ผงคาเคา คืออะไร ต่างกับโกโก้ยังไง
Cocoa กับ Cacao ต่างกันยังไง คาเคากับโกโก้เหมือนกันไหม ? อธิบายง่าย ๆ ก็คือ คาเคา (Cacao) คือเมล็ดของต้นโกโก้ (Theobroma cacao plant) นี่แหละค่ะ และเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างสารต้านอนุมูลอิสระ แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก เพราะส่วนใหญ่จะใช้คาเคาบดเป็นผงหรือใช้การสกัดเย็นแล้วนำไปทำเป็นช็อกโกแลต ผงคาเคา (Cacao Powder) ที่ได้มาจึงผ่านกระบวนการแปรรูปไม่มาก หลายคนจะเรียกผงคาเคาว่า โกโก้สกัดเย็น
ส่วนการทำโกโก้จะต้องนำเมล็ดคาเคาไปคั่วบดด้วยความร้อน ทำให้เป็นน้ำคาเคาข้น ๆ จากนั้นจึงรีดส่วนไขมันออกให้เหลือแต่เนื้อโกโก้ แล้วค่อยนำไปบดเป็นผงโกโก้อีกที ซึ่งอาจเติมกลิ่น เติมน้ำตาล ปรุงแต่งรสชาติลงไปเพิ่มเติม เรียกว่ากว่าจะได้โกโก้มาก็ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปอยู่หลายขั้นตอนเลยทีเดียว ดังนั้น สารอาหารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ จึงลดน้อยลงไปในระหว่างกระบวนการผลิต
Cacao
อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ผงคาเคา ปริมาณ 1/4 ถ้วยตวง จะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 72 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 5 กรัม
- ไขมัน 3 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม
- ไฟเบอร์ 9 กรัม
- น้ำตาล 1 กรัม
ทั้งนี้ ในผงคาเคายังมีสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียมอยู่ด้วย จึงถือว่าเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ หรือซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่งเลยทีเดียว
ผงคาเคา ประโยชน์ดียังไง
ประโยชน์ของผงคาเคาก็ดีต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่น
สารต้านอนุมูลอิสระสูง
ในคาเคาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น โพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ คาเทชิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ช่วยต้านการออกซิเดชั่นและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้
ลดการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกาย
สารต้านอนุมูลอิสระในคาเคามีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ด้วยการช่วยป้องกันการอักเสบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากอนุมูลอิสระ และยังมีส่วนช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายอีกด้วย
ช่วยให้อารมณ์ดี
หากวันไหนอารมณ์ไม่ค่อยจะดี ลองหาคาเคามาชงดื่มดูได้ค่ะ เพราะจะได้ทั้งคาเฟอีนที่ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว ได้เซโรโทนิน และทริปโตเฟน ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความสุขและความผ่อนคลาย แถมยังได้รสชาติอร่อย ๆ ของคาเคามาเพิ่มความฟินด้วย
ดีต่อสุขภาพหัวใจ
มีการศึกษาในปี 2022 ที่พบว่า การบริโภคสารสกัดจากคาเคาช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และยังมีอีกการศึกษาที่พบว่า การบริโภคคาเคาทุกวันเป็นเวลา 3.5 ปี มีส่วนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจได้ราว 27% เมื่อเทียบกับกลุ่มอาสาที่ได้รับยาหลอก เนื่องจากคาเคาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยลดความเสื่อมของเซลล์หลอดเลือดในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดระดับความดันโลหิตได้อีกด้วย
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
จากการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระชนิดฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในคาเคา มีส่วนกระตุ้นการทำงานของอินซูลินได้ และอาจช่วยให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นด้วย
ผงคาเคา ลดน้ำหนักได้ไหม
สำหรับคนที่สนใจจะใช้ผงคาเคาช่วยลดน้ำหนัก ต้องบอกตรง ๆ ว่าข้อมูลในเรื่องนี้ยังมีค่อนข้างน้อยค่ะ แม้คาเคาจะให้พลังงานไม่มาก แต่ก็ยังมีทั้งไขมันและคาร์บอยู่นะคะ อีกทั้งการบริโภคผงคาเคาอาจต้องปรุงแต่ง เติมความหวานเพิ่มรสชาติลงไป ดังนั้น ใครอยากลดน้ำหนักด้วยคาเคาอาจต้องพิจารณาข้อมูลดี ๆ อีกที
ผงคาเคา กินยังไง
ปัจจุบันมีผงคาเคาสำเร็จรูปวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ซึ่งสามารถนำมาชงเป็นเมนูเครื่องดื่ม ผสมในโยเกิร์ต หรือนำไปทำขนม ของกินเล่นอื่น ๆ ได้เลย โดยสัดส่วนตามปกติก็ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ หรือถ้าจะเน้นความสะดวกก็สามารถเลือกกินดาร์กช็อกโกแลตบาร์ที่ระบุสัดส่วนของคาเคาตั้งแต่ 72% ขึ้นไปได้เช่นกัน
ส่วนใครที่รับประทานเป็นอาหารเสริมคาเคา แนะนำให้รับประทานตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือตามที่เภสัชกรแนะนำเลยค่ะ
โทษของผงคาเคามีไหม
คาเคามีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 12 มิลลิกรัม ต่อผงคาเคา 1 ช้อนโต๊ะ ดังนั้น คนที่ไวต่อคาเฟอีน หรือจำเป็นต้องจำกัดปริมาณคาเฟอีน เช่น หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรต้องระวังการบริโภคคาเคาด้วย หรือหากใครรับประทานผงคาเคาในรูปแบบอาหารเสริมก็อย่าลืมอ่านฉลากให้ดีว่ามีปริมาณคาเฟอีนเท่าไร รวมถึงมีข้อควรระวังอื่น ๆ หรือไม่
คาเคาก็ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจ ซึ่งหากใครอยากรับประทานคาเคาก็ลองไปเลือกซื้อกันได้ เพราะปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์คาเคาให้เลือกหลากหลายเลยล่ะค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับคาเคา
ขอบคุณข้อมูลจาก : tops.co.th, health.com, webmd.com