สวัสดีค่า กลับมาพบกับพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” อีกแล้วนะคะ กับพื้นที่ที่จะพาทุกท่ามาเม้าส์เรื่องราวของวงการบันเทิง และสังคมไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์นี้ก็จะพาทุกคนไปพูดถึงเรื่องราวที่เรียกได้ว่าทุกคนพูดถึง และเป็นกระแสในวงการภาพยนตร์กันเป็นอย่างมาก พูดมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงจะหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” หนึ่งในจักรวาลของภาพยนตร์ “ไทบ้าน” ที่ได้สร้างปรากฎการณ์ใช้เวลาเข้าฉายได้ไม่นานแต่สามารถ “กวาดรายได้ไปแบบที่ไม่มีใครคาดคิด” ภายใน 2 สัปดาห์กวาดรายได้รวมทะลุไปกว่า 300 ล้านบาท และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเพียงเท่านี้ แต่คาดว่าน่าจะทะลุไปถึง 400-500 ล้านได้ไม่ใช่เรื่องยาก
อย่างที่บอกจะเรียกว่าเป็น “ความสำเร็จแบบเกินคาด” ก็ไม่เกินจริง เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “หนังนอกสายตา” หรือหนังม้ามืดก็ว่าได้ เพราะถ้าจะวัดฟอร์มของหนังจากทุนสร้าง เรื่องนี้ต้องถือว่าใช้ทุนสร้างต่ำเกินกว่าจะเรียกว่าหนังฟอร์มเล็กด้วยซ้ำไป แต่หนังทุนต่ำแบบนี้แหละ ที่ล้มช้างมานักต่อนักแล้ว
สำหรับภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ เป็นหนังไทยแนวตลก-สยองขวัญ ผลงานการกำกับโดย “ต้องเต–ธิติ ศรีนวล” หรือนามแฝง “ขยะหน้าต้นไม้” ซึ่ง ต้องเต รับหน้าที่ทั้งเขียนบท ตัดต่อ ทำซาวด์ รวมถึงแสดงเองด้วย และอย่างที่เกริ่นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในจักรวาลไทบ้าน ที่ตัวละครก็ยังวนเวียนอยู่ในจักรวาลนี้และทีมนักแสดงก็คือคนอีสานที่ไม่มีบิวตี้พริวิลเลจใดๆในการจะมาดึงคนให้เข้าโรงได้เลย แต่พวกเขามีเสน่ห์ มีความเรียล มีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้สิ่งที่นำเสนอและดึงให้ผู้ชมหลายคนพูดถึงและสนใจนั้นก็คือ “เรื่องราววิถีชีวิตพื้นบ้านท้องถิ่นอีสาน” ที่เล่าผ่านตัวละคนหลักในเรื่องแบบบ้านๆ ไม่ซับซ้อน
ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่จริงใจ และยังคงความสนุกม่วนซื่น อัดแน่นด้วยเสน่ห์สไตล์ไทบ้าน พร้อมเพิ่มเติมความหลอนแบบหนังสยองขวัญ แต่แก่นแท้ของหนังเรื่องนี้กลับทำให้หลายคนต้องหลั่งน้ำตา ด้วยการหยิบเรื่องความตายมาเล่าผสานกับความเชื่อของคนไทย ผ่านประเพณีและวิถีของพี่น้องชาวอีสาน ได้อย่างลึกซึ้งในหลากหลายมิติ โดยเป็นการ “นำเสนอแบบไม่ได้ยัดเยียด” ใดๆ แต่ในทางตรงข้าม หนังเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาทำให้คนดูเพลินเพลินและได้เรียนรู้ไปกับวิถีชาวบ้านด้วย ด้วยความที่ว่าทีมนักแสดงจะเรียลมาก และดูเป็นชาวบ้าน หนังพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง แต่มีซัพภาษาไทยให้อ่าน ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก จนเกิดเป็นความประทับใจจากผู้ชมหลายๆ คน จนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ทั่วบ้านทั่วเมือง และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากทุนสร้างที่ไม่มาก และไม่ได้คาดคิดจากทีมผู้สร้างด้วยว่าจะโด่งดังเป็นกระแสมากขนาดนี้
สุดท้ายแล้วจุดหลักสำคัญของจักรวาลไทบ้าน ก็จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวพื้นบ้านท้องถิ่นอีสาน แต่ถ้าหากมองหลึกลงไปถึง “แก่นหลักที่แท้จริง” ภาพยนตร์แต่ละเรื่องของพวกเข้าก็นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นใกล้ตัวของคนทุกคนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ ความรัก มิตรภาพ ซึ่งเป็นเรื่องราวเรียบง่าย ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย และมีอะไรสอดแทรก เข้าถึงคนดู เอาใจใส่คนดู สร้างความเข้าใจแบบไม่ทอดทิ้งคนดู ลงตัวทุกอย่าง ทีมผู้สร้างรู้ว่ากำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ และสามารถโยนประเด็นไปที่เรื่องนั้นๆ ได้ตรงเป้านั่นเอง และเรื่องนี่ก็พิสูจน์ให้ใครหลายๆ คนเห็นแล้วว่า ไม่ต้องใช้ดาราดังจุดขาย ไม่ต้องเป็นค่ายดัง เพียงแค่บทดี ผู้กำกับเยี่ยม และนักแสดงสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้เป็นธรรมชาติ และเข้าถึงบทบาทนั้นได้ ก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมได้เช่นกัน..
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”