ขอบคุณชีวิตใหม่! หมอเผยความสำเร็จ รักษา นศ.สาววัย 18 ป่วยเหยียดร่างกายไม่ได้ เคสแรกของอีสาน


ขอบคุณชีวิตใหม่! หมอเผยความสำเร็จ รักษา นศ.สาววัย 18 ป่วยเหยียดร่างกายไม่ได้ เคสแรกของอีสาน

เมื่อเวลา 15.30น. วันที่ 22 ก.พ.67 ที่ห้องประชุมหนองแวง อาคารเรียนรวม รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. พร้อมทีมแพทย์ร่วมกันแถลงข่าว ความสำเร็จในการรักษาโรคหนังแข็ง ด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด รายแรกของภาคอีสาน ที่นับว่าเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน ท่ามกลางความสนใจจากผู้ที่ตามข้อมูลข่าวสารมาร่วมรับฟังและร่วมแสดงความยินดี จำนวนมาก

นพ.อภิชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทีมแพทย์ รพ.ศรีนครินทร์ ที่ได้รับตัว น.ส.ธนวรรณ โตภูเขียว อายุ 18 ปี ชาว ต.ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เข้ารักษา ด้วยอาการผิวหนังตึงและการยืดเหยียดของร่างกายทำไม่ได้เต็มที่ โดยผิวหนังแข็งตึงทั้งตัว ยกแขนขาลำบาก ช่วงหน้าหนาวจะเกิดแผลตามข้อนิ้ว ข้อศอก รู้สึกเจ็บมาก

ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบาก ทำกิจกรรมกับเพื่อนเวลาไปเรียนได้ไม่เต็มที่ ทีมแพทย์ของ รพ.ศรีนครินทร์ นำทีมโดย ศ.พญ.ชิงชิง ฟูเจริญ แพทย์ผู้เชียวชาญโรคข้อและรูมาติสซั่ม ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดโรคนั้นยังไม่มีแน่ชัดว่าเกิดจากอะไรหรือเกิดจากปัจจัยใด ส่วนจำนวนผู้ป่วยโรคหนังแข็งอยู่ที่ 2-3 คน ต่อประชากร 100,000 คนทุกปี แต่ในภาคอีสานจะเจอ 4 คนต่อประชากร 100,000 คนทุกปี

น้องเป็นคนไข้รายแรกของภาคอีสาน และเป็นคนไข้ที่อายุน้อยที่สุดที่รักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายเซลล์กำเนิดเม็ดเลือด ไม่อยากให้ต้องทุกทรมานกับโรค เพราะต้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตมีครอบครัวไปทำงานอยู่ในสังคมทีมแพทย์ จึงลงความเห็นว่าต้องเร่งรักษาให้เร็วและรักษาด้วยวิธีที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรักษาด้วยวิธีเดียวกันได้ทุกคน

ต้องมีการคัดเลือกคนไข้ที่เหมาะสม ไม่อายุมากเกินไปเพราะว่าการรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์เม็ดเลือด มีความเสี่ยงเพราะว่าการรักษาจะได้ยาที่มีผลกับร่างกายอย่างมาก ถ้าอายุเยอะอาจจะรับผลข้างเคียงไม่ไหว และโรคต้องไม่รุนแรงลงปอดลงหัวใจมากเกินไป แต่ของน้องอยู่ในระยะที่เหมาะสม น้องมีผิวหนังตึงรุนแรงแต่ภายในยังไม่รุนแรง อายุน้อยถือว่าเหมาะสมที่จะรักษาและได้ผลดี

ศ.พญ.ชิงชิง ฟูเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อและรูมาติสซั่ม กล่าวว่า การรักษาจริงๆ อาจจะไม่สูงมาก แต่ด้วยเวลารักษาแล้วจะมีโรคแทรกซ้อน ทำให้ต้องรักษาโรคอย่างอื่นร่วมด้วย เพราะทางแพทย์ต้องล้างเซลล์เดิมที่ผิดปกติออกไปให้หมดจากร่างกาย ต้องทำลายออกให้หมด เพราะถ้าไม่หมดจะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่าย เป็นเหตุต้องใช้ค่ารักษาเกี่ยวกับการติดเชื้อด้วยค่ารักษาประมาณ 1.5 ล้านบาท

ในปัจจุบันการรักษาแบบปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด เป็นการรักษาที่ทำให้โรคหายขาด แต่เคสนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาการรักษาและติดตามผลอีกประมาณ 1-2 ปี คาดว่าจะหายกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ววัน และมีแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ถ้ามีแผลทำให้ไปเรียนไม่ไหว

ขณะที่ น.ส.ธนวรรณ กล่าวว่า ช่วงหน้าหนาวจะทรมานที่สุด จะขาดเรียนบ่อย หลังจากที่รักษาไปแล้ว 7 เดือน ร่างกายเริ่มกลับมาใช้งานได้ปกติ สามารถไปออกกำลังกายและไปทำกิจกรรมกับเพื่อนได้เยอะขึ้น รู้สึกดีขึ้นมาก มีความสุขกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ตลอดระยะเวลาการรักษา จะมีแพทย์ พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ช่วงก่อนรักษา ระหว่างรักษา และหลังการรักษา ขอบคุณทีมแพทย์พยาบาลที่ช่วยให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *