เรตติ้ง “พรหมลิขิต” ตอนแรกทุบทุกสถิติ 6.40
ละคร “พรหมลิขิต” ภาคต่อของ “บุพเพสันนิวาส” กับการกลับมาของ พระนางคู่ขวัญ ‘โป๊บ ธนวรรธน์’ และ ‘เบลล่า ราณี’ ที่ออกอากาศตอนแรกเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และยังได้สร้างกระแส “พรหมลิขิตฟีเวอร์” สามารถส่ง แฮชแท็ก #พรหมลิขิตep1 ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ (X) มียอดคนดูในโลกออนไลน์ พุ่งสูงถึง 4.2 แสนคน และยังทำเรตติ้งที่ทุบทุกสถิติด้วยเรตติ้ง 6.40
มีแฟนละครชื่นชมกันมากมาย บอกว่า ดีต่อใจกับการรอคอยที่ยาวนาน ได้เห็นตัวละครที่คิดถึง แถมละครก็เก็บรายละเอียดดีมาก มีการให้เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ ยังมีความฟิน ความจิ้นระหว่าง ‘พี่หมื่น’ กับ ‘การะเกด’ ให้จิกหมอนกันตั้งแต่ตอนแรก รวมถึงยังได้เห็นสิ่งประดิษฐ์สิ่งใหม่ที่ “การะเกด” คิดค้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างตอนแรกก็คือลู่วิ่งฟิตหุ่นหลังคลอด
ส่วน EP2 เมื่อคืนนี้ ก็ยังคงทะยานติดเทรนด์อันดับ 1 และมียอดคนดูออนไลน์ทะลุ 5 แสน เปิดเรื่องมาด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ กับเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยอยุธยา โดยเฉพาะเรื่องราวของ “เจ้าพระยาโกษาธิบดี (โกษาปาน)” นักการทูตแห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ถูก “พระเพทราช” ใช้ดาบตัดปลายจมูก เพราะถูกกล่าวหาว่าจงรักภักดีต่อฝรั่งเศส ก่อนจะเสียชีวิตลงในอีก 10 ปีต่อมา หลังจากผลัดเปลี่ยนแผ่นดินในสมัยที่ “สมเด็จพระเพทราชา” ขึ้นครองราชย์ต่อจาก “สมเด็จพระนารายณ์”
มีการเล่าเรื่องราวชีวิตต้องสู้ของ “แม่มะลิ” หรือ”ตองกีมาร์” ที่เจอวิบากรรมในชีวิตอย่างหนัก ถูกยึดทรัพย์หลังสามีตาย (ฟอลคอน) และยังถูก “กรมพระราชวังบวร” (เดื่อ) ลูกชายของ “พระเพทราชา” พยายามอยากได้เป็นเมีย แต่เธอไม่ยินยอม ก็เลยถูกสั่งคุมขังในคอกม้า และเธอยังต้องสู้ชีวิตเพื่อลูกชายด้วย
และยังมีฉากที่ ‘คุณพี่’ ถาม ‘การะเกด’ ว่า “สุดท้ายของอยุธยาเป็นเช่นไร จักอยู่จนถึง 300 กว่าปีหรือไม่” ซึ่ง ‘การะเกด’ ก็เลือกที่จะบอกกับทุกคนว่า “ในยุคที่ข้าอยู่ ศูนย์กลางของดินแดนไม่ใช่อยุธยา แต่อยุธยาก็ยังอยู่ ยังเป็นดินแดนอยู่ตรงนี้ ปราสาทราชวังก็ยังอยู่ครบ วัดทุกวัดยังอยู่ วัดไชยวัฒนาราม มีคนไปเที่ยวมากมาย คลองแกลบก็ยังอยู่”
ส่วนฉากที่ชวนให้แฟนละครหิวและพูดถึงเป็นอย่างมาก ก็คือฉาก “(ปาร์)ตี้หมูกระทะ” ของ ‘การะเกด’ และทุกคนบนเรือน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ ‘การะเกด’ ไปสั่งทำไว้ตั้งแต่ภาคแรก โดยฉากนี้ ‘การะเกด’ กำลังท้องลูกคนที่ 4 ซึ่งในระหว่างที่ทุกคนกำลังเอ็นจอยกับการกินหมูกระทะ อยู่ๆ ‘การะเกด’ ก็เจ็บท้องจะคลอด แต่ไม่มีใครตื่นเต้น เพราะทุกคนกำลังสนใจหมูกระทะตรงหน้ามากกว่า ซึ่งปรากฏว่ากลายเป็นไวรัลขึ้นมา หลังมีชาวเน็ต เอาภาพฉากที่ ‘การะเกด’ เจ็บท้องจะคลอดตอนกินหมูกระทะ ไปเปรียบเทียบกับภาพสาวท้องแก่ น้ำคร่ำแตกกลางร้านหมูกระทะ ที่เพิ่งเป็นข่าวไปเมื่อวันก่อน
และอีกมีมนึงที่ชาวเน็ตช่างหาทำ ก็คือการเปรียบเทียบ “ฟอลคอน” กับ “มะลิ” ในสมัยอยุธยา และ รัตนโกสินทร์ โดยรูปบน คือ รูปของ ‘ฟอลคอน’ ที่รับบทโดย ‘หลุยส์ สก็อต’ ที่เราได้เห็นในภาคแรก กับ “แม่มะลิ” หรือ “ตองกีมาร์” ที่คู่กันในสมัยอยุธยา ส่วนภาพล่างเป็นภาพ นมตรา “นกเหยี่ยว Falcon” กับ นมตรา “มะลิ” ในสมัยรัตนโกสินทร์ ชาวเน็ตก็เลยแซวกันว่า อ่อ มีที่มาแบบนี้เอง
ส่วนครึ่งเรื่องหลัง เป็นการเปิดตัว “พุดตาน” เด็กผู้หญิงที่หน้าเหมือนกับ “เกศสุรางค์” อย่างกับคนเดียวกัน โดยในระหว่างที่ ‘พุดตาน’ และครอบครัวเดินทางกลับจากวัดที่แม่ของ “เกศสุรางค์” บวชชีอยู่ จู่ๆ ‘พุดตาน’ ก็เห็น “การะเกด” ยืนใส่ชุดไทยอยู่ข้างถนน ทันใดนั้นก็เกิดอุบัติเหตุรถชน ทำให้พ่อแม่และพุดตานเสียชีวิตทันที และวิญญาณของ “การะเกด” ก็เข้าไปอยู่ในร่างของ “พุดตาน” แทน และจากนั้น ‘พุดตาน’ ก็เริ่มเปลี่ยนไป จาก ‘พุดตาน’ เด็กที่น่ารักสดใสคนเดิม เป็นเด็กที่แข็งๆ ขรึมๆ และโตมาแบบไม่มีความทรงจำในวัยเด็กเลย
ซึ่งจากจุดนี้ ก็เหมือนเป็นการเฉลยปมแรก ถึงการกลับมาของ “การะเกด” ในร่างของ “พุดตาน” ที่อยู่ในยุคปัจจุบัน และโตมาเป็นนักจัดสวน ก่อนจะบังเอิญไปขุดพบหีบใส่สมุดมนต์กฤษณะกาลี และถูกพากลับไปในสมัยอยุธยาอีกครั้งแบบตัวเป็นๆ
ซึ่งแฟนละคร ก็ชื่นชมด้วยว่า ทีมงานเก่งในการเคส น้องนักแสดงที่มารับบท “พุดตาน” ตอนเด็ก เพราะมีความละม้ายคล้ายกับ ‘เบลล่า’ ตอนเด็กเหมือนกัน
ส่วน EP3 วันพุธหน้า ก็มารอติดตามว่า หลังจาก “พุดตาน” วาร์ปไปในสมัยอยุธยาแล้ว จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง ก็รอติดตามกันได้ เห็นว่าจะมีฉาก ‘โป๊ป’ 3 คน นั่งกินข้าวร่วมกันด้วย