
เผยแพร่: 27 ก.ย. 2566 2
“มะเร็งรังไข่” เป็นพบมากเป็นอันดับที่ 7 ของมะเร็งทั้งหมด ภัยเงียบระบบสืบพันธุ์ของคุณผู้หญิงที่หากรู้ตัวทันสามารถรักษาหายได้ แต่หากปล่อยลุกลามอาจทำได้แค่ประคับประคอง
.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}
“มะเร็งรังไข่” เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 7 ของมะเร็งในสตรีทั้งหมด รองจากมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่มากกว่า 2,600 รายในปี 2556 ซึ่งผู้ป่วยมากกว่าครึ่งหนึ่งเสียชีวิตพบมากในช่วงอายุ 40-60 ปี
การศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่โดยเฉพาะชนิดเยื่อบุผิว
“มะเร็งรังไข่” โรคร้ายระบบอวัยวะสืบพันธุ์ผู้หญิงอาการนำและระยะลุกลาม
4 ระยะโรค “มะเร็งรังไข่” เช็กสัญญาณโรคก่อนลุกลามตับหรือปอด

หญิงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิว ได้แก่
- อายุมาก
- แต่งงานแต่ไม่มีบุตร
- มีประวัติเป็นโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ลำไส้ใหญ่ หรือเต้านม
- มีประวัติญาติพี่น้องในครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่
- การที่มีการตกไข่อย่างต่อเนื่องทุกเดือน หญิงที่หมดระดูเมื่ออายุมาก
นอกจากนี้การศึกษายังพบว่า การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด นาน 5 ปี สามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ลงได้ครึ่งหนึ่ง หญิงที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกโดยเหลือรังไข่ไว้ หรือได้รับการทำหมัน การตั้งครรภ์และการให้นมบุตรเป็นเวลานานมีผลในการป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ ส่วนการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ และการใช้ฮอร์โมนเอสโตเจนในวัยหมดระดูไม่พบว่าเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่
อาการของโรคมะเร็งรังไข่ ที่มักไม่มีอาการในระยะต้น หากพบอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที!
- คลำพบก้อน
- ท้องโตขึ้น
- อาหารไม่ย่อย
- ปวดท้องเรื้อรัง
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด
มะเร็งรังไข่ 4 ระยะ
- ระยะที่ 1 มะเร็งอยู่เฉพาะที่รังไข่ยังไม่กระจายมาที่ช่องท้องน้อย
- ระยะที่ 2 มะเร็งกระจายมาที่ปีกมดลูกและอวัยวะในช่องท้องน้อย
- ระยะที่ 3 มะเร็งกระจายในท้อง ผิวช่องท้อง ไขมันในช่องท้อง ผิวลำไส้เล็ก ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน และในต่อมน้ำเหลืองรอบเส้นเลือดใหญ่ในท้อง
- ระยะที่ 4 มะเร็งกระจายไปในอวัยวะไกล เช่น ปอด ช่องหัวใจ ต่อมน้ำเหลืองที่คอ เนื้อตับ และสมอง
“มะเร็งรังไข่” ปัจจัยและกลุ่มอายุ-พฤติกรรมเสี่ยงภัยเงียบผู้หญิง

แนวทางการรักษามะเร็งรังไข่
การรักษามะเร็งรังไข่จะขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็งที่เป็น รวมทั้งสภาพความพร้อมและโรคประจำตัวของผู้ป่วยแต่ละราย โดยวิธีการรักษามีดังนี้
- การทำศัลยกรรมการผ่าตัด การผ่าตัดพร้อมด้วยการตรวจอวัยวะทั้งหมดในช่องท้อง โดยการเก็บสารน้ำในช่องท้องส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งตัดเนื้องอก ตัดมดลูก หรือรังไข่ในไขมันในช่องท้อง รวมถึงต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องน้อยและเนื้อเยื่อที่ได้ทั้งหมดจากการผ่าตัดนำไปตรวจทางพยาธิเพื่อเพิ่มความถูกต้องในการวินิจฉัยและบ่งบอกชนิดของมะเร็งรังไข่ให้ชัดเจนขึ้น รวมถึงการบ่งบอกระยะของโรคเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนทางการรักษาได้อีกด้วย
- ผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery)ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็กรักษาโรคมะเร็งนรีเวช เช่น มะเร็งรังไข่ โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง โดยศัลยแพทย์จะทำการเจาะรูบริเวณหน้าท้องประมาณ 3 – 4 รู แต่ละรูมีขนาดเล็กเพียง 5 – 10 มิลลิเมตร หลังจากนั้นจะมีการใส่เครื่องมือผ่าตัดความถี่สูง สำหรับการจี้ การตัด การห้ามเลือด รวมถึงกล้องขนาดเล็กที่สามารถมองเห็นอวัยวะภายในบนจอมอนิเตอร์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน ทำให้การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างถูกต้องขัดเจน
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง
แผลเล็ก เจ็บน้อย เสียเลือดลดลง ฟื้นตัวไว ลดโอกาสการเกิดผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อที่แผล และทำให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ผลการผ่าตัดผ่านกล้องรักษาได้ดีเทียบเท่าการผ่าตัดแบบแผลเปิด การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กนี้เหมาะกับมะเร็งในระยะเริ่มแรกที่มีขนาดก้อนไม่ใหญ่มาก และเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดี ผู้ป่วยจะเข้ารับการผ่าตัดแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ
- การใช้ยาเคมีบำบัดมะเร็งรังไข่จะตอบสนองได้ดีต่อยาเคมีบำบัดและมักจะใช้วิธีนี้ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การรักษาด้วยยาแบบเฉพาะเจาะจงปัจจุบันมีการใช้กับมะเร็งบางชนิด โดยใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด ทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นในผู้ป่วยบางรายที่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน
การบำบัดรักษามะเร็งรังไข่ระยะต้นมีโอกาสหายจากโรคได้ แต่ในระยะลุกลามสามารถรักษาแบบประคับประคองได้
ปัจจุบันมะเร็งทุกชนิดยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง จึงไม่มีวิธีที่จะป้องกันให้ได้ผลอย่างเต็มที่ แต่คุณผู้หญิงไม่ควรละเลยการตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจภายในอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ร่วมกับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมอื่น ๆรวมทั้งทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เน้นผักผลไม้ หลีกเลี่ยงเนื้อแดง ออกกำลังกายและดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ และ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ภาพจาก : : shutterstock
ใช้แป้งฝุ่นทาจุดซ้อนเร้นเสี่ยง “มะเร็งรังไข่” เพิ่ม 2.5 เท่า
เช็กเลย! อาการแบบนี้ ซีสต์ธรรมดา หรือ มะเร็งรังไข่ ใครบ้างเสี่ยง?


ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
PPSHOP

