เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า จุดผ่านแดนราฟาห์ที่ติดกับอียิปต์ เปิดให้ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 20 คันแรกเข้าไปในฉนวนกาซาแล้ว

มาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าการส่งมอบครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามที่ยั่งยืนในการจัดหาสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนในฉนวนกาซา” และเตือนอย่างแข็งกร้าวว่า “ขบวนรถนี้จะต้องไม่ใช่ขบวนสุดท้าย”

การส่งมอบดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเกิดขึ้นตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อนระหว่างอิสราเอลและฮามาส

ราฟาห์เป็นเส้นทางเดียวสู่ฉนวนกาซาที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยอิสราเอล ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันให้ใช้เพื่อส่งความช่วยเหลือผ่านทางดินแดนอียิปต์

อย่างไรก็ตาม จุดผ่านแดนราฟาห์ก็ถูกปิดอีกครั้งหลังขบวนรถของสภาเสี้ยววงเดือนแดงอียิปต์ซึ่งมีหน้าที่จัดส่งความช่วยเหลือรวมถึงอาหารและเวชภัณฑ์จากหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ เดินทางออกไปยังฉนวนกาซาได้สำเร็จ

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยกย่องความช่วยเหลือดังกล่าวว่าเป็น “ก้าวแรกที่สำคัญในการบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้บริสุทธิ์”

อิสราเอลทิ้งระเบิดฉนวนกาซานับตั้งแต่การโจมตีนองเลือดของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และยังได้ประกาศปิดล้อมทั้งหมด โดยตัดน้ำ, อาหาร, ไฟฟ้า, เชื้อเพลิง และเสบียงอื่นๆ

กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลจากฉนวนกาซาและสังหารผู้คนอย่างน้อย 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิงหรือถูกเผาจนตายในวันแรกของการโจมตี ตามการระบุของเจ้าหน้าที่อิสราเอล

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวปาเลสไตน์กว่า 4,385 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน ถูกสังหารในการทิ้งระเบิดของอิสราเอลอย่างไม่ลดละ ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสในกาซา

ทั้งนี้ เครื่องบินขนส่งสินค้าและรถบรรทุกได้นำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมืองราฟาห์ฝั่งอียิปต์มาหลายวันแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการส่งมอบไปยังฉนวนกาซาเลย

เมื่อวันศุกร์ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางเยือนจุดผ่านแดนฝั่งอียิปต์ เพื่อดูแลการเตรียมการส่งความช่วยเหลือ

“รถบรรทุกเหล่านี้ไม่ใช่แค่รถบรรทุกเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องช่วยชีวิต” เขากล่าว และเสริมว่า “สิ่งเหล่านี้คือความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตายสำหรับคนจำนวนมากในฉนวนกาซา”

ผู้นำสหประชาชาติกล่าวว่า ความช่วยเหลือจะต้องดำเนินการอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่ขบวนรถขบวนเดียวข้ามไป แต่ต้องมากเพียงพอที่จะให้การสนับสนุนประชาชนในฉนวนกาซาทั้งหมด และวิงวอนทุกฝ่ายไม่ให้ใช้ความช่วยเหลือด้านมุนษยธรรมเป็นเครื่องต่อรองใดๆ

โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติระบุว่า ขบวนรถดังกล่าวบรรทุกอาหารน้ำหนัก 60 ตัน ซึ่งรวมถึงทูน่ากระป๋อง, แป้งสาลี, พาสต้า, ถั่วกระป๋อง และมะเขือเทศกระป๋อง

ขณะที่องค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติระบุว่า ได้ส่งเวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงยารักษาผู้ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ, ยาพื้นฐานที่จำเป็น และยาสำหรับการรักษาโรคเรื้อรัง

อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นสำหรับพลเรือน แต่อิสราเอลยังไม่ยอมให้มีการส่งมอบไปยังฉนวนกาซา เพราะเกรงว่ากลุ่มฮามาสอาจแย่งชิงเชื้อเพลิงดังกล่าวไปใช้ผลิตอาวุธและวัตถุระเบิด

รถบรรทุก 20 คันแรกถือเป็นการทดสอบระบบในการแจกจ่ายความช่วยเหลือโดยไม่ให้กลุ่มฮามาสได้รับประโยชน์ หากประสบผลสำเร็จด้วยดี หน่วยงานของสหประชาชาติเตรียมจะแจกจ่ายความช่วยเหลือบริเวณชายแดนฝั่งฉนวนกาซาต่อไป.