ถอดรหัส ก้าวไกล x เป็นธรรม เกมฝากเลี้ยง หมออ๋อง รักษาผู้นำฝ่ายค้าน


บรรดาแฟนคลับ – ด้อมส้มก้าวไกล อาจเกิดอาการว้าวุ่น เมื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศลาออกผ่านโซเชียลมีเดีย เปิดทางให้มีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หลังตัวเองกำลังอยู่ในจุดล่อแหลม – สุ่มเสี่ยง ต่อการถูกถอดออกจากความเป็น สส. จากกรณีถือหุ้นไอทีวี

ขณะนี้ “พิธา” ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

“การเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวคือสำนึกของนักการเมือง ซึ่งในบริบทการเมืองปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในเชิงทั้งมหภาค และจุลภาค ซึ่งมหภาคฝ่ายค้านต้องเป็นเรือหลักในการกำหนดทิศทางการอภิปรายสำคัญ ทั้งเรื่องงบประมาณ อภิปรายแนะรัฐบาล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนเรื่องจุลภาค คือการแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน”

ไม่ต้องห่วงผม ขอให้ห่วงประชาชนห่วงบ้านเมืองจะดีกว่า สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ผมยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ยึดติดกับหัวโขนหรือตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันผมสามารถทำงานได้ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย

ผมยังเป็น สส.ที่ไม่สามารถเข้าสภาได้ เนื่องจากถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังยืนยันว่าจิตใจยังเต็มร้อย และยังเดินหน้าทำงานในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

“ในช่วงนี้อาจจะเจอผมมากกว่าเดิม และจะเดินหน้าเขย่าการเมืองไทย เขย่าปัญหาของประชาชน ผ่านตะแกรงร่อนเพื่อส่งต่อให้กับ สส.พรรคก้าวไกล และฝ่ายค้าน ที่ยังอยู่ในสภาฯ รวมถึงเตรียมเดินทางไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ” พิธา กล่าวถึงเหตุผลที่ลาออกจากหัวหน้าพรรค – เปิดทางให้มีผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่

Advertisement
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }

และอีกเหตุผลคือ ต้องรีบชิงออกจากหัวหน้าพรรค ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในปลายเดือนกันยายน

แต่แค่ “พิธา” ลาออกเพื่อเปิดทางให้มี “หัวหน้าพรรคคนใหม่” มาทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ยังไม่พอ

เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำกับไว้ชัดว่า ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระมหากษัตริย์ จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจํานวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

แปลความจากเนื้อกฎหมาย เงื่อนไขของ “ผู้นำฝ่ายค้าน” คือ จะต้องเป็น หัวหน้าพรรค ของพรรคที่มี สส.มากที่สุด โดยที่พรรคการเมืองนั้นจะต้องไม่มีคนเป็น “รัฐมนตรี” ไม่ต้องมีคนเป็น ประธานสภา หรือ รองประธานสภา

Advertisement
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle2 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle2 { min-width: 300px;
min-height: 250px; } }

แต่สำหรับกรณีของพรรคก้าวไกล ปรากฏว่า หมออ๋อง “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” มีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 พรรคก้าวไกลจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำหนด

จึงปรากฏข่าวว่า พรรคก้าวไกลใช้แทคติกพิเศษ ขับ “ปดิพัทธ์” ออกจากพรรคก้าวไกล ทำให้ “ปดิพัทธ์” ต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน มิเช่นนั้นจะพ้นสภาพความเป็น สส.

และพรรคที่ “ปดิพัทธ์” จะไปสังกัดใหม่คือ “พรรคเป็นธรรม”

แทคติกนี้จะทำให้ฝ่ายค้าน ยังมี “ปดิพัทธ์” ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภา ส่วนพรรคก้าวไกล ก็มีหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะมาเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภา เกมนี้ในภาพรวม พรรคก้าวไกล มีแต่ได้ ไม่มีเสีย

กับคำถามที่ว่า ทำไมต้อง ใช้ “พรรคเป็นธรรม” ในแทคติกนี้

ถ้าย้อนสาแหรกพรรคเป็นธรรม จะพบชื่อ “ปิติพงษ์ เต็มเจริญ” อดีตเคยอยู่พรรคไทยรักไทย และเคยอยู่พรรคเสรีรวมไทย ก่อนจะมาเซ้งพรรคกลาง แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคเป็นธรรม

บุคคลที่เขาเคารพ และวางยุทธศาสตร์ให้ คือ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” หรือ เสธ.แมว อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ว่า “พล.ท.ภราดร” ไม่ได้มีชื่ออยู่ในพรรคเป็นธรรม แต่มักปรากฏตัวในวอร์รูมกิจการพิเศษของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่พรรคเพื่อไทย

ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง “ปิติพงศ์” กับ “พล.ท.ภราดร” แนบแน่น เพราะบุคคลที่ “ปิติพงศ์” เคารพนับถืออีกคนก็คือ “ปรีดา พัฒนถาบุตร” อาของ พล.ท.ภราดร ที่ถูกยกให้เป็นครูการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร เพราะมีส่วนชักนำให้ “ทักษิณ” เข้าสู่การเมือง

ขณะเดียวกัน พล.ท.ภราดร ก็มีความสัมพันธ์อันดับกับ “พล.ท.พงศกร รอดชมภู” แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันก็อยู่ในคณะก้าวหน้า ซึ่งก่อนลงเล่นการเมือง พล.ท.พงศกร มีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคง ยุคที่มี พล.ท.ภราดร เป็นเลขาธิการ

อีกตัวละครสำคัญคือ “กัณวีร์ สืบแสง” เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่มีบทบาท เป็นตัวชูโรงของพรรคเป็นธรรมในขณะนี้ โปรไฟล์ที่ถูกเปิดเผย ส่วนใหญ่ ระบุว่า เขาเคยเป็นอดีตประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ

และเคยนั่งเก้าอี้หัวหน้าสำนักงานภาคสนาม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) 8 ประเทศ อาทิ ประเทศไทย (แม่ฮ่องสอน) เมียนมา บังคลาเทศ ซูดาน ซูดานใต้ ฟิลิปปินส์

แต่ทั้ง “กัณวีร์-ภราดร-พงศกร” รู้จักกันดีอยู่แล้วที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ เพราะ “กัณวีร์” เคยมีตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเตรียมพร้อม สำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ (จังหวัดชายแดนภาคใต้ การบริหารวิกฤตการณ์ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน) จึงถูกชักชวนมาทำงานการเมืองในตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นธรรม

พรรคก้าวไกล – พรรคเป็นธรรม จึงถือว่า “ศีลเสมอกัน” ในด้านการเมือง

อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ พรรคเป็นธรรม อยู่ในสมการของพรรคก้าวไกล ที่ใช้แก้แทคติก – ทางตัน เก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน รับโอน ฝากเลี้ยง “หมออ๋อง – ปดิพัทธ์” ไปอยู่ เป็นธรรม


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *