ลานพระราชวังดุสิต ผ่านมาแล้ว 5 รัชสมัย กว่า 125 ปี นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จวบจนปัจจุบัน จะมีพิธีทางการทหารที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 16 ปี เพื่อถวายพระเกียรติสูงสุด แด่องค์พระประมุขในฐานะองค์จอมทัพไทย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 จะเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ทางการทหารอีกครั้ง ในรอบ 16 ปี จะมีเป็นการสวนสนามครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นการสวนสนาม ของทหารราชวัลลภ และทหารรักษาพระองค์ ซึ่งเคยมีการสวนสนาม ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2551
พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ว่า พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำให้กองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพมุ่งมั่น ทุ่มเท ในการจัดพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ “ราชวัลลภ เทิดไท้ จอมราชันย์ 72 พรรษา มหามงคล” ในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 อย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อแสดงออกถึงความสามัคคีเป็นปึกแผ่น ของทหารทุกเหล่าทัพ ตลอดจนเป็นการถวายพระเกียรติสูงสุด แด่องค์พระประมุขในฐานเองค์จอมทัพไทย
พลตรี วิทัย กล่าวว่า ในวาระนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยได้จัดทำสารคดีสั้น 13 ตอน ผ่านสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ โดยทั้งหมดได้ผ่านพระบรมราชวินิจฉัยแล้ว
สำหรับ สารคดีทั้ง 13 ตอน ประกอบด้วย
- จุดเริ่มต้นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
- หน่วยทหารรักษาพระองค์
- ธงชัยเฉลิมพลจิตวิญญาณแห่งชัย
- ธงชัยราชกระบี่ยุทธ และธงชัยพระครุฑพ่าห์
- สถาบันพระมหากษัตริย์รวมใจแผ่นดิน
- พระราชาผู้ปิดทองหลังพระ
- กษัตริย์นักการทหาร
- คธาจอมทัพไทย
- ลานพระราชวังดุสิต
- หน่วยทหารม้ารักษาพระองค์
- พิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตน
- สมเด็จพระราชินีคู่บารมีจอมทัพไทย
- สถาบันกษัตริย์หลักชัยของปวงชน
สำหรับหมายกำหนดการของพิธี จะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. โดยเปิดลานพระราชวังดุสิตให้แขกผู้มีเกียรติ ทูตานุทูต เข้ามาประจำยังที่นั่ง จากนั้น 15.00 น. จะมีการแสดงก่อนเวลา 3 ชุด จาก 3 เหล่าทัพ โดยกองทัพบก จะจัดแสดงไหว้ครูมวยไทย กับแม่ไม้มวยไทย กองทัพเรือจะแสดงอาวุธประกอบดนตรี กองทัพอากาศจัดการแสดง “ดรัมซีท” เป็นการต่อสู้ของนักรบไทยประกอบดนตรีโบราณ เช่นกลองสะบัดชัย ประกอบเครื่องดนตรีสมัยใหม่
ทั้งนี้ การจัดกำลังพลเข้าร่วมพิธีสวนสนามจำนวนทั้งสิ้น 11 กองพัน ประกอบด้วย
กรมสวนสนามที่ 1 มีจำนวน 1 กองพัน จัดจากกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
กรมสวนสนามที่ 2 จัดจากกรมนักเรียนนายร้อย 3 เหล่าทัพ
กรมสวนสนามที่ 3 จัดจากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กรมอากาศโยธิน กองพันทหารม้าที่ 25
กรมสวนสนามที่ 4 จัดจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ กองพันทหารปืนใหญ่ กองพันทหารราบ
กองพันที่ 11 จัดจากกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ โดยมีพลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้า รักษาพระองค์
ก่อนจะถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 จะมีการซ้อมซ้อมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา 72 พรรษามหามงคล” 4 วัน ในวันที่ 10, 20, 24 และ 30 พฤศจิกายน 2567 ณ พระลานพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
โดยการซักซ้อม เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียง และความสมบูรณ์ของพิธีฯ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่องค์พระประมุข ในฐานะองค์จอมทัพไทย
ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฯ นี้ เหล่าทหารรักษาพระองค์ทุกนาย จะร่วมกันเปล่งเสียงถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์อย่างกึกก้องพร้อมเพรียง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแสดงออกถึงความสามัคคีเป็นปึกแผ่นของทหารทุกเหล่าทัพ
หมายกำหนดการ
สำหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ พุทธศักราช 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้เผยแพร่หมายกำหนดการ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดย รัฐบาลได้ใช้ชื่อพระราชพิธีภาษาไทยว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”
ส่วนภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อ “The Celebration on the Auspicious of His Majesty the King’s 6th Cycle Birthday Anniversary 28th July 2024” โดยให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีให้สมพระเกียรติ และเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้
เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เหล่าทัพโดย กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงกราบบังคมทูลพระกรุณาเชิญเสด็จพระราชดำเนินในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เป็นครั้งแรกในรัชกาล
หมายกำหนดการ ในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานทางประตูภูธรลีลาศ ไปยังพระลานพระราชวังดุสิต รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนไปตามพระลานพระราชวังดุสิตหน้าแถวทหารรักษาพระองค์ ทรงตรวจพล สวนสนาม
รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพลับพลา ประทับพระราชอาสน์ หน่วยทหารรักษาพระองค์ เดินแถวในรูปขบวนสวนสนาม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับยืนที่มุขหน้าพลับพลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บัญชาการกองผสมสวนสนาม เดินแถวสวนสนามผ่าน พลับพลาที่ประทับแล้ว เสด็จขึ้นมุขหน้าพลับพลา หน่วยทหารรักษาพระองค์สวนสนามแล้ว กลับประจำที่เดิม ครบทุกหน่วย ประทับพระราชอาสน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา ถวายพระพรชัยมงคล
จบแล้ว เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกล่าวนำถวายสัตย์ ปฏิญาณตน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เสด็จลงจากพลับพลาไปประทับ รถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
โดยการแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายรามาธิบดี ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
พิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ รัชกาลที่ 9
พิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนเกิดขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2470 โดยทหารบก ทหารรักษาวัง และทหารเรือซึ่งประจำการอยู่ในกรุงเทพมหานคร กระทำสัตย์สาบานตนต่อธงชัยเฉลิมพลร่วมกันหน้าพระที่นั่ง ณ พระลานพระราชวังดุสิต ภายหลังจึงได้จัดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมจนถึง ปี 2475
พิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์จัดขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรทรงพระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้แก่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์เพื่อใช้แทนธงชัยเฉลิมพลของเดิมที่ชำรุด ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย
จอมพลป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กำหนดให้มีพิธีสวนสนามแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในวันดังกล่าวที่พระลานพระราชวังดุสิตโดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธาน
จากนั้นรัฐบาลจัดให้มีจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2501 โดยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้กองพลที่ 1 รักษาพระองค์จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาณ พระลานพระราชวังดุสิต
การสวนสนามกองทัพไทยครั้งที่สองจัดขึ้นเนื่องในพระราชพิธีรัชดาภิเษก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี โดยมีการจัดกำลังสวนสนามถวายความจงรักภักดี
ครั้งที่สามจัดขึ้นเนื่องในพระราชพิธิกาญจนาภิเษกเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ๕๐ ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งเป็นการสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเนื่องจากเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลที่ทหารทั้งสามเหล่าทัพได้ถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดให้มีพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ในวันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี ต่อเนื่องมาจนถึง พ.ศ. 2523กองทัพเรือและกองทัพอากาศจึงได้เข้าร่วมพิธีสวนสนามด้วย
ในปี 2552 พิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ถูกระงับชั่วคราว เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระประชวร หลังจากนั้นกองทัพได้ปรับรูปแบบการสวนสนามให้เป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์เพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากปี 2552 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำทหารรักษาพระองค์เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ณ สถานที่ต่าง ๆ ตามลำดับ
ในปี 2553 จัดพิธี ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
ปี 2554 จัดพิธี ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ปี 2555 จัดพิธี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
ปี 2556 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวล การจัดพิธี ณ ศาลาราชประชาสมาคม พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในปี 2557 กองทัพไทยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัด “พิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของทหารรักษาพระองค์เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา” ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง