<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

     ณ หัวมุมของถนนเยาวราชตัดกับถนนมังกร จะพบกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ดีไซน์แบบอาร์ตเดคอร์ (Art Deco) ตั้งตระง่านโดดเด่น โดยบริเวณชั้น 1 เป็นที่ตั้งของ Chop Chop Cookshop ซึ่งอาคารแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นทั้งบ้านและร้านทองที่เจ้าของเดิมใช้จัดแสดงทองรูปพรรณต่างๆ และสืบทอดกิจการต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น จากนั้นเมื่อเชฟเดวิด ทอมป์สันและทีมงานเข้ามาสานต่ออาคารแห่งนี้ ก็ได้ตั้งชื่อใหม่ให้อาคารนี้ว่า ‘Goldsmith’

     เชฟเดวิด ทอมป์สัน เล่าถึงที่มาที่ไปของร้าน Chop Chop Cookshop ว่า “ผมรู้ว่าการทำร้านในทำเลนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการแข่งขันสูงมาก แต่เพราะตัวอาคารที่มีคาแรคเตอร์และบรรยากาศรอบข้างที่ทำให้ผมปล่อยผ่านไม่ได้จริงๆ ทำเลทองขนาดนี้ คอนเซ็ปต์ต้องดีจริงๆ เยาวราชเป็นย่านที่มีอะไรเต็มไปหมด ทั้งตึกรามบ้านช่อง ผู้คน การค้า รถราคับคั่ง และของอร่อยเต็มสองฝั่งถนน นึกอยากกินอะไร ที่นี่มีขายทุกอย่างทั้งกลางวันกลางคืน กว่าจะมาถึงร้านเราลูกค้าต้องเดินผ่านร้านดัง ร้านอร่อย สตรีทฟู้ด ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารจีนอีกเยอะแยะ ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าไม่เปลี่ยนใจไปเข้าร้านอื่น ผมจึงต้องทำคอนเซ็ปต์ให้น่าสนใจ แตกต่าง ไม่ธรรมดา ซึ่งตอนแรกก็เกาหัวอยู่เหมือนกัน จะเอายังไงดีนะ แต่สุดท้ายผมก็เลือกทำในสิ่งที่ผมถนัด นั่นคือการเจาะเวลาหาอดีต”

     โดย Chop Chop Cookshop แห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านกุ๊กช็อป หนึ่งในประเภทของร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของกรุงเทพ ที่ถือกำเนิดขึ้น ณ ชุมชนชาวจีนในสมัยก่อน โดยคนจีนไหหลำจะรับหน้าที่เป็นพ่อครัวแม่ครัว เสิร์ฟอาหารให้ผู้คนในบริเวณนั้น ทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อาหารไทย ซึ่งกุ๊กช็อป (Cookshop) เป็นร้านอาหารที่เปิดบริการแบบเต็มรูปแบบร้านแรกในกรุงเทพฯ เป็นสไตล์อาหารที่มีต้นกำเนิดมายาวนาน โดยมีจุดเด่นคือการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตก อาหารจีน และอาหารไทย และเมื่อคอนเซปต์กุ๊กช็อปถือกำเนิดขึ้น มันก็เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งกรุงเทพฯ จนในที่สุดก็มีร้านชนิดนี้เปิดกันให้เห็นทั่วทุกที่ คนไทยเองก็ชอบร้านกุ๊กช็อปไม่น้อยไปกว่าร้านอาหารประเภทอื่นเลย

     ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของร้านกุ๊กช็อปคือช่วงปี ค.ศ. 1930 – 1970 ทุกครัวเรือนต้องเคยไปร้านกุ๊กช็อปและมีความทรงจำดีดีกับร้านกุ๊กช็อปกันทุกคน แทบจะเรียกได้ว่ากุ๊กช็อปคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินของคนกรุงเทพฯ 

      อาหารในร้านกุ๊กช็อปจะมีความหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นอาหารตะวันตกที่ทำในสไตล์จีน บางทีก็ทำสไตล์ไทยด้วยตามความต้องการของลูกค้าที่อาจจะได้เห็นอาหารเรียกน้ำย่อยมาเป็นซีฟู้ดค็อกเทลหรือซุปข้าวโพด ตามด้วยลิ้นวัว มักกะโรนีผัดกุ้งกับมะเขือเทศ หรือพอร์คชอปชุบเกล็ดขนมปังทอดเสิร์ฟพร้อมน้ำเกรวี่ กินคู่กับมันฝรั่งต้มบ้าง หมี่กรอบบ้าง สตูว์ถั่วบ้าง และจะกินกันอย่างตะวันตก นั่นคืออาหารจะถูกเสิร์ฟออกมาเป็นจานๆ จานใครจานมัน ไม่ได้เป็นสำรับสำหรับแชร์กันเหมือนอย่างไทย รับประทานกันเป็นคอร์สด้วยส้อมและมีด  ที่สำคัญคือข้าวไม่ใช้คาร์โบไฮเดตหลัก แต่จะเปลี่ยนมาเป็นขนมปังและเนยแทน อาหารแนวกุ๊กช็อปจึงอาจเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นอาหารต่างชาติที่ทำในสไตล์ไทยหรือเอเชีย

     ส่วนทำเลที่ตั้งของอาคารเก่าแก่แห่งนี้อยู่บริเวณที่ถนนเยาวราชมาตัดกับถนนมังกร ซึ่งตามความเชื่อของชาวจีน ถนนเยาวราชเป็นถนนที่มีลักษณะโค้งไป โค้งมา ฉวัดเฉวียนเหมือนกับตัวมังกร ที่หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และวาสนาดี ส่วนถนนมังกรนั้นถูกตั้งชื่อตามวัดมังกรกมลาวาส ทำให้จุดนี้เป็นมังกรซ้อนมังกร ซึ่ง Chop Chop Cookshop ก็นำเอามังกรมาเป็นแรงบันดาลใจให้โลโก้ของทางร้านมีมังกรเข้ามาประกอบด้วย

     ด้านดีไซน์ Chop Chop Cookshop ได้หยิบเอาดีไซน์จากร้านขายทองบนถนนเยาวราชในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มาเป็นแรงบันดาลใจ ควบคู่ไปกับกลิ่นอายอายของร้านอาหารสไตล์อเมริกันและร้านเบอร์เกอร์ สีสันนีออนที่อยู่รอบๆ ร้าน ยังช่วยดึงความสนใจให้คนที่ผ่านไปมาเกิดความสงสัย อยากเข้ามาดูว่า ทำไมตึกสไตล์อลังการศิลป์ (Art Deco) ถึงมาเจอกับร้านที่ดูป็อปอาร์ตอย่างนี้ได้ แต่อีกนัยหนึ่ง ดีไซน์ของร้านก็ยังแสดงถึงความเป็นเยาวราช ที่ผสมผสานอาหารหลายเชื้อชาติไว้อย่างลงตัว

      “คอนเซ็ปต์นี้แหละที่เหมาะมาก มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่มีรากเหง้าแข็งแกร่ง เพียงแต่ต้องแต่งเติมอีกเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มความสดใสซาบซ่าเข้าไปเพื่อให้เหมาะกับการตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้” เชฟเดวิด ทอมป์สัน กล่าว

     สำหรับส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่นำมารังสรรค์เป็นอาหารคาว-หวานจานเด็ด ส่วนใหญ่แล้วจะทำออกมาในสไตล์โฮมเมด ทั้งซอส น้ำจิ้ม ของทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น (Local Ingredients) เพื่อให้ได้รสชาติ กลิ่นอายของอาหารจีนตามแบบต้นตำรับ เลือกใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า พร้อมกับเป็นการสนับสนุนชุมชนละแวกย่านเยาวราชไปในคราวเดียวกัน เริ่มต้นด้วยอาหารกินเล่นอย่าง กุ้งกระเบื้อง (140 บาท) ซึ่งอัดไส้ที่ทำจากเนื้อปลาอินทรี หมูสับ และเนื้อกุ้ง เพิ่มรสชาติด้วยพลัมซอสรสเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ

      Spring Rolls (280 บาท) เมนูปอเปี๊ยะทอดสูตรมังสวิรัติที่สอดไส้ด้วยวุ้นเส้น ผักปวยเล้ง ให้เนื้อสัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสจิ๊กโฉ่วสูตรโฮมเมด

     สำหรับจานซิกเนเจอร์ของ Chop Chop แห่งนี้คือ เป็ดย่างและหมูย่างบาร์บีคิว อย่าง เป็ดเชอร์รี่มาหมักด้วยซอสสูตรเฉพาะจนเข้าเนื้อ เป็ดย่างที่ได้นอกจากจะเนื้อนุ่มแล้วยังรสชาติดีโดยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม เสิร์ฟมาพร้อมผักลวกและขิงดอง ขณะที่หมูย่างบาร์บีคิวเชฟเลือกใช้เฉพาะส่วนสันคอที่มีไขมันแทรก นำไปรมควันจนได้ที่ เสิร์ฟคู่กับซอสพลัม

 

     อีกเมนูไฮไลต์ก็คือ Roast Duck Soup (390 บาท) เมนูบะหมี่เป็ดที่มีความซับซ้อนของรสชาติ โดดเด่นด้วยน้ำซุปที่นำโครงกระดูกเป็ดมาเคี่ยวแบบข้ามคืน กลมกล่อมด้วยน้ำต้มกระดูกเป็ดนำไปอบแห้งและตุ๋นจนได้รสชาติที่ลงตัว อย่าง การอบด้วยวิธีสะดุ้งน้ำมัน เป็นระยะเวลา 2 วัน ทาเคลือบตามด้วยซอสเป็ดประมาณ 4-5 รอบ ก่อนจะนำไปอบแห้ง ให้ความเป็นเข้มข้นซึมเข้าไปในเนื้อ และได้เนื้อสัมผัสนุ่มฉ่ำพอดี

     Fried Rice with Chinese Sausage (320 บาท) เมนูข้าวผัดกุนเชียง ใส่กุ้งแห้ง ได้กลิ่นหอมรมควัน ในรูปแบบข้าวผัดกุนเชียงสไตล์จีน นอกจากนี้ยังเมนูของหวานอย่าง สาคูเปียกลำไย (210 บาท) รวมมิตร (210 บาท) เต้าฮวยน้ำขิง (210 บาท)พอจะบอกได้ว่า Chop Chop Cookshop ยึดมั่นในวิถีของร้านกุ๊กช็อปแบบไทยและร้านชาชังเตง แต่ไม่ยึดติดว่าต้องทำตามวิถีดั้งเดิมเท่านั้น ซึ่งมันคือความกล้าท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ จนออกมาเป็นเมนูย้อนยุคที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ ตะเกียบจะมาเจอกับมีดและส้อม ขนมปังเสิร์ฟมาพร้อมข้าว เสียงหัวเราะที่ผสมผสานกับเสียงและกลิ่นหอมจากกระทะวอค ภายใต้แสงไฟนีออน ล้อมรอบด้วยบรรยากาศของเยาวราชกับรสชาติอันจัดจ้าน Chop Chop Cookshop ณ หัวมุมถนนมังกรและถนนเยาวราช

Chop Chop Cookshop

ชั้น 1 อาคาร Goldsmith (หัวมุมถนนเยาวราชตัดถนนมังกร) เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 12:00-21:00 น.
โทร. 097 008 0519

เว็บไซต์: goldsmithbkk.com

ภาพ: Courtesy of Restaurant

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

#fb-post {

width: auto;

height: auto;

overflow: hidden;

}

#fb-post iframe {

display: inline;

margin: 5px 5px;

float: center-left;

width: auto;

border-radius: 2px;

}