ชาวบ้านปาเลสไตน์ในกาซาดิ้นรนหาอาหาร-ที่พักพิง ในสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะอิสราเอลยันปิดล้อมจนกว่าฮามาสปล่อยตัวประกัน พร้อมเตรียมบุกภาคพื้นดิน (ชมคลิป)


สภาพกลุ่มอาคารที่กลายเป็นกองปรักหักพังภายหลังถูกอิสราเอลถล่มโจมตีทางอากาศ ณ ค่ายผู้ลี้ภัย อัล ชาตี ในดินแดนกาซา เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.)
ชาวปาเลสไตน์ในดินแดนฉนวนกาซา เข้าแถวรอที่ด้านนอกของร้านขนมปังและร้านขายของชำในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) หลังจากใช้เวลายามค่ำคืนที่ผ่านมารอบๆ กองซากปรักหักพังของย่านที่อยู่อาศัยซึ่งถูกอิสราเอลถล่มทำลายจนแหลกลาญ ในท่ามกลางความมืดมิดแทบไม่มีไฟฟ้าใช้โดยสิ้นเชิง ขณะที่รัฐยิวยังคงเปิดฉากการโจมตีทางอากาศต่อไป รวมทั้งบอกด้วยว่ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการบุกภาคพื้นดิน

กลุ่มช่วยเหลือระหว่างประเทศกลุ่มต่างๆ พากันออกคำเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตในกาซาอาจพุ่งพรวดขึ้นไปอีก จากการที่อิสราเอลสั่งห้ามส่งห้ามจ่ายอาหาร, น้ำ, น้ำมันและก๊าซ, ตลอดจนกระแสไฟฟ้า เข้าไปยังดินแดนแคบๆ เล็กๆ แห่งนี้ ขณะที่เส้นทางข้ามไปยังอียิปต์ก็ถูกอิสราเอลถล่มจนใช้การไม่ได้เหมือนกัน หลังจากสงครามครั้งนี้ ซึ่งจุดชนวนด้วยการที่กลุ่มนักรบฮามาสบุกโจมตีอย่างขนานใหญ่และนองเลือดเข้าใส่ดินแดนอิสราเอล ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากทั้งสองฝ่ายอย่รางน้อยที่สุด 2,600 คนแล้ว

พันโทริชาร์ด เฮคต์ โฆษกของฝ่ายทหารอิสราเอลบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสฯว่า กองทัพ “กำลังเตรียมตัวเพื่อเคลื่อนกำลังทางภาคพื้นดิน” ถ้าหากได้รับคำสั่งจากทางผู้นำฝ่ายการเมือง เห็นกันว่าการโจมตีภาคพื้นดินเข้าใส่กาซา ซึ่งผู้พำนักราวๆ 2.3 ล้านคนอาศัยกันอยู่อย่างแออัดหนาแน่นบนที่ดินเรียวๆ แคบๆ ที่มีความยาวเพียงแค่ 40 กิโลเมตร น่าที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นมากในการสู้รบกันแบบช่วงชิงบ้านไปทีละหลังๆ อย่างเหี้ยมโหด

ขณะที่อิสราเอลกระหน่ำใส่กาซาจากทางอากาศ พวกนักรบฮามาสก็ยังคงตอบโต้ด้วยการยิงจรวดเข้าไปในดินแดนอิสราเอลอย่างที่ยิงไปแล้วเป็นพันๆ ลูกตั้งแต่การโจมตีช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของพวกเขา นอกจากนั้น นักรบในกาซายังจับผู้คนราวๆ 150 เอาไว้เป็นตัวประกันโดยนำเอามาจากอิสราเอลเมื่อตอนที่พวกเขาบุกเข้าไป

ชาวปาเลสไตน์ที่กำลังหลบหนีภัยการโจมตีทางอากาศ สามารถมองเห็นได้ขณะพวกเขาวิ่งผ่านไปตามถนนสายต่างๆ โดยหอบเอาข้าวของสมบัติของพวกเขาไปด้วย พร้อมๆ กับมองหาสถานที่ปลอดภัย ผู้คนหลายหมื่นคนเข้าไปอยู่อย่างแออัดตามโรงเรียนหลายแห่งที่บริหารโดยสหประชาชาติ แม้มีอย่างน้อยแห่งหนึ่งถูกถล่มไปแล้วและมีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเสียชีวิตหลายคน ขณะที่คนอื่นๆ ยังคงพักอาศัยกับญาติๆ หรือกระทั่งกับคนแปลกหน้าที่ยินยอมรับพวกเขา

มีผู้คนตั้งแถวรอคอยอยู่ด้านนอกร้านขนมปังและร้านชำระหว่างช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ร้านเหล่านี้กล้าเปิดทำการ ทั้งนี้ผู้คนพยายามเก็บสะสมอาหารเอาไว้ก่อนที่ร้านรวงต่างๆ จะเหลือแต่ความว่างเปล่าหรือปิดทำการ เมื่อวันพุธ (11) โรงไฟฟ้าแห่งเดียวของกาซาได้ปิดทำการเพราะหมดเชื้อเพลิง ทำให้หลงเหลือเพียงแสงไฟฟ้าซึ่งมาจากเครื่องปั่นไฟของภาคเอกชนจากจุดนั้นบ้างจุดนี้บ้างเท่านั้น

ประมาณการกันว่าชาวปาเลสไตน์กว่า 1,200 คนในกาซาเสียชีวิต ขณะที่อิสราเอลโจมตีดินแดนแห่งนี้อย่างหนักตลอด 6 วันที่ผ่านมา

สำหรับรัฐยิวนั้น แคน สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงของทางการอิสราเอล รายงานว่า นับจากวันเสาร์มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลเพิ่มเป็นกว่า 1,300 คน

อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความกังวลเกี่ยวกับวงจรความรุนแรงและความน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด และอิสราเอลยกเลิกการปิดล้อมกาซา ก่อนย้ำว่า พลเรือนต้องได้รับการปกป้องตลอดเวลา

ฟาบริซิโอ คาร์โบนี ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศประจำตะวันออกกลาง ขานรับว่า ความทุกข์ร้อนของพลเรือนจากเหตุรุนแรงครั้งนี้น่าชิงชังมาก และย้ำว่า โรงพยาบาลที่ไม่มีไฟฟ้าใช้จะกลายเป็นห้องเก็บศพ

หลายฝ่ายเรียกร้องให้เปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์หนีออกจากกาซาก่อนที่อิสราเอลจะบุกภาคพื้นดินและนำไปสู่การต่อสู้ดุเดือดภายในเมืองและการไล่ล่ากันในบ้านทุกหลัง

ทว่า อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีพลังงานอิสราเอล ประกาศว่า การปิดล้อมกาซาจะดำเนินต่อไปจนกว่าฮามาสยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมด

อิสราเอลระดมทหารกองหนุน 300,000 นาย รวมทั้งส่งกำลัง รถถัง และยานยนต์หนักไปยังทะเลทรายทางใต้รอบกาซา ซึ่งฮามาสใช้เป็นฐานเปิดฉากโจมตีอิสราเอลแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อวันเสาร์

นับจากนั้นทหารอิสราเอลไล่ล่าในเมืองทางใต้และปลิดชีพนักรบฮามาส 1,500 คน รวมทั้งค้นพบศพพลเรือนที่ถูกสังหารจำนวนมาก

สงครามที่ลามไปทางใต้ยังซับซ้อนขึ้นจากการคุกคามของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านที่อยู่ในเลบานอน และอิสราเอลส่งรถถังจำนวนมากไปประชิดชายแดนหลังจากปะทะกับฮิซบอลเลาะห์หลายครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดและปืนใหญ่โจมตีกันข้ามแดน

ขณะเดียวกัน อเมริกาส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีไปทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอล พร้อมเตือนศัตรูอื่นๆ ของอิสราเอลไม่ให้เข้าไปแทรกแซงในความขัดแย้งนี้

วันพฤหัสฯ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงอิสราเอลเพื่อย้ำการสนับสนุนอิสราเอลและหาทางป้องกันสงครามลุกลาม รวมทั้งกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกันซึ่งรวมถึงพลเมืองอเมริกัน นอกจากนั้นบลิงเคนยังมีกำหนดพบกับกษัตริย์อับดุลลอห์ที่ 2 ของจอร์แดน และประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ในวันศุกร์ (13)

ทั้งนี้ อิหร่านที่เป็นศัตรูกับอิสราเอลทั้งด้านการเงินและการทหารมายาวนาน ให้การสนับสนุนฮามาสและยกย่องการโจมตีเมื่อวันเสาร์ แต่ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

(ที่มา: เอพี, เอเอฟพี, รอยเตอร์)


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *