เมื่อวันที่  17 พ.ย.66 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ “พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง” อ.เมือง จ.สุรินทร์  นายพิจิตร บุญทัน ผวจ.สุรินทร์ นั่งบนหลังช้างงาสวย นำขบวนช้างกว่า 200 เชือก พร้อมขบวนอัตลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม  ออกเดินทางจากหลังสถานีรถไฟสุรินทร์ ผ่านกลางตัวเมืองสุรินทร์ เข้ามายังบริเวณอนุสาวรีย์ พื้นที่จัดกิจกรรมต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง ในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ปีที่ 63 และยังมีพระเอกอย่างช้างพลายทองคำ ทองแท่ง ช้างแฝดเพศผู้คู่แรกของโลกที่แต่งกายด้วยชุดผ้าคลุมสวยงาม และเหล่าช้างแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยงาม และยังมีช้างแฟนซี ที่สร้างความน่ารักและสีสันในขบวนช้างที่ปีนี้เหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทย และชาวต่างชาติ ต่างเดินทางมาท่องเที่ยวในงานช้างสุรินทร์ปีนี้กันอย่างคึกคักหลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น

ผวจ.สุรินทร์ ได้นั่งช้างนำขบวน “พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง” เข้ามาร่วมขบวนอย่างยิ่งใหญ่  พร้อมทำพิธีเซ่นศาลปะกำ และการจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงช้าง พร้อมเปิดงานต้อนรับ และเลี้ยงอาหารช้างประจำปี 2566 โดยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โดยนายพรชัย มุ่งเจริญพร นายก อบจ.สุรินทร์ จัดขึ้นทุกปีก่อนช้างจะทำการแสดงของช้างในวันถัดไป คือวันที่ 18-19 พ.ย.2566 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างแพร่หลาย  ซึ่งเมื่อครั้งก่อนในแต่ละปีช้างสุรินทร์ก็จะมารวมตัวกัน 1 ครั้ง  เดินทางร่วมแสดงงานช้าง และ “งานช้างแฟร์”  (งานกาชาด)  ประจำปีของจังหวัด เพื่อเป็นการตอบแทน และขอบคุณช้าง รวมทั้งเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอันดีงาม และอนุรักษ์การ “แสดงของช้าง” ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทยให้คงอยู่สืบไป   จึงได้มีการจัดงาน “เลี้ยงโต๊ะอาหารช้าง” ขึ้นทุกครั้งก่อนการแสดงของช้าง โดยงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้างในครั้งนี้มีอาหารช้าง อาทิ แตงโม กล้วย อ้อย สับปะรด แตงกวา  น้ำหนักรวมกว่า 22 ตัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารช้าง และทำกิจกรรมร่วมกับช้างอย่างใกล้ชิด และนั่งช้างชมเมืองด้วย

งานแสดงของช้าง จ.สุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่  ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ที่ขึ้นชื่อแห่ง “สุรินทร์ถิ่นเมืองช้าง”  เมื่อถึงเทศกาลท่องเที่ยวงานแสดงของช้าง และงานกาชาดจังหวัดสุรินทร์  ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวชมวิถีคนกับช้างและการแสดงความสามารถแสนรู้ของช้างสุรินทร์ และร่วมให้อาหารช้าง และ “นั่งช้างชมเมือง” กันเป็นจำนวนมาก