
กระทรวงการต่างประเทศ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานพบตัวประกันคนไทยบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาล ย้ำทำทุกทางเจรจาให้ปล่อยตัวประกันแรงงานไทยในอิสราเอล และคนไทยจากเมืองเล่าก์ก่าย กลับประเทศ อย่างปลอดภัย โดยเร็วที่สุด
วันนี้ (20 พ.ย.66) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า การอพยพคนไทยในขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ยังนิ่ง แต่ยังเปิดโอกาสให้คนไทยในอิสราเอลที่ต้องการกลับประเทศไทยสามารถ ติดต่อมายังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
ซึ่ง พบว่ามีคนไทยติดต่อมาอยู่เป็นระยะ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ได้อำนวยความสะดวก เช่น ติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อส่งคนไทยเดินทางกลับประเทศไทยเป็นระยะเช่นกัน หลังจากเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ได้ปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวไปแล้ว จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับประเทศ เพิ่มเติมอีก ประมาณ 251 คน
ส่วนกรณีที่รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ที่ระบุว่าเป็นตัวประกันชาวไทย ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เพราะเป็นเพียงภาพ รายงานข่าวจากสำนักข่าวประเทศเท่านั้น ยังไม่ได้มีการยืนยันจากทางการแต่อย่างใด ส่วนตัวเห็นภาพและรายการข่าวดังกล่าวแล้ว คิดว่าตัวประกันชาวไทยยังมีชีวิตอยู่
ขณะที่ ความคืบหน้าการเจรจาให้ฮามาส ปล่อยตัวประกันชาวไทย ที่ถูกจับกุม 25 นางกาญจนา กล่าวว่า การเจรจาดังกล่าวยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวมาเป็นระยะว่า ตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัว ซึ่งทางการไทยก็หวังว่าตัวประกันชาวไทยจะได้รับการปล่อยตัว แต่ทราบว่าเงื่อนไขใหญ่ของกลุ่มฮามาส ที่ต่อรอง ขอให้อิสราเอลมีการหยุดยิงนั้น แต่อิสราเอลไม่ได้มีท่าทีตอบรับที่จะหยุดยิงต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน อย่างไรก็ตามเราก็ต้องติดตามต่อไปเป็นระยะ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวไทยในอิสราเอลต่อไป
นางกาญจนา ยังเปิดเผยถึงการเดินหน้าช่วยคนไทยที่ตกค้างในเมียนมา หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือไว้แล้ว 266 คน แล้ว โดยยอมรับว่ายังมีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่รอการช่วยเหลืออยู่ในประเทศเมียนมา และต้องใช้กระบวนการช่วยเหลือใกล้เคียงกับที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อพาคนไทยกลับมา
เมื่อถามว่ามีคนไทยอยู่ในเมียนมาจำนวนมากน้อยเพียงใด นางกาญจนา กล่าวว่า ตัวเลขเดิมที่เคยมีการติดต่อกับสถานทูตไม่ถึงหลักร้อย ซึ่งเมื่อวานคนที่เดินทางกลับ ก็ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ติดต่อกับสถานทูต แต่ปรากฎขึ้นมา ไม่คิดว่าจะถึงหลักร้อย ที่ผ่านมาสถานทูตเค้าจะรับการติดต่อจากคนไทย ผ่านมูลนิธิอิมมานูเอ็ล โดยสถานทูตออกค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน ค่าอาหารและสิ่งของจำเป็น ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สบาย แต่อยู่ในการสู้รบ ซึ่งก็ดีใจที่สามารถกลับมาประเทศได้แล้ว