จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Wasinee Sangsuy ได้โพสต์ ขอความช่วยเหลือหาภาพจากกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคนข้ามถนนจนได้รับบาดเจ็บ โดยได้ลง ข้อความว่า ขอความช่วยเหลือค่ะ คืนวันที่ 4 ตุลาคม เวลาประมาณ 20.35 น แม่กับพ่อกำลังเดินข้ามถนนบริเวณหน้าบริษัทซีเกต ถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหนีค่ะ หากรถคันไหนมีกล้องหน้ารถที่จับภาพทะเบียนรถคันก่อเหตุได้รบกวนหน่อยนะคะ ตอนนี้แม่ต้องนอนโรงพยาบาล เพราะแผลที่ขาลึกถึงกระดูกและเอ็นขาด และ อาจจะมีกระดูกซี่โครงหักค่ะ ตามตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบค่ะ ตอนนี้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ แล้วค่ะ พร้อมกับ ลงคลิปภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ จำนวน 2 คลิป ซึ่งในคลิปดังกล่าวจะเห็นกลุ่มของผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน กำลังเดินข้ามถนน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวในพื้นที่มีฝนตก ซึ่ง กลุ่มของผู้บาดเจ็บเดินข้ามมาถึงเลนกลางจึงหยุดให้รถจักรยานยนต์ผ่าน ก่อน ที่จะเดินต่อไปในเลนขวาสุดรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาก็พุ่งเข้าชนกลุ่มของผู้บาดเจ็บ แต่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่ได้ล้ม ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่ง หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ลงในโลกออนไลน์ก็มีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2566 หลังจากผู้สื่อข่าวได้ เห็น โพสต์ข้อความดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 4 ขามุ่งหน้าสำโรง ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณหน้า บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ ดัง ซึ่ง บริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นบริเวณจุดกลับรถ และ ยังพบที่คาดผมของผู้บาดเจ็บตกอยู่บนบาทวิถี โดยผู้สื่อข่าวไป พบ นางสาว วศินี แสงสาย อายุ 31 ปี ลูกสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ และ นาย ทวี แสงสาย อายุ 62 ปี สามีของผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มาเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อม กับพาทีมข่าวชี้ให้ดูจุดเกิดเหตุ ที่ถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนจนมารดาได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตอนนี้ผู้บาดเจ็บยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ หลังจากได้รับการผ่าตัดที่บริเวณขาที่เป็นแผลฉกรรณ์ เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
นางสาววศินี แสงสาย อายุ 31 ปี บุตรสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า พ่อกับแม่ขายน้ำพริกอยู่บริเวณหน้าบิ๊กซี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก เขาขายหมดประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ก็เข็นรถมาบริเวณจุดกลับรถเพื่อที่จะข้ามถนนกลับบ้านซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ช่วงนั้นมีฝนตกแต่ไม่ได้ตกหนัก และ ถนนเส้นนี้ค่อนข้างมืดเพราะเสาไฟไม่ค่อยติด พอแกเห็นว่าถนนโล่งและมีรถยูเทิร์น เขาก็เลยข้ามไป จะถึงเกาะกลางแล้ว ทีนี้มีรถจักรยายนต์ขี่มาจากไหนไม่รู้ ตนไม่รู้ว่าจงใจชน หรือ ว่าขับขี่ไม่ดูทาง หรือ ยังไงก็ไม่ทราบ คือขับมาชนแม่ของตนซึ่งเดินอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อ กับคนที่ข้ามถนนด้วยอีกคน จนกระเด็น พอเขาชนเสร็จแทนที่เขาจะหยุดช่วยเหลือคือเขาหันมามอง แล้วเขาก็ขี่รถไปเลย ไม่ได้ลงมาแสดงดน้ำใจอะไรเลย ตนได้มีการไปแจ้งความไว้ สภ.สำโรงเหนือ เมื่อคืน แล้วเมื่อเช้าก็เอาใบแจ้งความมาขอภาพกล้องวงจรปิดบริษัทตรงจุดเกิดเหตุ ทางบริษัทก็ให้ภาพจากกล้องวงจรปิดมาจำนวน 2 คลิป แต่ไม่เห็นเลขทะเบียน ตนก็เลยลองโทรไปขอดูกล้องของ อบจ. แต่พบว่ากล้องบริเวณดังกล่าวเสีย เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ตนไปขอดูกล้องบริษัท และกล้องวงจรปิดของชาวบ้าน ที่อยู่แถวที่เกิดเหตุเอง ถ้าเห็นว่าเป็นรถคันไหน เขาจะได้ไล่ดูกล้องให้ ถ้าไปแถวศรีนครินทร์ กล้องแถวนั้นจะค่อนข้างโอเคมันจะสามารถจับภาพทะเบียนได้
ล่าสุดอาการของคุณแม่ หมอบอกว่า ซีโครงหัก 3 ซี กระดูกข้อมือหัก แล้วก็มีแผลลึกถึงกระดูกที่ขาด้านขวา และมีเส้นเอ็นขาด ตอนนี้วางยาสลบเพื่อเย็บเส้นเอ็นให้ติดกัน ส่วนที่ซีโครงหักโชคดีที่ไม่ทิ่มปอด ก็ต้องผ่าตัด ส่วนตรงข้อมือที่หัก ก็ต้องเข้าเฝือกอ่อน ตอนนี้ก็ยังนอนโรงพยาบาลอยู่ ตนก็อยากฝากถึงคนที่ขับรถชนแม่ ว่าอยากให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม คือเมื่อคุณทำผิดก็ต้องมายอมรับผิด ไม่ใช่ทำผิดแล้วหนี ถึงคุณไม่มารับตอนนี้ ถึงกฎหมายจะตามคุณไม่ได้ ถ้ากรณีที่ไม่เห็นกล้องไม่เห็นเลขทะเบียน แต่คุณเชื่อไหมว่ากฎแห่งกรรมมันมี คือคุณอาจจะโดนชนแล้วหนีก็ได้ ถ้าเห็นคลิปนี้ก็อยากให้กลับมาช่วยเหลือ และอยากฝากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ว่าควรมีน้ำใจเรื่องของการใช้รถใช้ถนน จริง ๆ เราก็ใช้ถนนร่วมกัน อย่างบางครั้งรถจะยูเทิร์น เราอาจจะดูสักนิดนึง จะถึงยูเทิร์นแล้วอาจจะต้องชะลอ เพราะจุดกลับกรถตรงนี้ค่อนข้างใหญ่ และมีรถยูเทิร์นค่อนข้างเยอะ ก็อยากให้มีน้ำใจในการใช้ถนน