บุก 4 จว.ตามจับแก๊งโกงวงเงินบัตรเครดิตเสียหายกว่า 30 ล้าน


เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายนฤเบศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี กับพวกรวม 11 คน โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด” ได้ในพื้นที่ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.สระบุรี และกรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัทให้บริการบัตรเครดิตแห่งหนึ่งตรวจสอบพบการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยของกลุ่มลูกค้าที่ได้รับอนุมัติบัตรเครดิตวงเงินไม่เกิน 25,000 บาทซึ่งโอนเงินสดเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิตของตนเองจำนวน 1.9 ล้านบาท หลังจากลูกค้าโอนเงินเข้ามาในบัตรเครดิตแล้วได้โทรไปขอยกเลิกรายการและขอรับเงินคืนกับคอลเซ็นเตอร์โดยอ้างว่าโอนเงินผิดและในระหว่างที่บริษัทกำลังจะคืนเงินลูกค้านำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านร้านค้าออนไลน์หลายรายการเป็นยอดสูงเกือบ 1.9 ล้านบาท ต่อมาบริษัทดำเนินการโอนเงินส่วนที่มีการขอคืนให้กับลูกค้าและตรวจสอบพบว่าหลังลูกค้าได้รับเงินคืนมีการโยกเงินออกจากบัญชีและถอนเงินสดออกจากระบบในทันที ซึ่งบริษัทตรวจสอบพบลูกค้าที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้จำนวนหลายราย การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวงบริษัท เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท บริษัทจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุม

ต่อมา พ.ต.อ.เมฆพิศาล สืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดมีลักษณะเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำ ได้แก่ กลุ่มนายหน้า ชักชวนบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคารและสมัครบัตรเครดิต กลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์/เจ้าของบัตรเครดิต ที่ถูกชักชวน และกลุ่มนายทุน ที่รู้ช่องว่างและวางแผน พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนในการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต รวม 11 คน ตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนร้ายเคยทดลองระบบโดยโอนเงินสดเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต จากนั้นโทรยกเลิกรายการโอน แล้วทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์จนพบช่องว่างของระบบที่สามารถนำวงเงินคงค้างไปใช้ได้ ต่อมาชักชวนให้ผู้อื่นมาเปิดบัญชีและสมัครบัตรเครดิต เพื่อนำบัตรเครดิตไปใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านร้านค้าออนไลน์ประมาณกว่า 900 รายการ ภายหลังจากได้รับสินค้าก็จะนำไปขายให้กับร้านโทรศัพท์เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท และนำเงินที่ได้มาแบ่งผลประโยชน์กัน จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายนฤเบศน์กับพวกรวม 11 คน ผู้ต้องหา แยกเป็น กลุ่มนายหน้า 4 คน กลุ่มเจ้าของบัตรเครดิต 4 คน และกลุ่มนายทุน 3 คน ทาง ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ลงพื้นที่จับกุมนายนฤเบศน์กับพวกรวม 11 คน พร้อมของกลาง 1.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 49 ใบ 2.โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง 3.ไอโฟน 46 เครื่อง 4.โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง 5.สมุดบัญชี 11 เล่ม 6.สำเนาบัตรนักศึกษา 20 ใบ 7.ซิมการ์ด 136 ชิ้น และ 8.ไอแพด 10 เครื่อง พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเงินสด 62,000 บาท และอื่นๆ รวม 6 รายการ สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมาย

ทางตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัย การยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชี หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยไม่มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด ถือเป็นความผิดตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

matichon


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *