.fb-comments,.fb-comments span,.fb-comments span iframe[style]{min-width:100%!important;width:100%!important}
ถูกจับวันเกิดตำรวจสันป่าตองจับชาวบ้านฆ่าทุบหัวสุนัขเพื่อนบ้าน หลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันป่าตอง ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังเจ้าของสุนัขร้องเรียนว่าสุนัขที่ฝากน้องสาวเลี้ยงไว้ถูกเพื่อนบ้านฆ่าโหดก่อนนำไปกิน จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องข้อพิพาทของเพื่อนบ้านที่ถูกสุนัขตัวดังกล่าวไปกัดไก่ตายยกเล้าคนดูแลไม่มีเงินชดใช้ให้จึงยกสุนัขตัวดังกล่าวให้ญาตินำไปฆ่าทิ้ง เจ้าตัวให้การปฏิเสธไม่ได้ฆ่านำไปกิน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนที่จะแจ้งข้อหาต่อไป
ตัวแทนเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อกฯ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สิทธิโชค บัวแดง พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สันป่าตอง ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านต้นแก้ว ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง หลังเจ้าหน้าที่วอชด็อก ได้รับการร้องเรียนจากนายปัน นามสมมุติ ชาวบ้าน อ.สันป่าตอง ว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ชื่อมีตังค์ อายุ 1 ขวบ ที่ฝากน้องสาวชื่อนางสาวอุ้ม นามสมมุติ เลี้ยงไว้ถูกเพื่อนบ้านชื่อนายเป็ด นามสมมุติ ฆ่าตายและสงสัยว่าจะมีการนำไปกิน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้ามีตังค์ได้ไปกัดไก่ของนางบัว นามสมมุติ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน ตายหลายตัว ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่สอบถามนางสาวอุ้ม และนางบัวฯทั้งสองต่างโยนความผิดให้แต่ล่ะฝ่ายโดยยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการฆ่าเจ้ามีตังค์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายเป็ดฯให้การรับสารภาพว่าได้เป็นคนลงมือฆ่าสุนัขตัวดังกล่าวพร้อมพูดออกมาว่า วันนี้เป็นวันที่โชคไม่ดีเลยมาถูกจับในวันเกิดของตนเอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อกฯ ได้ไปสอบถามนางสาวอุ้มฯ ทราบว่าสุนัขตัวดังกล่าวเป็นของพี่ชายที่ไปทำงานแล้วฝากเลี้ยงไว้ ยอมรับว่าเจ้ามีตังค์ มีนิสัยซุกซน ได้ไปกัดไก่ของนางบัวหลายตัว จึงถูกเจ้าของไก่เรียกร้องเงินค่าเสียหายซึ่งตนไม่มีเงินและถูกกดดันอย่างหนักไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรจึงยอมยกเจ้ามีตังค์ให้คู่กรณีไปจัดการก่อนที่จะพาเจ้ามีตังออกจากบ้านด้วยน้ำตา โดยวันนั้นตนได้ใช้เชือกผูกเจ้ามีตังให้นายเป็ดฯ ซึ่งเป็นญาติของนางบัวฯ มารับเจ้ามีตังค์ที่บ้านเพื่อนำไปจัดการไม่ทราบว่าด้วยวิธีใดแต่คิดว่าคงถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน
ด้านนางบัว นามสมมุติ ให้การว่าก่อนหน้านี้รุ่นนี้ไก่ที่เลี้ยงไว้ในบ้านประมาณ 8 ตัว เป็นไก่ขนาดใหญ่และปล่อยให้หากินเองในสวนลำไย ถูกเจ้ามีตังค์บุกมาที่บ้านไล่กัดไก่ที่เลี้ยงไว้ จนขณะนี้ไก่รุ่นดังกล่าวเหลือเพียง 2 ตัว ต้องขังไว้ในสุ่มไก่ตลอด ช่วงที่ไก่ถูกสุนัขตัวดังกล่าวกัดตนได้พยายามพูดคุยกับนางสาวอุ้มฯ เพื่อให้หาวิธีป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว แต่คู่กรณีกลับนิ่งเฉยจนเกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงได้ไปว่าให้นางสาวอุ้มให้มารับผิดชอบโดยขอเงินค่าเสียหาย 500 บาท แต่นางสาวอุ้มไม่มีเงินจ่าย จนมีการตกลงว่าให้มีการนำเจ้ามีตังค์ไปจัดการ ซึ่งตนได้แจ้งให้นายเป็ดที่เป็นญาติกันจัดการให้และไม่ทราบว่านายเป็ดทำอย่างไร จนมาเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งตนยืนยันว่านางสาวอุ้มฯได้จูงสุนัขออกมาจากบ้านให้ด้วยตนเองซึ่งตนเป็นผู้เสียหายไก่ก็ตายหนำซ้ำกลับต้องได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวอีก
ขณะที่นายเป็ด นามสมมุติเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหลายรายได้บ่นให้ตนได้ฟังว่าเจ้ามีตังค์ มีนิสัยซุกซนชอบไล่กัดสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านตายหลายตัว นอกจากนี้ยังชอบกัดทำลายข้าวของอีกด้วย ซึ่งวันเกิดเหตุนางสาวอุ้มฯได้จูงสุนัขมาหานางบัวฯและตนซึ่งได้ขอให้ตนนำสุนัขตัวนี้ไปจัดการ โดยระบุว่าอยากจะเอาไปทำอำไรก็ทำ ทั้งหมดจึงช่วยกันนำเจ้ามีตังค์ใส่กระสอบก่อนที่ตนจะอุ้มกระสอบไปที่ข้างทางริมลำห้วย ท้ายหมู่บ้านแล้วใช้ท่อนไม่ทุบสุนัขตัวดังกล่าว 2 ที ก่อนจะโยนลงลำห้วยแม่กุ้งซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งตนยอมรับว่าได้ลงมือฆ่าสุนัขตัวดังกล่าวจริงแต่ไม่ได้นำสุนัขตัวดังกล่าวไปกิน
ด้านนางสบันงา นนธะระ หน.ฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อกฯ กล่าวว่าพฤติกรรมดังกล่าวถื่อว่าเป็นการทารุณสัตว์อย่างชัดเจน ซึ่งจาการรับฟังการบอกเล่าของนายเป็ดฯที่ลงมือฆ่าเจ้ามีตังค์ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก เพราะว่าการนำสุนัขไปใส่กระสอบก่อนจะใช้ไม้ทุบ 2 ครั้ง แล้วโยนลงน้ำเชื่อว่าขณะนั้นสุนัขอาจจะยังไม่ตายทันทีอาจใช้เวลาพอสมควร ซึ่งจากกรณีดังกล่าวตนยืนยันที่จะแจ้งความเอาผิดทั้งนายสาวอุ้มฯคนดูแลเจ้ามีตังค์ ซึ่งจูงสุนัขมาให้คนอื่นเพื่อฆ่า และนางบัวที่สั่งให้นายเป็นลงมือฆ่าสุนัข และนายเป็ดฯคนที่ลงมือฆ่าเจ้ามีตังค์ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คงต้องรอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำทั้ง 3 รายก่อนเจ้าหน้าที่จึงจะแจ้งข้อหาทั้ง 3 คนอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่มีการฆ่าสุนัขไปกินนั้นขณะนี้การให้การของนายเป็ดยืนยันว่าไม่ได้มีการนำสุนัขไปกิน แต่ยังมีข้อสงสัยว่านายเป็ดจะรับอาสานำสุนัขไปฆ่าเพื่ออะไรหากไม่ได้รับผลตอบแทน กรณีดังกล่าวเข้าค่าย พรบ.ทารุณกรรมสัตว์มีโทษจำคุกไม่กิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวยังมีความนิยมบริโภคเนื้อสุนัขอยู่หลังจากที่ เมื่อเดือนมกราคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้หลังจากสืบทราบว่าเจ้าของบ้านมีพฤติกรรมแล่เนื้อสุนัขจำหน่ายหลังได้รับการประสานจากมูลนิธิวอชด็อก จากการตรวจสอบพบสนัขถูกขัง 1 ตัว และอุปกรณ์การแล่เนื้อสุนัข ซึ่งครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเจ้าของบ้านพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตองดำเนินคดี