เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญรองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมแถลงผลปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 6 จุด ทลายขบวนการรักษามะเร็งทิพย์อวดอ้างพลังวิเศษ จับกุมผู้กระทำผิด 6 ราย ประกอบด้วย
1.อดีตพระนรสีห์ พระสงฆ์ในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.สุพรรณบุรี 2. น.ส.อรินดา (สงวนนามสกุล) 3. นายเดชชรินทร์ (สงวนนามสกุล) 4. น.ส.อารียา (สงวนนามสกุล) 5. นายรวีวัชร (สงวนนามสกุล) และ 6. นางวชิรอักษรา (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ, ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง, ร่วมกันหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” พร้อมตรวจยึดของกลาง 104 รายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.ต.อนันต์ เปิดเผยว่า ตำรวจปคบ.สืบทราบว่า อดีตพระนรสีห์กับพวก มีพฤติกรรมลักลอบใช้สถานที่ของวัด เปิดเป็นสถานที่รับรักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไป โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ มีใบวิชาชีพเวชกรรม มีการเรียกเก็บค่ายาในราคาสูง รวมถึงยาที่ขายให้กับผู้ป่วยนั้นก็ไม่มีฉลาก หรือได้รับการรับรองจากทางอย. รวมถึงมีการโพสต์ข้อความ คลิปวิดีโอรูปภาพ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สำนักพระกรรมฐานศากยาราม” ในลักษณะอวดอ้างว่า สามารถรักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน หรือ โรคร้ายแรงอื่นๆ หายขาดได้ภายใน 1-3 เดือน และ ข้อความในเชิงโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ “มหาโอสถหลวงพ่อนรสีห์” สรรพคุณรักษาโรคครอบจักรวาล
พล.ต.ต.อานันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขบวนการดังกล่าวยังโพสต์ข้อความเชิงวิชาการอธิบายที่ไปที่มาของการค้นพบ “วิชาการรักษาโรคมะเร็ง” ว่า ค้นพบจากการกรรมฐานรักษาสุนัขชื่อ “ปีใหม่” ที่ป่วยเป็นมะเร็งจนหายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามีพลังวิเศษในการรักษาโรค คล้ายกับการอาศัยความเชื่อ ความศรัทธา ทางศาสนา และนำความหวาดกลัวความทุกข์ของคนป่วยที่กำลังอยู่ในภาวะอ่อนไหวมาเป็นเครื่องมือหรือจุดอ่อนในการหลอกลวงเงิน ถือเป็นภัยอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีผู้ป่วยหลงเชื่อก็จะทำให้พวกเขาเหล่านี้เสียโอกาสในการรักษาโรคที่แท้จริง ตนจึงสั่งการให้ กก.4 บก.ปคบ. จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานเพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน อาทิ พระนรสีห์เป็นผู้รักษาโรค น.ส.อรินดา จ่ายยา รับเงินค่ารักษา ประสานงานติดต่อผู้ป่วย นายเดชชรินทร์และน.ส.อารียาเป็นผู้ช่วยพระนรสีห์ คอยคัดกรองผู้ป่วย และมีบางครั้งที่ทำหน้าที่รักษาแทนพระนรสีห์ อีกทั้ง น.ส.อารียา ยังเป็นผู้ที่พระนรสีห์ นำมาใช้กล่าวอ้างว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย แต่รักษาจนหายขาดภายใน 2 เดือน ปัจจุบันได้บรรลุโสดาบันแล้ว
ส่วน นายรวีวัชร ทำหน้าที่ในการบันทึกภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และ นางวชิรอักษรา ทำหน้าที่บรรจุยาสมุนไพรลงแคปซูล และเป็นผู้จัดส่งยาให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายพร้อมจองกลางแคปซูลสมุนไพรต่างๆจำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาทดังกล่าว
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้การภาคเสธ โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่ามีการเปิดรับรักษาโรคหรือขายยาให้กับประชาชนทั่วไปจริง แต่อ้างว่าที่ทำไปนั้นไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงเงินผู้คน แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่พระนรสีห์ ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, บุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถางครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต,บุกรุกแผ้วถางป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสุนัขตัวที่ชื่อ เจ้าปีใหม่ ที่ อดีตพระนรสีห์ อ้างว่า ป่วยเป็นมะเร็งแต่ได้รับการรักษาจากตนเองจนหายนั้น จากการสอบถามพยานต่างๆทราบว่าแท้จริงแล้ว สุนัขตัวดังกล่าวได้เสียชีวิตหลังจากพระนรสีห์ทำการรักษาได้เพียงแค่ 2-3 เดือน นอกจากนี้พระนรสีห์ ยังมักมีพฤติกรรมวินิจฉัยโรคให้กับผู้ที่มารักษาว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายทั้งที่ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็ง.