โรคแพ้เสียงแตรกำเริบ!? โชเฟอร์รถตู้ผวา เจอหนุ่มกร่างคับถนน ปาดหน้า-จอดขวางชักปืนข่มขู่ ล่าสุดถูกตำรวจเรียกตัวแล้ว อ้างที่ชักออกมาคือโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ปืน
30 ต.ค. 66 กล้องหน้ารถคันหนึ่งได้บันทึกพฤติกรรมกร่างคับถนนของของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ขับรถเก๋ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่เลนซ้าย ก่อนจะปาดเข้าเลนขวา จอดขวางรถตู้ที่ขับตามมา ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับถือวัตถุบางอย่างเดินปรี่เข้ามาข่มขู่คนขับรถตู้พร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. วานนี้ (29 ต.ค. 66)
โดยคนขับรถตู้ที่ประสบเหตุ เผยว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ขับรถตู้ของบริษัทที่ทำงานอยู่จากในตัวเมืองเพื่อจะกลับบ้านใน อ.แม่ริมตามปกติ พอขับรถเลยสามแยกทางขึ้นน้ำตกแม่สา ไปถึงทางโค้งหน้าการไฟฟ้าแม่ริม รถเก๋งของคู่กรณีที่ขับอยู่เลนซ้าย ได้ขับกินเลนเข้ามา ตนเองไม่ทราบว่ามัวคุยโทรศัพท์หรือเมา จึงบีบแตรเตือนไปเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ รถคันดังกล่าวจึงเร่งเครื่องออกไปและเบี่ยงเข้าเลนขวาสุด ก่อนจะขับปาดหน้าจอดรถกลางถนน ชายคนขับเปิดประตูรถเดินลงมาพร้อมอาวุธปืนในมือ โดยมีการชักสไลด์ปืนเดินถือปืนเข้ามาหา พูดจาข่มขู่และด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นได้เดินกลับไปขึ้นรถขับออกไป
คนขับรถตู้บอกว่าเคยเห็นข่าวคนหัวร้อนบนท้องถนนมามาก แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจมาก เท่าที่สังเกตพบว่าชายคนดังกล่าวมีท่าทางคล้ายคนเมาและยืนยันว่าที่เห็นในมือคู่กรณีเป็นอาวุธปืน แต่ไม่ทราบว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม แต่หากเป็นปืนจริงก็ถือว่าโชคดีที่ตนเองไม่โดนยิงตายคารถ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นจะขอปรึกษากับบริษัทเจ้าของรถก่อนว่าจะแจ้งความหรือปล่อยให้เรื่องจบ เพราะหากแจ้งความก็กลัวจะถูกตามมาทำร้ายภายหลังเพราะรถที่ตนเองขับติดป้ายทะเบียนชัดเจน แต่ก็ขอให้ทางตำรวจหรือขนส่งเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ริม ได้เรียกตัวชายคนดังกล่าวมาให้ข้อมูล ซึ่งชายดังกล่าวได้เดินทางมาโรงพักพร้อมกระเช้าของขวัญ แต่ไม่ได้พบกับคู่กรณี โดยเบื้องต้นอ้างว่าอารมณ์ร้อนทะเลาะกับแฟนและบังเอิญเจอรถตู้ไม่ยอมให้เปลี่ยนเลน ทำให้โมโหและบอกด้วยว่าอาวุธปืนที่ผู้กรณีอ้างว่าถูกข่มขู่ จริงๆ แล้วไม่ใช่อาวุธปืน แต่เป็นโทรศัพท์มือถือที่ควักออกมาเท่านั้น
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า ในส่วนของการดำเนินคดี อยู่ระหว่างตรวจสอบหาพยานหลักฐานมายืนยันว่าวัตถุที่ถือออกมานั้นเป็นอาวุธปืนหรือไม่ หากเป็นอาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ในส่วนที่อาจจะมีความผิดในข้อหาข่มขู่ให้ผู้อื่นเกิดความกลัว ในส่วนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานงานกับผู้เสียหายซึ่งเบื้องต้นผู้เสียหายไม่ต้องการแจ้งความดำเนินคดีด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย หากผู้เสียหายยืนยันไม่แจ้งความทางตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินคดีในข้อหาข่มขู่ได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังระบุด้วยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากรรมด้วยอีกส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับให้สอบสวนและดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน หากพบมีความผิดให้ดำเนินคดีในทุกข้อหา