สุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวัน พบความไม่โปร่งใส ทำอาหารไม่ตรงเมนู ตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อวัตถุดิบไม่ได้

เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายบัญฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ชำนาญการพิเศษ นายปิยะวัฒน์ คุระพูล ผอ.กลุ่มประสานการป้องกันการทุจริต ภาค 9 นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง และเครือข่ายชมรมตรังต้านโกง ลงพื้นที่สุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านนาทะเล 8 หมู่ 1 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ. ตรัง ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 (สพป.ตรัง เขต 1) เป็น โรงเรียนขยายโอกาส มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ อนุบาล ประถม มัธยมตอนต้น มีเด็กอนุบาล จำนวน 62 คน เด็กประถม 1-6 จำนวน 116 คน

สำหรับโครงการอาหารกลางวันทางสถานศึกษาแจ้งว่าทางโรงเรียนใช้ วิธีแบบที่ 2 คือ ซื้อวัตถุดิบมาแล้วจ้างเหมาทำ โดยจ่ายให้แม่ครัวเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งวันนี้เมื่อดูเมนูที่แจ้งเอาไว้หน้าโรงอาหาร คือ ที่ระบุไว้ของวันวันศุกร์ คือ ฉู่ฉี่ปลาทู พะโล้ไก่+ไข่ไก่ เงาะ แต่พบว่า เมนูที่ทำให้กับเด็กนั้นไม่ตรงกัน เป็นข้าวหมกไก่ทอด ต้มจืดหมูสับ ขนมหวานเป็น สาคูราดน้ำกะทิ

ส่วนของเด็กประถม เป็นแกงส้มปลาย่างกับผักบุ้ง ไข่เจียวทรงเครื่อง ข้าวสวย ทั้งนี้ แม่ครัวได้อ้างว่า สำหรับเมนูของเด็กอนุบาลนั้น เนื่องจากตนเองรับทำอาหารให้กับศูนย์เด็กเล็กด้วยจึงได้นำเมนูดังกล่าวมาทำให้ที่โรงเรียนเพราะสะดวก และที่เมนูไม่ตรงกับที่แจ้งเอาไว้นั้น เมนูดังกล่าวได้ทำไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีการนำเมนูมาสลับวันกัน

ซึ่งจากการดูการตักอาหารให้กับเด็กถือว่าให้เยอะ เด็กกินอิ่ม แต่การตักอาหารนั้นทางแม่ครัวไม่ได้ตักรอนักเรียนแต่จะให้นักเรียนมาแจ้งความประสงค์ว่าต้องการข้าวมากน้อยแค่ไหน บางคนกินมาก บางคนกินน้อย ซึ่งเด็กสามารถเลือกปริมาณได้

แต่เมื่อขอตรวจสอบรายละเอียดการดำเนินการ พบว่า ไม่มีการประกาศจำนวนหรือปริมาณ ไม่มีการให้ภาคประชาชน ผู้ปกครอง คนในชุมชน เข้าไปมีส่วนร่วมเข้าตรวจสอบในการรับวัตถุดิบ ไม่ปรากฏบิลการซื้อวัตถุดิบ การชี้แจงของทางโรงเรียนก็ไม่มีความชัดเจน ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครทราบได้เลย

นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านนาทะเล อ.หาดสำราญ จ. ตรัง พบว่า เมนูอาหารไม่ตรงกับที่แสดงไว้

ประเด็นที่ 2 คือการมีส่วนร่วมของของภาคประชาชนเข้ามาดูแลหรือตรวจสอบปริมาณวัตถุดิบ เนื่องจากโรงเรียนใช้วิธีแบบที่ 2 คือ ซื้อวัตถุดิบมาแล้วจ้างเหมาทำ ซึ่งวิธีนี้ต้องมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนในการรับวัตถุดิบ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครทราบได้เลย ซึ่งวันนี้ถามว่าซื้อไก่มากี่กิโลกรัมก็ไม่สามารถทราบได้ เมื่อถามหาบิลก็ไม่ปรากฏชัดเจน

ประเด็นที่ 3 การประกาศเปิดเผยวัตถุดิบตามชุมชนต่างๆก็ไม่ปรากฏ ประเด็นที่ 4 เรื่องช่องทางที่จะให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องปริมาณคุณภาพของอาหารซึ่งสามารถประเมินอัตราจ้างได้ ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็ได้กำชับไปแล้วและที่สำคัญได้มีการประชุมไปหลายครั้งแล้ว และทาง สพฐ.ให้ปฏิบัติ แต่หลายแห่งก็ยังไม่ค่อยปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ

ส่วนประเด็นต่อไปทาง ป.ป.ช. จะขอเอกสารหลักฐานย้อนหลังสักหนึ่งเดือนเพื่อมาตรวจสอบดูว่าในการซื้อวัตถุดิบในแต่ละวันว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง และทราบมาว่าต้องให้ครูออกเงินไปก่อนทั้งที่ได้รับเงินจากท้องถิ่นมาแล้ว ซึ่งวิธีนี้ก็ไม่น่าจะถูกต้องเท่าไหร่ ไม่ใช่โรงเรียนต้องสำรองเงินออกไปก่อน

ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ช. จะมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจเป็นระยะ ๆ และเป็นการสังเกตการณ์ ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็น พร้อมข้อเสนอแนะร่วมกัน ทราบว่าบางโรงเรียนมีข้อจำกัด เรื่องบุคลากรก็ดี หรือพื้นที่ห่างไกลก็ดี