.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}
ชั่งแล้วรถ 10 ล้อขนดินตกบ่อร้อยสายไฟ น้ำหนัก 37.45 ตัน เกิน ก.ม.กำหนด 12 ตัน หลัง “โตโต้ ปิยรัฐ” นำทีม สก.ลุยจี้เพราะเลยเวลานัดหมาย ซัดตำรวจบอกเองสติกเกอร์หน้ารถ B ในรูปดาวสีเขียวคือ “บิ๊ก”ผู้รับเหมาเจ้าของรถ “วิโรจน์” ขย่มซ้ำถาม “เสี่ยบิ๊ก” คือใคร “แทน ปชป.” ร่วมวงปูดเป็นส่วยระยะสั้น 10 วันเคลียร์ที นายกรัฐมนตรีสั่งคมนาคม-กทม.-กรมทางหลวง ร่วมแก้ปัญหา ชี้มีมานานแล้วไม่ได้เกิดแค่รัฐบาลนี้ ผบ.ตร.ลั่นหากพบลูกน้องรับผลประโยชน์ไม่เอาไว้ “รองโจ๊ก” จ่อขอตาชั่งกรมทางหลวงชั่ง นน.รถบรรทุกทั่ว กทม. ขณะที่ รรท.ผบก.น.5 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ปมสังคมคลางแคลง “ชัชชาติ” เผยระบบเอไอตรวจพบ ก.ค.ที่ผ่านมา รถขนดินคันเกิดเหตุบรรทุกถึง 61 ตัน จ่อสุ่มตรวจไซต์ก่อสร้างทั่วกรุง คุมเข้มจุดเสี่ยง 879 แห่ง กทม.วางแผนล้อมคอกเร่งด่วน 3 ข้อจากเหตุระทึกกรุงเมื่อสายวันที่ 8 พ.ย. กรณีรถ 10 ล้อ ทะเบียน 83-7281 นนทบุรี ขนดินเต็มคันจากไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 64/1 ตกบ่ออุโมงค์สายไฟฟ้าสายสัญญาณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ทำจราจรติดขัดเกือบ 7 ชม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. รุดตรวจสอบระบุสาเหตุเบื้องต้นเพราะแผ่นปูนฝาบ่อปิดไม่เรียบ รถที่ขับผ่านลงน้ำหนักเรื่อยๆทำให้คานเหล็กหักโดยเชื่อว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกิน ต่อมาตรวจพบที่หน้ารถขนดินคันเกิดเหตุมีสติกเกอร์รูปดาวสีเขียวมีอักษรภาษาอังกฤษตัว B อยู่ตรงกลาง ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมาที่เกิดเหตุตั้งข้อสังเกตเรื่องการถ่ายเทดินซึ่งเป็นของกลางออกจากท้ายรถ สงสัยว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และอาจเป็นเครือข่ายส่วยสติกเกอร์ทางหลวง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
รรท.ผบก.น.5 ตั้ง คกก.สอบ
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 พ.ย. มีรายงานว่า พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 ลงนามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 348/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏข้อมูลว่ารถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุมีสติกเกอร์หน้ารถบรรทุกเป็นรูปดาวมีตัวอักษร B สีเขียว เกิดเป็นประเด็นที่เคลือบแคลงสงสัยต่อประชาชนโดยทั่วไปว่าเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์หรือไม่ ฉะนั้นเพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบมีพฤติการณ์ปล่อยปละละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ และจะมีมูลอันเป็นการกระทำความผิดทางวินัยตำรวจหรือไม่ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภพธร จิตติ์หมั่น รอง ผบก.น.5 เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.สุนทร ไชยรักษา ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.5 เป็นคณะกรรมการ พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร เป็นคณะกรรมการและเลขานุการ ให้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วเสนอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
คนขับรถดินเข้าให้ปากคำ พงส.
ส่วนความคืบหน้าทางคดี เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.พระโขนง นายศักดิ์มงคล หรือบอย ทาสะโก อายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ให้ปากคำ และปฏิเสธตอบคำถามกลุ่มสื่อมวลชนที่ว่ามีการชั่งน้ำหนักมาก่อนหรือไม่ พร้อมรีบเดินขึ้นไปชั้น 2 ตะโกนบอกสื่อมวลชนไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆอีก
“โจ๊ก” เผยแจ้งแล้ว 1 ข้อหา
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มาประชุมติดตามความคืบหน้าร่วมกับ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.โอภาศ หาญณรงค์ ผกก.สน.พระโขนง ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง ก่อน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะเผยว่า รถคันเกิดเหตุเป็นรถ 10 ล้อ มี 3 เพลา น้ำหนักต้องไม่เกิน 25 ตัน ถ้าตรวจสอบพบน้ำหนักเกินดำเนินคดีแน่นอน เบื้องต้นแจ้งข้อหา 1 ข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนทางแพ่งพนักงานสอบสวน จะเรียกผู้เสียหายทั้งหมดมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้รับเหมา
จ่อชั่ง นน.รถบรรทุกเข้ากรุง
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญลำดับแรกที่จะต้องดำเนินการคือการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกทั้งหมดที่เข้า กทม. กวดขันห้วงเวลารวมถึงเส้นทางการเดินรถแก้ปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ จะประสานกรมทางหลวงเอาตราชั่งออกมาตั้งในพื้นที่แต่ละ สน. รวมถึงหน้าไซต์งานก่อสร้างเพื่อตรวจน้ำหนักรถบรรทุกทุกคัน พร้อมเตรียมเชิญผู้ประ กอบการรถบรรทุก ทั้งหมดมาพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายรถบรรทุกด้วย
โวจะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า จะทำให้เป็นคดีตัวอย่างเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ตั้งแต่ดำเนินคดีคนขับไล่ย้อนไปถึงเจ้าของว่าคือใคร รู้น้ำหนักและวงรอบการวิ่งของรถไหม หากรู้เห็นเป็นใจจะดำเนินการเจ้าของด้วย ส่วนเหตุที่มีการขับรถบรรทุกที่ตักดินออกไปทั้งที่รู้ว่ามีน้ำหนักเกินนั้น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดร่วมกันและเรื่องสติกเกอร์ จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีหรือไม่ ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสติกเกอร์ “ตัว B” ที่ติดอยู่ด้านหน้ารถบรรทุก อย่างไร ก็ตาม ตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบงานในส่วนนี้ พบว่าที่ผ่านมาไม่มีการจับกุมรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมีเพียงแต่การจับกุมรถบรรทุกที่ทำของตกหล่นบนท้องถนนเท่านั้น จากนี้ไปจะดำเนินการอย่างจริงจัง ปล่อยไปไม่ได้อีกแล้ว
“โตโต้” จี้ตำรวจชั่ง นน.รถ
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ สน.พระโขนง นายปิยรัฐ จงเทพ สส.เขตพระโขนง-บางนา นายสราวุธ อนันต์ชล สก.เขตพระโขนง พรรคก้าวไกล มาติดตามความคืบหน้าจากตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องการชั่งน้ำหนัก เพราะเลยเวลามานานพอสมควรแล้วจากกำหนดเดิมที่จะชั่งในช่วง 14.00 น. โดย พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 ยืนยันและเต็มใจแก้ไขปัญหาเต็มที่และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ชั่งน้ำหนักมาที่ สน.พระโขนง ในอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงจะมาถึง กระทั่งเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง สำนักการโยธา เขตพระโขนง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานเขตพระโขนง ร่วมกันนำตาชั่งน้ำหนักลักษณะเป็นแผ่นรองวัดน้ำหนักจากบริเวณช่วงล้อรถบรรทุก 10 ล้อ ของกลางคันเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ใช้รถเครนเอกชนยกเพื่อให้ลอยขึ้น เนื่องจากรถดังกล่าวไม่สามารถสตาร์ตเครื่องได้ จากนั้นเริ่มชั่งจากล้อคู่หน้าและคู่กลางไปจนถึงคู่หลัง
สรุปหนัก 37.45 ตัน เกิน ก.ม. 12 ตัน
หลังดำเนินการเสร็จสิ้นนายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก.เขตพระโขนง กล่าวว่า ผลชั่งน้ำหนักช่วงล้อคู่หน้า นน. 5,100 กก. ส่วนเพลาล้อกลาง นน.16,400 กก.และเพลาคู่หลัง นน.15,950 ก.ก. รวมน้ำหนัก 37,450 กก. หรือ 37.45 ตัน ตามกฎหมายห้ามเกิน 25 ตัน นั่นคือบรรทุกน้ำหนักเกินมา 12 ตัน วันนี้ได้นำดินทั้งหมดที่นำไปทิ้งกลับมาใส่ที่เดิม ก่อนชั่ง เนื่องจากเมื่อวานนี้มีการบันทึกคลิปวิดีโอขณะที่นำไปทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีดินบางส่วนที่หล่นลงไปในท่อที่ยังไม่มีการนำมารวม หากรวมก็เกินไปมากกว่านี้ ส่วนการแจ้งข้อหาหรือการดำเนินคดีนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มในส่วนใดบ้าง
“บิ๊กต่อ” ลั่นรับส่วยจริงไม่เอาไว้
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลที่กำกับดูแลรับผิดชอบมีหน้าที่ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวแล้วว่าสติกเกอร์ที่หน้ารถบรรทุกเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาว่าตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ใดหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องสั่งการเพราะแบ่งหน้าที่กันแล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ แต่การกล่าวหาว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นส่วยสติกเกอร์ที่สังคมเรียกกันนั้นควรจะมีหลักฐาน หากกล่าวหาโดยเลื่อนลอยแม้จะเป็นการตั้งข้อสังเกตของสังคม แต่ทำให้องค์กรตำรวจหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม ยืนยันว่าหากตรวจสอบพบเป็นส่วยสติกเกอร์เรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจจริง ในฐานะ ผบ.ตร.จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่เอาไว้ แต่ปัจจุบันเรื่องยังไม่ชัดเจน ยังไม่ได้สั่งการประเด็นใดเป็นพิเศษ ยืนยันที่ผ่านมาเน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ตำรวจจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายใดๆทั้งสิ้น
แจ้งข้อหาขับรถประมาท–นน.เกิน
ด้าน พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 กล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ บก.น.5 ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ดำเนินการใน 2 ส่วนคือ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้โดยเฉพาะและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น ที่ตรวจสอบพบเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหา 2 คดี คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับอันตรายสาหัส และขับรถบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นแจ้งข้อหากับผู้ขับขี่ทั้ง 2 ข้อหาพยานหลักๆจะเป็นของกรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสนอให้ตรวจยึดรถของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด แต่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ส่วนกรณีที่มีการถ่ายเทน้ำมัน และดินออกนั้นเชื่อว่าไม่มีผลต่อการดำเนินคดีเนื่องจากสิ่งที่ต้องการอยู่ที่น้ำหนักเกินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รถสิบล้อคันดังกล่าวหลังเกิดเหตุได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง การที่จะทำอะไรต้องมาขออนุญาตพนักงานสอบสวนก่อน ทั้งนี้ จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป
“เสี่ยบิ๊ก” แจงสติกเกอร์ใช้ในไซต์งาน
พ.ต.อ.วิทวัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นอักษรตัว B หรือชื่อเล่นนายบิ๊กนั้น เป็นเจ้าของรถ จากการสอบถามนายบิ๊กแจ้งว่าเป็นสติกเกอร์ทำไว้ใช้ไซต์งานเพื่อขนดินออกจากไซต์งานจะต้องมีสติกเกอร์นี้เท่านั้น แต่ยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจะตรวจสอบว่ามีเสริมสติกเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ใดมีส่วนร่วมนั้นถือว่าเป็นตัวการร่วม และจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป
กทม.ชี้รถดินตกบ่อน่าจะหนัก 45 ตัน
ก่อนนี้เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการ กทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. และนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.แถลงความคืบหน้าเหตุรถสิบล้อบรรทุกดินทรุดลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง ซอยสุขุมวิท 64/1 คล้ายคลึงกับเหตุที่ราชปรารภว่า สาเหตุน่าจะมาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ คุณภาพการก่อสร้าง และรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ตามกฎหมายทางหลวง รถบรรทุกสิบล้อสามารถบรรทุกได้ 25 ตัน แต่รถคันที่เกิดเหตุคำนวณจากสายตาบรรทุกเกินถึง 45 ตัน ต้องรอการตรวจสอบจากตำรวจ
สั่งเทศกิจกวดขันจับส่งตำรวจ
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับน้ำหนักรถบรรทุกเป็นความรับผิดชอบของ กทม.ร่วมกับตำรวจ ปัจจุบัน พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 ให้ทางหลวงท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล กทม.จะเป็นผู้ออกกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น ฉบับลงวันที่ 31 มี.ค.65 เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหายหรือบนทางหลวงท้องถิ่นในเขตความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร โดยทั่วไปการกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกต้องเป็นเหมือนกันทุกท้องถิ่น แต่การบังคับใช้ที่ผ่านมา กทม.ไม่เคยชั่งน้ำหนักรถบรรทุกเพราะส่วนใหญ่ด่านชั่งน้ำหนักอยู่ในทางหลวงชนบท หลังจากนี้ กทม.จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจมีอำนาจจับกุม ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเพื่อฟ้องศาลต่อไป โดยผู้กระทำความผิดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
แฉ AI ตรวจพบ ก.ค.ขนหนัก 61 ตัน
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า กทม.อยู่ระหว่างศึกษาวิจัยนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกเรียกว่าระบบ Bridge Weight Motion จากการตรวจสอบในระบบดังกล่าวพบว่า รถคันที่เกิดเหตุบรรทุกน้ำหนัก 61 ตันเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อนาคตอาจใช้ระบบนี้บันทึกข้อมูลรถบรรทุกเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี คาดว่าจะสรุปผลวิจัยได้ภายใน 2 เดือนนี้ หลังจากนั้นจะใช้งบประมาณกลางในการจัดซื้อ ก่อนจะกระจายติดตั้งทั่ว กทม.ประมาณ 10 จุด
สั่งชั่ง นน.หน้าไซต์ก่อสร้างทั่วกรุง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะสั้น กทม.จะจับมือกับกรมทางหลวงนำเครื่องชั่งน้ำหนักแบบเคลื่อนที่มาติดตั้งที่สะพานใน กทม. หลังจากนั้นจะจัดหาเอง เมื่อเช้านี้สั่งการให้ตรวจสอบวัดน้ำหนัก 371 ไซต์ก่อสร้างที่มีการขุดดิน ส่วนใหญ่เป็นไซต์ของราชการ เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้านครหลวง เจ้าของโครงการ และผู้รับเหมาที่ได้รับการว่าจ้างต้องดำเนินการให้ได้ตามมาตรฐานด้วย ขณะที่งานก่อสร้างบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าทั่ว กทม. 879 แห่ง ต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน
กทม.เร่งล้อมคอก 3 ข้อ
ต่อมาเวลา 16.50 น. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาจากการก่อสร้างบนผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณูปโภคในกรุงเทพฯถึง 2 ครั้ง กทม.จะดูแล 3 เรื่องคือ 1.ควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกให้เข้มงวดขึ้น แม้จะยังไม่มีเครื่องชั่ง แต่สามารถสังเกตด้วยตาได้ ขอความร่วมมือไปยังทุกหน่วยงานให้เข้มงวดกับผู้รับจ้างขนดินและวัสดุก่อสร้าง หากมีข้อสงสัยต้องปรามและเร่งดำเนินการ 2.โครงสร้างรองรับชั่วคราว แม้จะมีการออกแบบให้รับน้ำหนักที่ปลอดภัย แต่การรับน้ำหนักที่มากเกินไป (Overload) เกิดขึ้นจริง ต้องทำโครงสร้างรองรับชั่วคราวให้มีส่วนเผื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety (MOS) ที่เพียงพอโดยเฉพาะจุดเสี่ยง 3.ปรับสภาพผิวจราจรให้เรียบ การไฟฟ้านครหลวงได้เรียกผู้ว่าจ้างให้ปรับปรุงฝาบ่อให้มีความเรียบและปลอดภัยมากขึ้น ปรับฝาบ่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของคานเหล็กในจุดเสี่ยงที่มีรถบรรทุกวิ่งผ่านจำนวนมาก
ห้ามรถหนักวิ่ง–เพิ่มเวลาก่อสร้าง
นายวิศณุกล่าวว่า นอกจากนี้ กทม.จะห้ามรถบรรทุกวิ่งในเส้นทางที่มีการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ Pipe Jacking ของสำนักการระบายน้ำ เช่น ถนนศรีอยุธยา โดยจะประสานกับตำรวจในการกวดขัน รวมถึงสะพานข้ามแยกที่เป็นสะพานเหล็กก็จะห้ามด้วยเช่นกัน รวมถึง กทม. เพิ่มเวลาการก่อสร้างบ่อพักบนถนนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะตามปกติจะก่อสร้างในเวลา 22.00-05.00 น. ทำให้ระยะเวลาการก่อสร้างมีเพียง 3-4 ชม. นอกนั้นเป็นเวลาการเตรียมงานและเก็บงาน
นายกฯสั่งบูรณาการแก้ปัญหา
อีกด้านหนึ่งที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยถึงปัญหาส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกว่า รับทราบปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน ต้องประสานกระทรวงคมนาคมและ กทม. รวมถึงกรมทางหลวงเข้าไปแก้ปัญหา เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ฟางเกิดเรื่องขึ้นมาค่อยแก้ไขปัญหา นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ เราให้ความสำคัญกับทุกปัญหา จะแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ ไม่อยากให้เกิดปัญหาแล้วมาแก้ พอแก้แล้วก็ลืม พยายามตอกย้ำไปตลอดเวลา
สหพันธ์ขนส่งฯแฉจ่ายส่วยจริง
ส่วนที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.เชิญนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ในฐานะอนุกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องส่วย มาหารือกรณีรถบรรทุกตกถนนที่ซอยสุขุมวิท 64/1 กทม. นายอภิชาติให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า กรณีดังกล่าวเป็นผลมาจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน หน้ารถมีสติกเกอร์รูปดาวสีเขียวติดอยู่ ยืนยันเป็นรถที่จ่ายส่วยเพื่อวิ่งนอกเวลาน้ำหนักเกินแน่นอน ต้องจ่ายหลายหน่วยงาน ทำไมเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย และอุบัติภัยไม่เข้าไปดำเนินการ แต่ให้เจ้าของรถดำเนินการเอง อ้างรถมีมูลค่าหลายล้านบาท ทั้งที่ถนนที่รถบรรทุกทำพังก็มีมูลค่าหลายล้านบาทเช่นกัน
ทั้งนี้ สติกเกอร์รูปดาวสีเขียวตัวบีติดอยู่เป็นสติกเกอร์สำหรับรถบรรทุกขนวัสดุขนดินในไซต์งานก่อสร้างเข้าออก กทม. ส่วนสติกเกอร์ “เสี่ยบิ๊ก” ที่ติดอยู่บนรถบรรทุกคันเกิดเหตุเป็นใครไม่รู้จัก แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงรู้ว่าเจ้าของเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่
ปูดอีกมีส่วยบาร์โค้ด
เมื่อถามว่าเป็นบริษัทเดียวกับกรณีที่เคยเกิดเหตุที่แยกมักกะสันหรือไม่ นายอภิชาติกล่าวว่า รถสีเดียวกัน แต่รถคันแรกที่มักกะสันทำไมตรวจจับไม่ได้ ใน กทม.ยังกล้าแล้วต่างจังหวัดจะรุนแรงขนาดไหน รัฐบาลต้องดูแลถนนใช้งบมหาศาล แต่มีพวกอภิสิทธิ์จ่ายเงินไม่กี่แสนบาท จบงานก็ย้ายไปที่อื่นไปเคลียร์จุดอื่น คนเคลียร์อาจเป็นบัญชีม้า คนให้กับคนรับเขารู้กัน มองว่าเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุไปบริการยกกรวย ต้องมีการตรวจสอบ เชื่อว่าเรื่องนี้ยาวแน่ ไม่ใช่ EP.เดียว จนถึงตอนนี้ปัญหายังมีอยู่ แต่ไม่ใช่รูปแบบส่วยสติกเกอร์ อาจเป็นการใช้บาร์โค้ด
“โตโต้” ยันตำรวจบอก B คือ “บิ๊ก”
ขณะที่นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล โฆษก กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า เท่าที่สอบถาม ผกก.สน.พระโขนง ยืนยันว่ายังไม่ปรากฏเหตุเรียกรับสินบนหรือส่วย แต่มีการตั้งคำถามว่าตัวอักษรบีสีเขียวหมายความว่าอย่างไร ได้รับคำชี้แจงว่าเป็นตัวอักษรย่อจากชื่อบิ๊ก เป็นเจ้าของบริษัทผู้รับเหมารถบรรทุกรายนี้มีประมาณ 4-5 คัน ในพื้นที่พระโขนงที่มีสติกเกอร์ดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าในเขตพื้นที่อื่นมีเท่าใดพยายามติดตามเข้าไปในไซต์งานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นกระบวนการทอยดินถ่ายดินออกจากที่เกิดเหตุ ใส่รถบรรทุกที่สำรองไว้เพื่อชั่งน้ำหนักพร้อมกัน แต่ท้ายสุดเจ้าหน้าที่พยายามขับรถไปที่ไซต์งานก่อสร้าง พยายามตะโกนเรียกแต่ไม่มีใครฟัง โชคดีวิศวกรในไซต์งานรู้สึกไม่ชอบมาพากลยังพอเก็บตัวอย่างดินกลับมาได้ แต่ยังไม่มีการชั่งน้ำหนัก ไม่อยากปรักปรำเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่มีหลักฐาน กมธ.ความมั่นคงฯจะเข้าพบ ผบ.ตร.วันที่ 13 พ.ย. จะถือโอกาสนี้สอบถามกรณีดังกล่าวโดยตรง
“วิโรจน์” จี้ถาม “เสี่ยบิ๊ก” คือใคร
ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการชี้แจงเรื่องสติกเกอร์เป็นสัญลักษณ์บริษัทรับเหมาว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น การติดสติกเกอร์ลักษณะนี้เอาไว้ให้ใครสักคนที่เตี๊ยมไว้มองเห็นมากกว่า ต้องตั้งคำถามถึง ผกก.สน.พระโขนง และ ผบก.น.5 ว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นระดับไหน มีจ่ายส่วยหรือไม่ บางคนบอกว่าย่อมาจาก “เสี่ยบิ๊ก” ต้องตั้งคำถาม “เสี่ยบิ๊ก” คือใคร
ทำไมปล่อยให้นำดินไปเททิ้ง
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ กทม.และตำรวจดูจะเกรงใจผู้รับเหมา นายวิโรจน์กล่าวว่า เข้าใจว่ามีการบ่ายเบี่ยงไม่ยอมชั่งน้ำหนัก ถ้าตำรวจไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ผบ.ตร.ควรพิจารณาหาคนที่เหมาะสมกว่านี้มาทำงานแทน ปล่อยให้นำดินไปเทที่ไซต์งานได้อย่างไร จะทิ้งประเด็นเรื่องสติกเกอร์ไม่ได้ เป็นเรื่องน่าเศร้าใจมาก เพราะเคยเกิดกรณีนายตำรวจเสียชีวิต 2 นาย เกี่ยวข้องโยงใยถึงส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก แต่ไม่เรียนรู้บทเรียน ถ้ายังมีเรื่องส่วยอยู่ถือว่าไม่รักศักดิ์ศรีตำรวจจริงๆ ต้องเอาผิดกับตำรวจที่เปิดกรวยให้นำดินไปทิ้งในไซต์งาน
ให้ กฟน.ดูแลแท็กซี่ที่เสียหาย
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า เมื่อเช้า ผกก.สน.พระโขนงบอกว่ายังไม่มีการจับกุมเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่ประชาชนเห็นรถบรรทุกลักษณะนี้คลุมผ้าใบเข้ามาในพื้นที่ กทม.ก่อนเวลา หรือในเวลากลางคืนยังมีให้เห็น เข้าใจว่าเร่งรัดการก่อสร้างหลังสถานการณ์โควิด-19 แต่กฎหมายและความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่พักอาศัยก็มีความสำคัญ เมื่อวานนี้มีเรื่องน่าเสียใจที่คนขับแท็กซี่ขับมาดีๆชนแผ่นคอนกรีตที่กระดกขึ้นมา คำถามคือใครจะรับผิดชอบ เรียกร้องให้ กฟน.รับผิดชอบก่อน หากรถบรรทุกน้ำหนักเกินจริงก็ต้องไปไล่บี้ อย่าปล่อยให้รถแท็กซี่ที่ไม่รู้เรื่องไปฟ้องเอาเอง
ซัดจำเป็นต้องปฏิรูปตำรวจ
สส.บัญชีรายชื่อก้าวไกลจอมแฉส่วยเผยต่อว่า เป็นความจำเป็นที่ต้องมีการปฏิรูปตำรวจ แต่พอพูดถึงคำว่าปฏิรูปตำรวจทีไร นายกฯก็บอกว่าให้แก้ไปทีละเรื่อง อย่าใช้คำว่าปฏิรูป คำว่าสังคายนาก็พูดไม่ได้ ต้องส่งสารไปถึงนายกฯด้วยความหวังดี การจะรักษาโรคอะไร จุดเริ่มต้นต้องยอมรับก่อนว่าเราป่วยจริง ต้องหาหมอให้ถูกโรค วันนี้ไม่ใช่เรื่องน้ำหนักเกิน แต่เป็นปัญหาที่แวดวงตำรวจถูกตั้งข้อสงสัย และขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจากภาคประชาชน
ชัยชนะ ปชป.ชี้เป็นส่วยระยะสั้น
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เท่าที่ทราบจากข่าวมีการยอมรับจากประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยว่า สติกเกอร์รูปดาว มีอักษรตัว B เป็นส่วยสติกเกอร์จริง แต่เป็นส่วยระยะสั้น 10 วันเคลียร์ครั้งหนึ่ง กมธ.ฯจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เช่น ตำรวจทางหลวง กรมทางหลวง ตำรวจท้องที่