
สนามข่าว 7 สี – เหตุการณ์ที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องราวบนท้องถนน ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จู่ ๆ มีรถยนต์คันหนึ่งขับแซงและจอดขวางหน้ารถอีกคันไว้ ก่อนจะหักพวงมาลัยรถ แล้วพุ่งชนรถดังกล่าวอย่างแรง
นี่เป็นนาทีรถยนต์สีดำคันหนึ่งขับแซงขวาแล้วมาจอดกีดขวางรถยนต์สีขาวเอาไว้ บนสะพานแห่งหนึ่ง สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ถนนท่าน้ำ-วัดโบสถ์ พื้นที่ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี แล้วหักพวงมาลัย กลับรถอย่างไว เพียงเสี้ยวนาที รถยนต์สีดำพุ่งชนรถยนต์สีขาวอย่างแรง จนคนที่นั่งอยู่ในรถยนต์สีขาว กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นคนขับรถยนต์สีดำก็เดินตะโกนโวยวายลงมาจากรถ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปาก ก่อนที่คนขับรถยนต์สีขาวจะตั้งสติแล้วขับรถหนี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 04.40 น.
ชายอายุ 32 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 04.00-05.00 น. ตนเพิ่งจะเลิกงาน จึงชักชวนแฟนสาวไปกินอาหารแถวเกษตร-นวมินทร์ แล้วไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดแห่งหนึ่ง แถวถนนพระราม 5 จังหวะที่กำลังขับรถอยู่บนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี จู่ ๆ ก็มีรถยนต์สีดำขับมาจ่อท้าย และเปิดไฟสูงใส่ ตนเองจึงขับรถชิดซ้ายและเลี้ยวเข้าซอย ปรากฏว่ารถคู่กรณีขับตามหลังมาติด ๆ จนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแล้ว จึงหาทางขับรถขึ้นสะพานแห่งหนึ่ง เพื่อไปขอความช่วยเหลือที่โรงพัก แต่จังหวะที่ขับรถขึ้นสะพาน รถคู่กรณีขับตามมาเหมือนเดิม แถมเร่งความเร็วแซงขวาขึ้นไปจอดกีดขวางหน้ารถตนเองไว้ ก่อนจะกลับรถอย่างเร็วและพุ่งชนหน้ารถของตนเองอย่างแรง จนแฟนสาวของตนเองตกใจกรีดร้อง และร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว แถมคู่กรณีเดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าไม่พอใจ ซ้ำคาบบุหรี่ไว้ที่ปาก
ตอนนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยรถออกไปช่องทางขวาแล้วเร่งเครื่องหนี เพราะถ้าอยู่ต่อเชื่อว่าจะได้รับอันตรายแน่นอน จังหวะนั้นเองตนมองกระจกหลังเห็นผู้ก่อเหตุรีบโบกเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไปทันที
ส่วนตัวไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะตนเองก็ขับรถออกมาตามทางปกติ แถมตนเองก็ไม่รู้จัก หรือ เคยมีปัญหากับคู่กรณีมาก่อน เลยไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตนเองเลย
หลังจากนั้นตำรวจ สภ.บางศรีเมือง สืบสวนติดตาม จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ ชายอายุ 36 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงติดตามไปจับกุมตัวที่บ้านพัก โดยผู้ก่อเหตุรับสารภาพ่าก่อเหตุจริง แต่ญาติอ้างว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต แต่ไม่มีบัตรผู้ป่วย อยู่ระหว่างรักษาตัว ตำรวจจึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และตรวจหาสารเสพติด พร้อมส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เพื่อตรวจอาการทางจิต
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาชายอายุ 36 ปี หรือ ผู้ก่อเหตุ ในฐานความผิด “ทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์” เอาไว้ก่อน เมื่อผลตรวจออกมา จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป