วันศุกร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566, 12.38 น.
ตำรวจเมืองคอนหิ้วมือปืนไล่ยิงรถเทรลเลอร์สาวใหญ่โชว์เฟอร์ดับคารถทำแผนรับสารภาพ
จากกรณีเหตุการณ์คดีกลุ่มคนร้ายขับรถยนต์กระบะไล่ยิงรถเทรลเลอร์รถบรรทุก ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นรถเทรลเลอร์บรรทุกนมสดของบริษัทซีพีเมจิจำกัดจาก จ.สระบุรี ไปส่งนมสดในประเทศมาเลเซีย เหตุเกิดบนถนนสายเอเซีย 41 ขาล่องใต้ท้องที่หมู่ 7 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 03.20 น.วันที่ 4 ก.ค.66 ทำใหนางลลิญญา โกสัย อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นโชเฟอร์กำลังขับรถเทรลเลอร์คันดังกล่าวขับแทนนายสุสวัสดิ์ พหลยุทธ์ อายุ 41 ปี สามีที่สลับเปลี่ยนนอนพักผ่อนในรถเทรลเลอร์คันเดียวกันโดยกระสุนปืนของกลุ่มคนร้ายได้เจาะกระจกและประตูด้านข้างคนขับด้านขวาเจาะร่างนางลลิญญา พรุนเสียชีวิตคารถ ส่วนนายสุสวัสดิ์ สามีปลอดภัย
โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งในธุรกิจส่งนมสดไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางหลังจากเกิดเหตุทางตำรวจสืบสวนภาค 8, ตำรวจสืบสวนนครศรีธรรมราชและตำรวจ สภ.นาบอน ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายมาได้ 2 คนคือนายยุทธศักดิ์ เกิดศรี อายุ 37 ปีทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะคันก่อเหตุให้กับมือปืนในคืนวันเกิดเหตุและนายอวยชัย แสงจันทร์แก้ว อายุ 40 ปี คนขับรถเทรลเลอร์บรรทุกนมส่งมาเลย์บริษัทเดียวกันทำหน้าที่คนชี้เป้าให้กลุ่มมือปืน ส่วนมือปืนอีกคนที่ลงมือก่อเหตุได้หลบหนีไปได้นั้น
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 8 ก.ย.66 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สืบทราบว่านายธนาวุฒิ หรือป้อม เจริญรูป อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นมือปืนคนที่ลงมือลั่นไกไล่ยิงรถเทรลเลอร์ได้หลบซ่อนตัวที่บ้านเลขในพื้นที่หมู่ 4 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.ชัยภัทร ศรีเรือง ผกก.สภ.นาบอน นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ 247/2566 ลงวันที่ 13 ก.ค.2566 เดินทางไปล้อมจับกุมนายธนาวุฒิ หรือป้อม แล้วคุมตัวมาทำการสอบสวนปากคำที่ สภ.นาบอน ซึ่งนายธนาวุฒิ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาก่อนตำรวจคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควรตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สมชาย เผยว่า สำหรับคดีนี้ถือว่าเป็นการปิดคดีทางตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุและร่วมขบวนการทั้งหมด 14 คนจนครบหมดทุกคน ซึ่งตำรวจมั่นใจในพยานและหลักฐานสามารถมัดตัวดำเนินคดีผู้ต้องหาทุกคนได้หมดทุกคนแน่นอน – 003

<!–
window._taboola = window._taboola || [];
_taboola.push({
mode: ‘thumbnails-a’,
container: ‘taboola-below-article-text-links’,
placement: ‘Below Article Text Links’,
target_type: ‘mix’
});
–>