นายกฯแม่บ้านมหาดไทย ชวนสร้างความมั่นคงด้านอาหาร


เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนงานของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับกระทรวงมหาดไทย นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ตั้งแต่การประชุมระดมความคิดเห็นของอุปนายกสมาคมและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งทุกคนต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ถึงเวลาแล้วที่สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจะต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการหนุนเสริมแนวทางการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนคนไทยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยมี “บ้านเกาะ หมู่ที่ 5 ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี” เป็นพื้นที่ต้นแบบที่สำคัญ ด้วยเพราะ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจยังบ้านนางสาว จำลอง นกยิ้ม เลขที่ 21 หมู่ที่ 7 ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เพื่อทอดพระเนตรแปลงผัก พร้อมทั้งพระราชทานเมล็ดพันธุ์ผัก และเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังบ้านนายรังสรรค์ ไผ่สำฤทธิ์ เลขที่ 29 หมู่ที่ 5 ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เพื่อทอดพระเนตรแปลงผัก ทอดพระเนตรการบริหารจัดการขยะของตำบลโก่งธนู และทรงเยี่ยมราษฎร พร้อมทั้งพระราชทานเมล็ดพันธุ์ผัก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมของประชาชนชาวตำบลโก่งธนู รวมทั้งตนในฐานะประธานชมรมแม่บ้านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในขณะนั้น และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คนที่ 14 จึงได้ร่วมกับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดำเนินการขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าว และขยายผลเริ่มจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ จนกระทั่งตนได้ไปดำรงตำแหน่งประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในวันที่ 1 ตุลาคม 2564

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า เราใช้แนวคิดการขับเคลื่อนว่า “ผู้นำต้องทำก่อน” โดยมีท่านประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นกำลังสำคัญหลักของจังหวัดในการทำให้พี่น้องประชาชนได้เห็นเป็นตัวอย่าง เริ่มตั้งแต่ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ตลอดจนที่ตั้งของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขยายผลไปสู่ที่ตั้งส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่แต่ละอำเภอ พื้นที่แต่ละจังหวัด ทำให้มีผลผลิตพืชพันธุ์ผักนานาชนิด มอบให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งนำเมล็ดพันธุ์มอบให้กับประชาชน จนในวันนี้คนทั้งประเทศปลูกผักกันนับเป็นจำนวนครัวเรือนกว่า 14 ล้านครัวเรือน ซึ่งเราเป็นคนหนึ่งในสมาชิกของการปลูกผักเพื่อบริโภค “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก” โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาใช้ เดิมทีปลูกผักที่บ้าน เวลามาทำงาน นั่งคิดว่า เราอยู่ชั้น 10 สวนที่ตกแต่งบริเวณระเบียงเป็นต้นไม้สวยงาม จึงมีแนวคิดว่าเปลี่ยนให้เป็นผักสวนครัว เลยลองดูว่าเริ่มต้นทดลองปลูกผักบุ้งจีน ซึ่งได้แนวคิดจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ปลูกผักบุ้งในกะละมัง พอได้ผลจึงขยายผลเป็นสวนครัวลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยความสุข เป็นแนวคิดที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเมือง เพราะจำเป็นต้องอยู่ในที่สูง

“ความสุขอยู่ล้อมรอบบ้านของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในทุกเช้า เมื่อได้เห็นพืชผักสีเขียวที่งอกงาม เจริญเติบโตดี เพราะถูกบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักจากการบริหารจัดการขยะเศษอาหารภายในครัวเรือนด้วย “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เหลือแบ่งปัน ครอบครัว “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ตามแนวพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพฯ ชื่นใจทุกครั้งที่เห็นพืชผัก สดใหม่ ในแต่ละวัน แปลงผักสวนครัวลอยฟ้าใจกลางกรุง การปลูกพืชผักสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่จำกัด บนชั้น 10 และ ชั้น 12 ย่านทองหล่อ “อยู่รอด พอเพียง ยั่งยืน” เพราะทุกพื้นที่เต็มไปด้วยผักสวนครัว 40 กว่าชนิด เช่น ผักบุ้ง  คะน้า กวางตุ้ง สลัดแดง สลัดขาว ไวท์โอ๊ค เรดโอ๊ค กะเพรา โหระพา สะระแหน่ พริก ใบแมงลัก มะเขือ มะเขือม่วง มะเขือขาว มะเขือเหลือง ตะไคร้ มะละกอ ชะอม แตงกวา บวบ ถั่วฝักยาวสีขาว สีเหลือง ถั่วฝักยาวสีม่วงสิรินธร มะระขี้นก รวมถึงขึ้นฉ่ายที่อยู่ในช่วงกำลังเพาะ สามารถหิ้วตะกร้าเก็บไปปรุงอาหารและแจกจ่ายผู้คนได้อย่างเหลือคณา” ดร.วันดี กล่าวเน้นย้ำ

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการน้อมนำพระราชดำริ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ซึ่งเป็นภารกิจหน้าที่ที่สำคัญของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัด ในการสนับสนุนภารกิจของท่านผู้นำระดับกระทรวง คือ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนนโยบายผ่านท่านประธานแม่บ้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนได้เกิดสิ่งที่ดีของชีวิต คือ การได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีจากอาหารพืชผักสวนครัวที่ปลอดภัย ที่ได้สารบำรุงดินจากขยะเปียก อันเป็นผลต่อยอดในโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากความมั่นคงทางอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยตัวเอง ช่วยครอบครัว ช่วยชุมชน ซึ่งหากคิดคำนวณง่าย ๆ คือ 1 ครัวเรือน มี 4 – 5 คน เมื่อปลูกผักจะมีอาหารเช้า กลางวัน เย็น ประหยัดได้ 50 บาท/วัน เมื่อคำนวณ 10 ล้านครัวเรือน จะเท่ากับวันละ 500 ล้านบาท เมื่อนับทั้งปี 365 วัน พี่น้องประชาชนครัวเรือนทั่วประเทศก็สามารถประหยัดเงินในกระเป๋ากว่า 200,000 ล้านบาท ทำให้พี่น้องประชาชนลดค่าใช้จ่าย มีเงินไว้ดำรงชีพในด้านอื่น ๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมาการขับเคลื่อนการน้อมนำพระราชดำริ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ได้ถูกกำหนดให้เป็น 1 ใน 4 การขับเคลื่อนที่สำคัญในการพิจารณารับพระราชทาน “รางวัลเพชรดอกแก้ว” ให้แก่ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดที่มีผลงานดีเด่น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้เหล่าบรรดาประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัดได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทถวายรายงานการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว ที่ทำให้พสกนิกรใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน อันเป็นการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเรื่อง “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักชัยของแนวคิดในการ “พึ่งพาตนเอง” เพราะถ้าคนเรามีความสุขแบบพอเพียง คือ ไม่ดิ้นรนเรื่องของการแสวงหาหรือลดค่าใช้จ่ายเท่ากับเพิ่มรายได้

“ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเป็นกำลังสำคัญที่ต้องช่วยเป็นภาคีเครือข่ายกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริฯ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารทุกครัวเรือน สอดคล้องกับเจตนารมณ์เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืนร่วมกับสหประชาชาติประจำประเทศไทย “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน “โลกนี้เพื่อเรา”” ตามเป้าหมาย SDGs เป้าหมายที่ 1: ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่เป้าหมายที่ 2: ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 17: เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการ “เป็นผู้นำต้องทำก่อน” จนอินในความรู้สึก คือ ทำแล้วได้ประโยชน์จริง ๆ พอลงมือทำ เห็นผล ก็จะสามารถสื่อสารกับพี่น้องประชาชนได้ และในท้ายที่สุดประเทศไทยของพวกเราทุกคนก็จะเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารที่หลากหลาย อาหารจากธรรมชาติ เป็นสุวรรณภูมิแผ่นดินทอง แผ่นดินใต้ร่มพระบารมีที่ประชาชนทุกคนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะถึงในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ เชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยได้ร่วมกับพวกเราชาวแม่บ้านมหาดไทยและกระทรวงมหาดไทย ปลูกผักสวนครัว ร่วมจัดกระเช้าผักออร์แกนิกปลอดสารพิษมอบเป็นของขวัญปีใหม่แด่คนที่เรารักและผู้ที่เคารพนับถือ เพื่อเป็นของขวัญแทนหัวใจ สร้างสุขภาพพลานามัยที่ดีให้กับคนไทยทุกคนไปพร้อมกัน” ดร.วันดี กล่าวในช่วงท้าย


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *