“บิ๊กก้อง” พอใจแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุก แค่ 4 เดือนจับรถน้ำหนักเกินได้นับพันคัน



ผบช.ก.พอใจแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุก แค่สี่เดือนตำรวจทางหลวงจับรถน้ำหนักเกินได้ 1,363 ราย พบมีผู้ประกอบการหลายรายยังฝ่าฝืนอยู่ คาดโทษ ผกก.- สารวัตรใหญ่ หากหย่อนยานถูกฟันวินัยแน่นอน

วันนี้ (27 ต.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงผลการปฏิบัติงานตลอดช่วงเวลาสี่เดือนที่มีการแต่งตั้งรักษาการผู้บังคับการตำรวจทาง และรอง ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อเข้าแก้ไขปัญหาส่วยรถบรรทุกและการบรรทุกน้ำหนักเกินว่า ตลอดช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาผลการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า เชื่อว่าสามารถลดปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินลงไปกว่า 80% แต่ก็ยังพบว่ามีการลักลอบทำความผิดอยู่ โดยส่วนมากผู้ประกอบการจะคิดว่าตำรวจจะปฏิบัติงานแค่เพียงชั่วคราวตามที่มีกระแส แต่ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยืนยันว่าจะดำเนิน การกวดขันเรื่องแบบนี้ไปตลอด

พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เริ่มบังคับใช้กฎหมายจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 551 ราย และในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้ 812 ราย สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินได้เพิ่มขึ้น 47% รวมแล้วปัจจุบันสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้มากกว่า 1,363 รายแล้ว

ผบช.ก.กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและรถบรรทุกยังไม่ยอมเลิกพฤติการณ์บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่อีกหลายราย ซึ่งตำรวจทางหลวงมีข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว และจะบังคับใช้กฎหมายจับกุมรถบรรทุกของผู้ประกอบการเหล่านี้ต่อไปและจะเริ่มการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ยังคงละเมิดกฎหมายบรรทุกน้ำหนักเกินเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้อย่างเข้มงวดที่สุด ส่วนกรณีของส่วยรถบรรทุกยืนยันว่าขณะนี้กองบังคับการตำรวจทางหลวงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ผบช.ก. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยัง ได้ออกหนังสือคำสั่งแจ้งให้ผู้กำกับการและ สารวัตรใหญ่ ทุกสถานีตำรวจทางหลวง คาดโทษหากไม่บังคับใช้กฎหมายเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่แล้วถูกตำรวจจากส่วนกลางไปจับกุมได้ ผู้กำกับการและสารวัตรใหญ่สถานีนั้นต้องรับผิดชอบ โดยอาจถูกให้ไปช่วยราชการหรือโทษทางวินัยอื่นๆ รวมถึงทางตำรวจยังได้ประสานงานไปยังการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรมทางหลวงชนบทให้มาร่วมตรวจสอบและจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่แอบหลีกเลี่ยงเข้าไปใช้เส้นทางในพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวจราจรหรือโครงสร้างของทางพิเศษต่างๆ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *