การระบาดครั้งใหญ่ของโควิดได้ทำหน้าที่เป็นเหมือนสัญญาณเตือน กระตุ้นให้ผู้คนหันกลับมาตระหนักถึงสุขภาพและทางเลือกในการดำเนินชีวิตของตนเองมากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากการสำรวจลำดับความสำคัญด้านสุขภาพในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2566 ของเฮอร์บาไลฟ์ โดยมีการสำรวจผู้บริโภคกว่า 5,500 คนในตลาดเอเชียแปซิฟิกทั้ง 11 แห่ง พบว่า 77% ของผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญด้านสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงของตนมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาด
สตีเฟน คอนชี ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีน เฮอร์บาไลฟ์ ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแรงบันดาลใจด้านสุขภาพของผู้บริโภคหลังการระบาดของโควิด พร้อมถอดบทเรียนสำหรับทุกคนที่อยากมีสุขภาพดี
สุขภาพโดยรวม การนอนหลับ และภูมิคุ้มกัน กลายเป็นเป้าหมายยอดนิยม
ผลสำรวจเผยให้เห็นว่าผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เปลี่ยนลำดับความสำคัญของตน โดยมุ่งเน้นไปที่การมีสุขภาพองค์รวมที่ดีขึ้น การนอนหลับที่มีคุณภาพ และมีภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเป้าหมายด้านสุขภาพ 3 อันดับแรกที่ตั้งเป้าอยากทำให้สำเร็จในปี 2566
ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือราว 51% ให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองในเชิงป้องกันโดยการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพแทนที่จะรอจนกระทั่งเจ็บป่วยแล้วคอยมารักษาปัญหาสุขภาพตามโรคที่เป็น
หนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีสุขภาพโดยรวมที่ดีก็คือ การนอนหลับที่มีคุณภาพ ซึ่ง 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจ ให้ความสำคัญกับการนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จ เนื่องจากปัญหาการนอนหลับกำลังเพิ่มขึ้นในปัจจุบันและยังส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสของโรคเบาหวานและโรคอ้วน
ในขณะที่การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยังคงเป็นเป้าหมายอีกด้านหนึ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 46% ให้ความสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคถึงความเชื่อมโยงระหว่างระบบภูมิคุ้มกันกับความสามารถในการป้องกันความเจ็บป่วย แม้ว่าการพัฒนาวัคซีนและยาจะก้าวหน้าขึ้น แต่คาดการณ์ได้ว่า ผู้คนยังต้องการมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ซึ่งเป็นปราการด่านแรกในการป้องกันโรค
ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและโภชนาการ เพื่อไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ
เป็นที่ทราบกันดีว่าการจะบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ต้องอาศัยการดำเนินการหลายขั้นตอน ซึ่งน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่กว่า 85% เปิดเผยว่าพวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนไปสู่การพัฒนาสุขภาพให้ดีขึ้นแล้ว ซึ่งขั้นตอนที่ผู้ตอบแบบสำรวจเลือกตรงกัน ได้แก่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 62% รักษาสมดุลอาหาร 58% สร้างตารางการนอนหลับให้สม่ำเสมอ 52% และรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม 50%
กลุ่มหรือคอมมูนิตี้ช่วยเอาชนะความท้าทาย
ในขณะที่หลายคนกำลังเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการไปถึงเป้าหมายด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีนั้น อาจจะไม่ราบรื่นและต้องพบเจอกับความท้าทาย ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รู้สึกท้อแท้จากความท้าทายหลัก 2 ประการ ได้แก่ ข้อจำกัดด้านเวลา และการขาดแรงจูงใจ
กลุ่มหรือคอมมูนิตี้ที่คอยสนับสนุนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ ซึ่งกว่า 84% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยกับความจริงในข้อนี้ เนื่องจากการสนับสนุนทางสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การอยู่ร่วมกับผู้คนที่มีเป้าหมายด้านสุขภาพคล้ายกันมีประโยชน์มากมาย ทั้งในแง่ของความรู้สึก การสร้างแรงจูงใจ และการให้กำลังใจ และที่สำคัญคือ ช่วยให้มีความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายตลอดเส้นทาง
สุดท้ายนี้ หากใครกำลังมุ่งหวังอยากมีสุขภาพที่ดีขึ้นหรืออยากมีพลังในการเลือกเดินในเส้นทางที่ดีต่อสุขภาพ สิ่งสำคัญไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างเร่งรีบและหักโหม แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอ เช่น การเดินเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน หรือการเลือกใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์ เพียงเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อยง่ายๆ อาจส่งผลดีต่อสุขภาพได้อย่างมหาศาล