จ.นนทบุรี เจ้าของโรงพยาบาล ยืนยันใช้แพทย์จริงผ่าตัดทำหมันสุนัข หญิงที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รับเคสเท่านั้น
จากกรณีที่ นายทรงวุฒิ อายุ 36 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งไม่มีใบประกอบวิชาชีพแต่ทำการผ่าตัดทำหมันสุนัขจนเป็นเหตุให้สุนัขตายหลังผ่าตัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.66 ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง โดยปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลสัตว์
วันที่ 1 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อขอเข้าพบหญิงที่อ้างว่าเป็นแพทย์และทำการผ่าตัดสุนัขเสียชีวิต ซึ่งพนักงานที่โรงพยาบาลได้ติดต่อให้เข้าพบ น.ส เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ดังกล่าว ให้เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด
น.ส เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ กล่าวว่า น้องผู้เสียหายได้นำสุนัขเข้ามารับการผ่าตัดทำหมันที่คลินิกจริง ซึ่งจากการผ่าตัดมีเหตุสุดวิสัยทำให้สุนัขเสียชีวิตหลังการผ่าตัด ตนจึงได้เชิญน้องเจ้าของสุนัขเข้ามาชี้แจงพูดคุยกับหมอเจ้าของเคส โดยตนเข้าร่วมพูดคุยด้วย ซึ่งวันที่สุนัขเสียชีวิตจะมีน้องผู้หญิงอีกคนนึงเป็นคนชี้แจงรายละเอียดและสาเหตุไป หลังจากนั้น 1-2 วันตนได้นัดทางเจ้าของสุนัขเข้ามาพูดคุยพร้อมกับหมอเจ้าของเคสโดยตรง ตนยืนยันว่าคนที่ผ่าตัดเป็นหมออีกท่านหนึ่ง ซึ่งมีรายชื่อในใบประกาศที่ติดอยู่หน้าร้านอยู่แล้ว ถูกต้องตามระเบียบของกรมปศุสัตว์
สำหรับการเข้าใจผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการที่น้องผู้หญิงคู่กรณี ได้ให้ข้อมูลการเสียชีวิตไปกับทางเจ้าของสุนัข ซึ่งน้องผู้หญิงนั้นเป็นหุ้นส่วนที่เข้ามาดูแล และน้องเขาอยู่ระหว่างการรอสอบใบประกอบวิชาชีพ น้องเป็นคนที่มีความรู้เพราะเรียนจบมาทางสายแพทย์นี้โดยตรง และยืนยันว่าผู้ที่รักษาและผ่าตัดสุนัขเป็นหมอจริง
วันที่เชิญเจ้าของสุนัขมาคุยกันที่คลินิกตนและหมอเจ้าของเคส ได้แสดงความเสียใจ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดขึ้น ซึ่งตนได้สอบถามเจ้าของสุนัขไปแล้วว่าอยากให้รับผิดชอบอะไรบ้าง ซึ่งเจ้าของสุนัขเองก็ตอบมาว่าไม่ได้ต้องการเงิน ตนจึงไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ กระบวนการรักษาเป็นไปตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง ส่วนเรื่องทางการแพทย์ตนเองเป็นเจ้าของคลินิกไม่ได้เป็นหมอจึงตอบไม่ได้ ต้องถามหมออีกที
หลังจากนี้น่าจะต้องคุยกันในชั้นศาล เพราะว่าทางโรงพยาบาลเกิดความเสียหาย เพราะมันไม่มีการพูดคุยกัน ทางโรงพยาบาลก็พยายามพูดคุยกับเขา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกลับมา แล้วก็มีการไปโพสต์อย่างนี้มันเกิดความเสียหายกับทางโรงพยาบาลบางทีลูกค้าเข้ามาด่าทอหรือพูดให้เกิดความเสียหาย แล้วก็เกิดความเข้าใจผิดด้วย
เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้มีการฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี กับคนที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้แล้ว อยู่ระหว่างนัดไต่สวนคดี