
ผู้กำกับ4Kings พร้อมนักแสดง ยื่นถึงนายกฯ แสดงความบริสุทธิ์ใจสร้างหนังไม่ได้ส่งเสริมการความรุนแรง ชี้เจตนาดีสะท้อนสังคม ให้ตั้งใจเรียน-ภูมิใจในสถานบัน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายพุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับภาพยนต์ 4Kings 2 พร้อมนักแสดงภาพยนต์เรื่องดังกล่าว เข้ายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ผ่านทางนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสร้างภาพยนต์เรื่องดังกล่าวเพื่อสะท้อนสังคมและการใช้ความชีวิตของนักศึกษาสายอาชีวะ
นายพุฒิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนจึงมาชี้แจงต่อนายกฯ ถึงเจตนารมณ์ในการสร้างหนังเรื่องนี้ ว่าทีมผู้สร้างมีความบริสุทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง 4Kings ไม่ได้มีเจตนาจะส่งเสริม หรือยุยงให้เกิดความรุนแรงของเด็กอาชีวะตามข่าวที่เกิดขึ้น แต่จุดประสงค์ของผู้สร้างเพื่อตีแผ่ปัญหาสังคม และเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจ กลุ่มนักศึกษาที่กำลังจะก้าวข้ามความเป็นวัยรุ่นได้เห็นถึงผลเสีย และตราบาปของการใช้ความรุนแรงว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ปัญหาความรุนแรงมีมานานแล้ว เกิดจากสภาพแวดล้อม ชุมชนที่อยู่ ปัญหาการเลี้ยงดูของครอบครัว ในภาพยนต์ของตนก็ได้บอกหมด เราไม่ได้สร้างหนังเพื่อส่งเสริมความเท่ อย่างไรก็ตามตนและทีมผู้กำกับพยายามศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตของนักศึกาอาชีวะของแต่ละสถาบัน เพื่อชี้ให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดี ให้มีความภูมิใจในสถาบัน ตั้งใจเล่าเรียน รู้ว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี จบมาเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว และเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ขอย้ำว่าหนังทุกเรื่องผู้สร้างเขามีเจตนาที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว ตนไม่อยากให้นำภาพยนตร์มาโยงกับภาพข่าว
ด้านนายมงคลชัย กล่าวว่า ขอบคุณที่ทำหน้าที่ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนภาพของสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของผู้เรียนอาชีวะ อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ที่ดีของอาชีวะก็มีอยู่มาก เช่น การทำจิตอาสาเพื่อสังคม และกิจกรรมที่ดูแลประชาชน แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวให้สังคมรับรู้ รับทราบ แต่มักจะมีมิติหรือภาพกิจกรรมของเด็กอาชีวะที่ไม่พึงปรารถนาของสังคม เป็นปัญหาสังคม มีการเลียนแบบ ทำให้ปลายทางมีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายบุคคลที่สาม ทำร้ายกันเอง ซึ่งแน่นอนว่า มีปัญจัยที่เกี่ยวข้องมาจากการเลี้ยงดูขอครอบครัว ทำให้เกิดการรับรู้ที่ไม่ดีของสังคม ดังนั้นเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมกันแก้ไข
“ภาพยนตร์นอกจากจะสะท้อนภาพเหตุการณ์ในสังคมแล้ว ส่วนหนึ่งก็ต้องสร้างความเข้าใจต่อสังคม ให้เกิดการยอมรับเยาวชนกลุ่มนี้ ซึ่งอายุยังน้อย ความรับผิดชอบชั่วดีก็ไม่มาก แล้วยังต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมต่อไป เขาต้องผ่านวัยที่ต้องต่อสู้อุปสรรคที่เกิดขึ้นจากจิตใจมาก แต่ภูมิคุ้มกันของเขายังไม่มากเพียงพอ ซึ่งวัย 18-25 ปีเป็นห้วงของวัยที่ต้องเรียนรู้ตัวเอง มีความเปราะบาง” นายมงคลชัย กล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่