลูกค้า มันก็อยู่ไม่ได้ ส่วนหนึ่งพี่คิดว่า อาชีพนี้มันสามารถทำไปได้เรื่อยๆ สำหรับตัวพี่นะ

ผมมีงานทุกวัน ยิ่งช่วงโควิด-19 ไม่มีผลกระทบเลย อย่างน้อยๆ วันนึง 4-5 เจ้า อันนี้ขั้นต่ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราสามารถรับสูงสุดได้ประมาณวันนึง 10 เคส ซึ่งมันจะเหนื่อยตรงการขับรถนี่แหละ แต่หน้างานจริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไร ก็คือใช้เวลาครึ่งชั่วโมงต่อเคส หรือว่า1 ชั่วโมงสูงสุดต่อเคส

กรณีรับงานของเราเนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นฟาร์ม ซึ่งทางฟาร์มเขาก็จะผูกขาดกับเราอยู่แล้ว กรณีหมาเขาเป็นสัตว์พร้อมผสม เขาก็ต้องเรียกเรามาทำการผสมให้ ช่วงหลังๆ ก็จะมีประเภทที่แบบว่า เลี้ยงเล่นตามบ้าน เลี้ยงตัวผู้ตัวเมียอยู่แล้ว เขาอยากได้ลูกหมา อยากจะแบบว่ามีลูกหมาไว้ชมเชยต่อ เขาก็อาจจะเรียกเราผสมบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นฟาร์มมากกว่า

ส่วนใหญ่คิดตามระยะทาง ซึ่งสตาร์ทครั้งแรกแถวๆ เขตนนทบุรี ครั้งละ1 พันบาทครับ เคสละ1 พันบาทต่อ1 คู่ อย่างเช่นสมมติว่า จากนนทบุรีไปปทุมธานี คิดครั้งละพันห้า จากนนทบุรีเข้ากรุงเทพฯ คิดครั้งละพันห้า บวกไปตามระยะทาง 

แต่บางเคสที่ไปไกลๆ เลย อย่างโคราช ผมก็คิดครั้งละ 4-5 พันบาท แล้วแต่เคส หรือว่าบางครั้ง ลูกค้าเสนอให้เอง เพราะลูกค้าอยากให้เราไปทำให้ แต่ผมก็พยายามแนะนำว่าหาคนในพื้นที่ก่อนนะ แต่ว่าส่วนหนึ่งถ้าเขาอยากให้เราไปจริงๆ เขาเสนอราคามาให้เราเอง อันนั้นเราก็ยินดี ส่วนหนึ่งเราก็ไปทำให้อยู่แล้ว

ไปไกลสุดก็ อย่างถ้าทางใต้ก็ประจวบคีรีขันธ์ คือไกลสุดอันนี้ กรณีเราไปเก็บน้ำเชื้อ มาส่งให้ลูกค้า กรณีตัวผู้อยู่ประจวบฯ ตัวเมียอยู่เชียงใหม่ เราก็สามารถไปย้ายน้ำเชื้อจากประจวบฯ เพื่อมาส่งที่ดอนเมือง แล้วไปส่งให้ลูกค้าที่เชียงใหม่ได้”

ประทับใจสุด คนดังเรียกใช้บริการ

จากที่ได้รับความไว้วางใจจนมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีคนดังหลายคนติดต่อเข้ามาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย, กันต์ กันตถาวร พิธีกรชื่อดัง

ส่วนเคสที่ประทับใจที่สุด พี่หนึ่งเล่าว่า การได้ไปผสมพันธุ์ให้กับน้องหมาพันธุ์ดัชชุน ของ โมเมพาเพลิน (นภัสสร บุรณศิริ) บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง

“ผมทำอาชีพนี้มา 20 กว่าปี พี่เข้าไปผสมพวกบ้านดารา เคสที่ประทับใจที่สุด มีอยู่เคสนึง มีอยู่ครั้งนึง เข้าไปผสมพันธุ์น้องดัชชุนให้กับคุณโมเม ซึ่งเป็นดารา พิธีกร แต่ว่าไปผสมแล้วครั้งเดียวติดเลย อันนี้ประทับใจมาก ซึ่งพอหลังจากผสมแล้วทางคุณโมเมเขาอัปเดตมาว่าน้องท้องแล้วนะ น้องคลอดแล้ว ซึ่งได้ 4 ตัว

ซึ่งเราผสมแค่ครั้งเดียวนะ เพราะปกติ การผสมพันธุ์ ส่วนใหญ่จะผสม 2 ครั้ง วันเว้นวัน แต่เคสนี้เราไปผสมครั้งเดียว แล้วน้องได้ลูกหมาเลย อันนั้นเป็นเคสที่ประทับใจสุดเลย เพราะว่าเป็นการผสมครั้งเดียว แล้วเป็นการผสมเทียมด้วย

ที่ประทับใจ คือผสมครั้งเดียวติดเลย คือส่วนหนึ่งทางเจ้าของแม่พันธุ์ก็ไม่รู้ด้วยว่า หมาตกไข่ช่วงไหน วันไหน ซึ่งเขาลองกันแล้ว แล้วมันผสมกันไม่ได้ แล้วอยู่ๆ เขาเรียกเราเข้าไป มันเป็นเคสที่ฉุกเฉินเลย แต่ว่าเราก็ไปดูความพร้อมหน้างาน แล้วเราก็มีความรู้สึกว่า มันก็น่าจะได้ เราก็เลยผสมให้ ก็เลยผสมไปหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นการผสมเทียม แต่ก็ติดเลย

หลังจากผสมไปได้เดือนกว่าๆ ทางเจ้าของน้องก็อัปเดตมาว่า น้องท้องแล้วนะ ซึ่งหลังจากนั้น สองอาทิตย์กว่าๆ ทางเจ้าของก็อัปเดตมาอีกว่า น้องคลอดแล้วนะ ซึ่งหลังจากนั้น 4-5 วัน ทางเจ้าของก็โพสต์อินสตาแกรมว่า มีลูกหมานะ ซึ่งเราก็เห็น เราก็ประทับใจ ซึ่ง มันเป็นอะไรที่แบบว่าครั้งเดียวติดเลย”

[ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย]

ประสบการณ์แปลกๆ หมาคิดว่าตัวเองเป็นคน

ผู้เชี่ยวชาญด้านผสมพันธุ์หมาทุกชนิด ยังช่วยเล่าให้ฟังถึงเคสที่ยากสุดที่เคยทำมาให้ฟังอีกว่า นั่นคือการผสมพันธุ์น้องหมาชิวาว่า นั่นคือการที่น้องหมาคิดว่า ตัวเองไม่ใช่หมา เพราะถูกเลี้ยงมาร่วมกับคน ไม่ค่อยได้เจอสังคมแบบหมาๆ แล้วมีการขัดขืน ไม่ให้ความร่วมมือ

“ตั้งแต่เริ่มจับผสมมา เคยเจอเคสยากๆ เคยเจอน้องหมาชิวาว่า ซึ่งหมา น้องพวกนี้ บางทีเขาเลี้ยงอยู่กับเจ้าของ เลี้ยงอยู่กับคน ซึ่งบางทีเขาคิดว่า เขาไม่ใช่หมา ซึ่งพอเราจะเข้าไปทำ บางทีเขาหวงตัว เขาติดเจ้าของ เขาจะไม่ให้ความร่วมมือกับเรา อันนั้นถือว่ายาก เราจะคิดว่าเป็นหมาพันธุ์เล็ก จะทำง่าย หมาพันธุ์ใหญ่จะทำยาก แต่ส่วนหนึ่งหมาพันธุ์เล็ก เขาเลี้ยงอยู่กับคน บางครั้งเขาเข้าใจว่า เขาเป็นคน เขาไม่ใช่หมา เขาจะไม่มีอารมณ์ร่วมกับเรา เขาจะติดเจ้าของ เขาจะไม่ให้ความร่วมมือเลย อันนั้นถือว่ายาก

ถ้าเราจะทำ แล้วเขาหนีเรา หรือว่าเขาไม่มีอารมณ์ร่วม เราจะรู้ ซึ่งบางทีพอเราจะทำ หรือว่าพาตัวเมียเข้าไปหา เขาจะไม่สนใจตัวเมียเลย ซึ่งอันนี้เราจะดูออกแล้ว ซึ่งอันนี้จะยากแล้ว เราจะต้องมานั่งbuilt เราจะต้องมานั่งหาวิธี ให้เขามีอารมณ์ร่วมกับเราได้ สามารถรีดน้ำเชื้อออกมาได้ แต่เท่าที่เจอคำว่ายาก ยิ่งไปทำ เขายิ่งกลัวเรา ยิ่งไปพยายามฝืนความรู้สึกเขา เขาก็ยิ่งขยาดมือเรา เขาจะไม่ให้ความร่วมมือเลย อันนั้นเขาจะยาก

บางครั้งหมาบางตัว ที่แสดงพฤติกรรมไม่ร่วมมือกับเรา ที่แสดงพฤติกรรมไม่มีอารมณ์ร่วม หมาเขาเข้าใจว่าเขาเป็นคน ซึ่งเขาจะไม่สนใจหมาด้วยกัน ทั้งๆ ที่เราเอาตัวเมียที่พร้อมผสมมาให้ เขาก็จะไม่เอา เพราะเขาหลุดพ้นจากธรรมชาติมาแล้ว เพราะเขาเข้าใจว่า เขาใช้ชีวิตเหมือนคนเลย เขาจะไม่มีอารมณ์ร่วม ในกรณีการจะไปสืบพันธุ์กับตัวเมีย หรือว่าจะไปเล่นกับหมาตัวอื่น อันนั้นจะยาก

ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นอยู่กับ หมาที่แบบว่า เลี้ยงแบบคุณหนูเลย เลี้ยงแบบโอ๋ เลี้ยงแบบคน อะไรอย่างนี้ ตรงจุดนั้นจะไม่ค่อยมีสังคมหมาๆ ด้วยกัน อันนั้นค่อนข้างจะยาก
พอเราเจอเคสอย่างนี้ส่วนหนึ่ง ถ้าเรามีความรู้สึกว่า เราฝืนแล้ว น้องเขากลัวเรา เคสแบบนี้ต้องยกเลิกไปครับ เราไม่สามารถทำต่อได้”

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ยังทิ้งท้ายอีกว่า หาใครมีปัญหาเกี่ยวกับน้องหมา สามารถเข้ามาสอบถามได้ตลอด เพราะไม่หวงความรู้ ยินดีให้คำปรึกษากับทุกคน

“ทุกวันนี้สื่อโซเชียลฯ มันเยอะ ก็จะมีคนทักเข้ามาคุย เข้ามาปรึกษา ทั้งๆ ที่แบบบางครั้ง อาจจะไม่มีการผสมพันธุ์กันเกิดขึ้น แต่ว่าเขาก็ทักมาคุย มาปรึกษา แม้กระทั่งบางครั้ง ไม่ใช่เรื่องผสม ซึ่งบางทีเราก็ยินดีให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับว่าเออ น้องหมาท้องเสีย น้องหมาเจ็บป่วยอะไรอย่างนี้ ยินดีให้คำปรึกษาได้ เรายินดีเลย เราไม่ได้หวง ไม่ได้กั๊กอยู่แล้ว”

พลาดมาแล้ว ก่อนจะโปรฯ                “กรณีส่งน้ำเชื้อ ผมเคยมี ส่งไปแล้วใช้ไม่ได้ก็เคยมี คือส่งไปแล้วใช้ไม่ได้ ตอนนั้นเราใช้ Dry ice ซึ่งส่งไปแล้ว ไปถึงไปทางส่วนหนึ่ง ส่งไปทางเครื่องบิน ส่งไปเชียงใหม่เนี่ยแหละจำได้อยู่ เราใช้ Dry ice พอเราใส่เข้าไป ไปถึงปลายทาง น้ำเชื้อมันแข็ง แข็งเป็นวุ้นเลย ทีนี้กรณีแข็งเป็นวุ้น คือมันใช้ไม่ได้แล้ว เชื้อจะตาย เรายังประสบการณ์น้อย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเคสที่ 3 ซึ่งเราลองผิดลองถูกอยู่ จนมาช่วงหลังๆ เราก็เลยแบบศึกษาเรื่อยมา ว่าควรจะใช้อุณหภูมิเท่านี้ๆ แล้วแพ็คไปอย่างนี้ๆ มันถึงจะอยู่ได้นานขนาดไหน พอปลายทางรับไป แล้วของมันใช้ไม่ได้ เราก็ต้องมีการเคลมให้ ภายในวันนั้นเลย เพราะว่าแม่หมา บางครั้งเขารอวันไม่ได้ จังหวะวันตกไข่วันนั้น เขาก็ต้องผสมวันนั้น ซึ่งเราก็ต้องเคลมให้ภายในวันนั้น แต่ของอาจจะถึงรุ่งขึ้นของอีกวันนึง ก็คือเราต้องรับเคลมอยู่แล้วครับ กรณีเราเก็บน้ำเชื้อส่งไปแล้วใช้ไม่ได้ บางครั้งเรารีด กรณีตัวผู้เขาฉีดน้ำเชื้อ บางครั้งเขามีพวกแบคทีเรียปนไป หรือมีฉี่ปนไปเยอะๆ แล้วเราส่งไป น้ำเชื้อก็อาจจะมีผลต่ออสุจิ น้ำเชื้อก็อาจจะตายได้ ส่วนนั้นก็มี เรามีหน้าที่แค่แบบว่า รีดน้ำเชื้อตัวผู้ เช็คความพร้อมว่าน้ำเชื้อแข็งแรงไหม แล้วก็แพ็คใส่ลังโฟม ใส่อาหารเลี้ยงเชื้อไป ส่งถึงปลายทาง ซึ่งทางปลายทางจะต้องเช็คอีกทีว่า น้ำเชื้อที่เราส่งไปใช้ได้ไหม เราสิ้นสุดงานแค่ตรงนั้น แต่ส่วนหนึ่ง แม่พันธุ์เขาจะผสมติดไม่ติด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเขา ขึ้นอยู่กับคนทำทางโน้น  แต่ก่อนที่จะผสม เขาจะต้องมีคนที่ทำการผสมคล้ายๆ เรา มาวอมน้ำเชื้อ มาปลุกน้ำเชื้อ แล้วก็มาเช็คดูว่าน้ำเชื้อใช้ได้ไหม ตรงนั้นคือสิ้นสุดงานของเราแล้ว จะติดไม่ติดขึ้นอยู่กับความพร้อมของตัวเมีย กรณีบางครั้ง ถ้าช่วงที่เรามีเคสเก็บย้ายน้ำเชื้อ ขั้นตอนแรกเลย เรารีดน้ำเชื้อ เราต้องทำความสะอาดอวัยวะเพศของตัวผู้ให้ดีเลย ซึ่งบางครั้งมันจะมีพวกแบคทีเรีย หรือเศษอะไรปนไปไม่ได้เลย เราต้องพยายามแบบว่า เน้นถึงเรื่องทำความสะอาดมากกว่า ส่วนใหญ่ที่เราจะส่งไป เราต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนอยู่แล้ว”

สัมภาษณ์โดย : ทีมข่าวMGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
ภาพ : วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : แฟนเพจ “รับจับผสมสุนัขทุกสายพันธุ์”
ขอบคุณสถานที่ : ฟาร์ม บางกอกเฟร้น หมู่บ้าน ดีอิมเมจ ลภาวัน

---

** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **